ภาพจากนายอินทร์
ภรรยาซอมบี้นัมเบอร์วัน เล่ม 1
ผู้แต่ง จินหยวนเป่า
ผู้แปล สุ่ยจิ้ง
ภาพปก Juhaihai
ภาพประกอบในเล่ม Mathurin
สำนักพิมพ์ inktreebook
เรื่องย่อ
มู่อี้ฟาน ทะลุมิติเข้ามาเป็นตัวร้ายในนิยายของตัวเอง
ซึ่งอนาคตอันใกล้นี้เขาจะพัฒนาเป็นลาสบอส “ราชาซอมบี้มู่อี้ฟาน”
เพื่อไม่ให้ตัวเองมีจุดจบเป็นการตายด้วยน้ำมือ จ้านเป่ยเทียน
ท่านพระเอกที่กำลังจะตายในอนาคตและวิญญาณบินมาเข้าร่างในปัจจุบัน
เขาต้องลงมือกำจัดพระเอกก่อน ! อย่างน้อยกลับโลกเดิมไม่ได้ เขาก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป
ทว่าเมื่อไปทำตามแผน ทุกอย่างกลับสะดุดเพราะใบหน้าที่คุ้นเคยของท่านพระเอก !
บ้าไปแล้ว เขาคนเขียนเนี่ยแหละบ้า เขียนพระเอกออกมาเป็นแบบนี้แล้วเขาจะกำจัดลงได้ยังไง
!!!
พื้นที่สปอยล์เล่มหนึ่ง
ภรรยาซอมบี้นัมเบอร์วัน แบบเล็กน้อยถึงปานกลาง
<<
ไปที่นี่ได้เลยค่ะ
ส่วนท่านที่สนใจการเล่าแบบทั้งเล่ม
//กวักมือ// มาค่ะ เชิญทางนี้ คุกกี้พร้อมไหมคะ ซื้อชามาหรือยัง อาจจะยาวสักหน่อย
และขอย้ำอีกครั้งว่าใน สวนหนังสือสิบสองนาทีจะเป็นการสปอยล์ฉบับเต็มค่ะ
ซึ่งเรียกได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ลงในนี้แบบยังไม่จบ
แต่เห็นเรื่องอีกยาวไกล เลยขอเมมเก็บไว้อ่านเองส่วนหนึ่งด้วยค่ะ
ทบทวนสั้น ๆ ก่อนขึ้นกฎข้อสาม
มู่อี้ฟาน นายเอกของเรื่องได้หลุดเข้ามาในนิยายที่ตัวเองเขียน
เขาตัดสินใจไปกำจัดพระเอกทิ้งแต่ดันเข้าไปรับกระสุนแทนจนพระเอกรอดจากการเป็นเจ้าชายนิทรา
ไม่พอ เขายังแบกเจ้าตัวกลับบ้าน แต่สุดท้ายก็ยังลงมือกำจัดไม่ลง
จนพระเอกในอนาคตมาเข้าร่างพระเอกในปัจจุบัน เขาเลยเปลี่ยนแผนการเป็นสานสัมพันธ์กับอีกฝ่าย
รั้งให้อยู่ด้วยกัน เพื่อที่จะหาโอกาสกำจัดอีกที (จ้า หวังว่าจะทำได้นะ)
จ้านเป่ยเทียน ท่านพระเอกที่ตามเนื้อเรื่องเดิม
เขาในปัจจุบันจะถูกลอบยิงจนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ขณะเดียวกันเขาในอนาคตจะถูกราชาซอมบี้มู่อี้ฟานฆ่าตายจนวิญญาณมาเข้าร่างปัจจุบัน
ซึ่งเป็นเวลาก่อนเกิดเหตุวันสิ้นโลกหนึ่งเดือนและในครั้งนี้จะทำให้เขาสามารถเตรียมการต่าง
ๆ รับมือกับวันสิ้นโลกได้ทัน
รวมไปถึงนำพลังพิเศษติดตัวมาใช้สู้กับราชาซอมบี้ได้เนิ่น ๆ ด้วย
ทว่าเขาในตอนนี้ฟื้นมากลับไม่ใข่ที่โรงพยาบาล
ซึ่งรักษาตัวหลังโดนยิง แต่เป็นในวิลล่าหลังหนึ่งของคนชื่อ มู่มู่
ซึ่งอ้างว่าซวยโดนยิงแทนเขา และต้องการให้เขาอยู่ดูแล
เมื่อความทรงจำใหม่พุดขึ้นมายืนยันคำพูดอีกฝ่าย
เขาจึงรั้งอยู่หาข่าวและความเปลี่ยนแปลงจากโลกที่จากมาสักพักสั้น ๆ ...
ถ้าพลังพิเศษของเขาไม่ก่อเรื่องเสียก่อนล่ะก็นะ
ว่าด้วย กฎข้อที่สามของนิยายทะลุมิติ
– จำต้องมีเหตุบังเอิญให้ได้สานสัมพันธ์
อนึ่งขอเพิ่มเติมข้อมูลสักเล็กน้อย
ร่างตัวร้ายของนายเอกความจริงป่วยเป็นมะเร็งกระดูกค่ะ ถ้ารักษาดี ๆ ก็รักษาได้ แต่น้องชายต่างแม่กลับวางยาเขาเร่งระยะมะเร็งให้เข้าขั้นสุดท้ายเร็วขึ้น
แต่ยาตัวนั้นความจริงกลับเป็นไวรัสซอมบี้ ทำให้นายเอกค่อย ๆ กลายเป็นศพ
ซึ่งพอมู่อี้ฟานเข้าร่างมาก็เหลือเวลาแค่หนึ่งเดือนก่อนกลายร่างแล้ว
พระเอกที่ฟื้นมายังปัจจุบัน
เขาก็พบว่านี่เป็นช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุวันสิ้นโลกหนึ่งเดือน
และตัวเขายังมีพลังพิเศษติดตัวมาด้วย นั่นคือลูกปัดแดงที่เชื่อมต่อกับมิติส่วนตัว
***
***(เป็นพื้นที่ในอีกมิติขนาดประมาณหนึ่ง
บางเรื่องจะเล่าว่าความกว้างใหญ่ขึ้นกับพลังทางวิญญาณของเจ้าของ
มักปรากฏในนิยายเทพเซียน ไม่เป็นปานติดตัวก็ของเครื่องใช้ //
นึกถึงกระเป๋าโดเรมอนก็ได้ค่ะ แต่มีพื้นที่จริง ๆ เช่นเป็นพื้นที่ป่า พื้นน้ำตก
เป็นต้น // สำหรับเรื่องนี้เป็นลูกปัดสีแดงค่ะ)
เมื่อกลับมาก่อนกาลบวกกับพลังพิเศษแบบนี้
พระเอกก็ไม่รอช้าวางแผนตุนของและรวบรวมคนสนิท ขณะเดียวกันก็ทำอาหารดูแลนายเอก
(แบบไม่ใส่ใจเท่าไรกินได้ก็พอ) แต่ระหว่างทำอาหาร
ตรวจสอบพลังของตัวเองไปด้วยนี่แหละค่ะ ทำให้เกิดเรื่อง
เจ้าลูกปัดแดงของพระเอกดันวิ่งออกจากมือพระเอกอย่างควบคุมไม่อยู่ เข้าปากนายเอกแล้วลงท้องไปเฉย
ๆ ทีนี้ล่ะค่ะ พระเอกถึงกับหน้าทะมึน สั่งนายเอกไปล้วงคออ้วกออกมาให้เขา
แต่นายเอกก็ต่อรองว่าของแบบนี้มันยังไม่ย่อย ถ้ามันจะออกจริง ๆ
น่าจะต้องรอถ่ายท้องตอนเช้า จะขุ้ยออกมาให้ (พ่อคูนนนน)
ยามเช้ามาถึง
นอกจากหาไม่เจอนายเอกดันอ้วกแล้วอ้วกอีกจนเป็นลมคาห้องน้ำ พระเอกที่ตอนแรกไม่สนใจ เริ่มเห็นว่าผิดปกติเลยแบกเขาไปโรงพยาบาล
... และค่ะ ตะลึงกันทั้งโรง พบเด็กอายุสามเดือนในท้องของนายเอก
หมออัศจรรย์ใจกันมาก ไม่มีมดลูกเด็กโตได้ยังไง ส่วนนายเอกไม่เชื่อ
หมอน่าจะตรวจผิดพลาด เพราะมองว่านี่เป็นโรงบาลเล็ก ๆ อาจจะมองอะไรผิดไป
ส่วนทางพระเอกเริ่มเอะใจว่าน่าจะเป็นเพราะลูกปัดแดงของตัวเอง
คราวนี้พอพากันกลับบ้าน
นายเอกก็เริ่มนอนเก่ง และกินได้น้อย มีอ้วกเป็นบางครั้ง จนหลัง ๆ
เจ้าตัวเริ่มนอนยาวแบบไม่ตื่น
ถ้าพระเอกไม่ปลุกก็คือยิ่งยันเย็นไม่ได้ทานข้าวทานปลา พระเอกที่ยุ่ง ๆ
กับการเตรียมการตอนแรกก็ไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่าเป็นอาการของลูกปัดแดง แต่ไป ๆ มา ๆ
เขาเริ่มสังเกตการนอนที่ผิดปกติ กับการกินที่มากกว่าคนปกติถึงสามเท่า
สุดท้ายทนไม่ไหวค่ะ นัดเพื่อนที่เป็นหมอทหารขอให้อันตร้าซาวเช็กให้อีกที
คราวนี้พระเอกเห็นกับตาทันทีว่ามีเด็กในท้อง ลูกปัดแดงของเขากลายเป็นทารกไปแล้ว !
เพื่อนพระเอกตาวาวกับการค้นพบนี้
เขาอยากพานายเอกเข้าแลปมาก ๆ เลยถามหาพ่อเด็ก แต่พอเห็นพระเอกอ้ำอึ้งเลยยิ้มค้าง
... คุณเพื่อนนั่นลูกนายเองเรอะ
พระเอกคิดกับตัวเองว่าปกติลูกปัดแดงต้องหล่อเลี้ยงด้วยเลือดเขาอยู่ตลอด
ถ้าถามว่าเด็กเป็นลูกใคร จะให้ตอบว่าไม่ใช่เขาก็ไม่ถูก เลยสตั้นไปนั่นเองค่ะ
5555555 ส่วนทางนายเอกที่หลับตลอดเวลา
โดนพระเอกอุ้มไปอุ้มมาในที่สุดก็ตื่นมาถามพระเอกว่าตกลงตัวเองป่วยเป็นอะไร
พระเอกไม่รู้กลัวนายเอกเอาเด็กออกหรือกลัวช็อคอะไรยังไง เลยโกหกไปว่า
“นายแค่ท้องอืด” //เรานี่ขำออกมาเลย
แน่นอนว่านายเอกเชื่อจริง
ๆ ค่ะ ส่วนทางพระเอกเลยต้องลงมือระมัดระวังให้นายเอก
เขาขอหนังสือดูแลคนตั้งครรภ์มาศึกษา เปิดตำราทำอาหารจนมีดบาดนิ้ว
ซึ่งนายเอกชอบอาหารฝีมือพระเอกมากกกกก ตอนเขาชมออกมาโดยไม่รู้ว่าพระเอกทำ
พระเอกถึงกับยิ้มนิด ๆ เลยค่ะ จากนั้นนายเอกก็จะถูกพระเอกกำกับหลายอย่าง
เช่นห้ามลืมกินยา (บำรุงครรภ์) อย่าวิ่งขึ้นลงบันได อย่าแขม่วท้อง
และห้ามดื่นเหล้า ! นายเอกงงอยู่บ้างแต่เพื่อนสานสัมพันธ์อันดีกับพระเอกเลยเชื่อฟัง
ส่วนของกินที่โดนห้ามก็คือแอบกินเอาตอนพระเอกไม่รู้ (นายคิดว่าเขาไม่รู้จริง ๆ
เรอะ)
กฎข้อที่สี่ของนิยายทะลุมิติ –
สุดท้ายอีเว้นต์ของตัวร้ายไม่เคยหนี้พ้นหรอกนะ
ถึงอย่างไรก็ตามนายเอกก็ยังกลายเป็นซอมบี้ขึ้นทุกวัน
ยิ่งพระเอกอยากรักษามะเร็งกระดูกของนายเอกให้หายด้วยน้ำทิพย์ในมิติของเขา
ยิ่งทำให้นายเอกกลายเป็นซอมบี้เร็วขึ้น นายเอกเริ่มต้องติดเล็บปลอมไม่ให้พระเอกเห็น
เขาเริ่มขยับได้ช้าลง เริ่มได้กลิ่นหอมจากตัวคนแล้วอยากกัด เริ่มเสียงแหบหายจนแทบจนพูดไม่ได้
นายเอกรู้ว่าเวลาใกล้เข้ามาแล้ว และเขาตัดใจกำจัดพระเอกไม่ได้จริง ๆ
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโลกจริงอยู่ด้วย
เพราะหน้าตาตัวละครหลายตัวเหมือนคนรอบตัวของนายเอกในโลกแห่งความจริง อย่างพระเอก
ถอดแบบหน้าตาทุกอย่างมาจากเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งวันก่อนที่นายเอกจะทะลุมิติมา
พวกเขาทะเลาะกัน เพราะจ้านเป่ยเทียนในโลกจริงกำลังจะแต่งงานกับญาติผู้พี่ของเขา
อีกฝ่ายมาบอกและถามเขาว่า นอกจากคำว่ายินดีด้วย นายไม่มีอะไรจะพูดอีกเหรอ นายเอกไม่เข้าใจสิ่งที่เพื่อนต้องการจะสื่อ
สุดท้ายอีกฝ่ายก็โกรธและเดินจากไป
พอมาโลกนี้
เป็นตัวร้ายไม่มีเพื่อน คนที่ควรสนิทก็ดันอยู่ฝ่ายตรงข้ามหมด
หลายครั้งนายเอกอยากระบายกับใครสักคน และหลายครั้งก็หลุดกอดพระเอกเพราะคิดว่าเป็นเพื่อนตัวเอง
ตอนเจ้าตัวมึน ๆ จากตื่นนอน แต่หลังจากดูแลกันมาหนึ่งเดือน
พระเอกในนิยายคนนี้ดีกับเขามาก ต่อให้อีกฝ่ายไม่เหมือนเพื่อนเขา
เขาก็ตัดใจลงมือกำจัดไม่ลงอยู่ดี
ดังนั้นเมื่อร่างกายถึงขีดจำกัด
แม้แต่ถือโทรศัพท์ก็จับไม่อยู่
นายเอกจึงตัดสินใจทิ้งจดหมายตอนยังเขียนได้และมีสติบอกลาพระเอก
และหนีไประหว่างพระเอกออกไปทำภารกิจ 5 วัน
(พร้อมลูกในท้องที่เจ้าตัวคิดว่าเป็นแค่ลูกปัดแดงไม่ใช่เด็ก) คราวนี้ล่ะค่ะ
พายุหิมะถล่มกลุ่มลูกน้องพระเอก พี่สะใภ้หาย 5555555
ต้องยอมรับว่าฉากนายเอกจากไปเป็นหนึ่งในฉากที่เราชอบค่ะ การที่คน ๆ
หนึ่งกำลังไม่ใช่คน
และเพื่อปกป้องคนรอบตัวและปกป้องตัวเองจากความรู้สึกไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป
เลยเลือกที่จะขังตัวเองไว้สักที่เพื่อไม่ให้ทำร้ายใคร ... สเต็ปใช่แนวเรามากเลยค่ะ ขยี้พระเอกที่ติดนิสัยชอบละเลยอะไรบ้างอย่างดีด้วย
(จะได้รู้สักทีว่าเขาสำคัญกับตัวเองงง)
และความโป๊ะของนายเอกที่คิดว่าจะรอดจากสายตาพระเอกที่ดูแลตัวเองมาเกือบเดือนได้นี่...น่าเอ็นดูมากกกก
ความจริงมีปมหนึ่งเราลืมเล่าค่ะ
ตามเนื้อเรื่องเดิมตัวร้ายมู่อี้ฟานไม่ถูกกับพระเอกตั้งแต่ตอนยังเป็นคนค่ะ
เขาเป็นลูกน้องของพระเอกที่อิจฉาในความเก่ง เลยชอบหาเรื่องให้พระเอกกับคนอื่น ๆ
ตกอยู่ในอันตรายเลยเป็นที่ไม่ชอบหน้าของคนในหน่วยค่ะ และอีกหนึ่งปมคือ
พระเอกจำหน้าราชาซอมบี้มู่อี้ฟานที่ฆ่าลูกน้องของเขาและตัวเขาได้อย่างดี
ดังนั้นตลอดเรื่องนายเอกเลยต้องปกปิดหน้าตา และเปลี่ยนชื่อเป็น “มู่มู่”
ในเล่มแรกเลยมีเรื่องให้ลุ้นและติดตามเยอะเลยค่ะ
ภรรยาซอมบี้นัมเบอร์วัน เล่ม 1 ถ้าพูดถึงเนื้อเรื่องเราให้คะแนนน่าติดตามต่อที่ 8 คะแนนค่ะ
เป็นแนวที่ชอบส่วนตัวด้วยแหละค่ะ ทะลุมิติ มีเด็ก (ในท้อง)
มีการสานสัมพันธ์ค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้ ตัวละครประกอบเฮฮาและมีปริศนาน่าสนใจ
แนวใครทางใครลองดูนะคะ แต่ถ้าคิดว่าใช่ แน่ ๆ แล้ว อยากแนะนำให้รอเก็บอ่านรวดค่ะ
... แบบว่า...ค้างอะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น