วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2562

รีวิว เจิ้นก็ยังคงสง่าผ่าเผยอย่างนี้แหละ (ฉบับเต็ม)




         ภาพจาก Samsenbook


เจิ้นก็ยังคงสง่าผ่าเผยอย่างนี้แหละ
ผู้แต่ง ถงจื่อจั้น
ผู้แปล ไช่ฉิง
สำนักพิมพ์ ROSE PUBLISHING
เรื่องย่อ
                “...หลังกลับมาเกิดใหม่เราเลยรู้สึกกลัวอยู่บ้าง มหาเสนาบดีของเราติดนิสับชอบเขียนจดหมายรักเป็นงานอดิเรก ไม่เพียงชอบเขียน แต่ยังชอบส่งจดหมายรักพวกนั้นมาให้เราอ่านอีกต่างหาก ส่วนแม่ทัพใหญ่ของเรานั้น พอมีเวลาว่างหน่อยก็ต้องเข้าวังพร้อมถือของแทนใจชิ้นหนึ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน มาเรียกร้องให่เรารับผิดชอบ แต่น่ากลัวที่สุดก็คือท่านราชครู กลางค่ำกลางคืนชอบดอดมาที่ห้องบรรทมของเรา แล้วชวนเราถกเรื่อง ศิลปะในห้องหอ เราว่าโลกนี้ท่าทางจะวิปลาสไปเสียแล้ว โชคดีที่พอกลับมาเกิดใหม่ เราก็ยังคงสง่าผ่าเผยแบบนี้ แต่เตียงบรรทมมังกรของเรามันรับน้ำหนักมาก ๆ ไม่ค่อยได้นะ!

พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์
                เราทำการทลายไหดองอย่างงง ๆ เรื่องนี้ซื้อมาไว้นานมาก พอบทจะอ่านก็รวดเดียวจบ และก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มีธีมหลักอยู่ที่ การหาจุดสิ้นสุดของการย้อนเวลากลับมามีชีวิตซ้ำ ๆ ของเยียนจี้ นายเอกผู้เป็นหวงตี้ของต้าฉี่ โดยมีคำบอกใบ้ให้เรา และนายเอกขบคิดเป็นทางออกว่า “ ทุกสิ่งล้วนเกิดด้วยกรรม สำเร็จด้วยใจ ทำลายด้วยใจ จองจำด้วยใจ เป็นไทด้วยใจ ”
            วงจรการย้อนกลับมาชีวิตซ้ำ ๆ ของเยียนจี้มันเกิดขึ้นในชาติแรก เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาที่ตายตอนออกไปซื้อของแล้วมาเกิดใหม่ในชาติที่สองเป็นหวงตี้แห่งต้าฉี่ แต่เพราะปกครองบ้านเมืองไม่เป็นสุดท้ายก็โดยต่างเมืองบุกยึด และ ตายไปท่ามกลางกองเพลิง ชาติที่สามกลับมาใหม่เขาคิดว่าตัวเองพอจะปกครองได้ดีขึ้น แต่กลับไว้ใจคนผิดสุดท้ายโดนวางยาพิษตาย ชาติที่สี่เขากลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ กลับมาเพื่อการแก้แค้น เขาวางแผนสังหารคนที่หลอกให้เขาไว้ใจในชาติก่อน และออกรบบุกเก้าแคว้นล้างแค้นเจ้าแคว้นที่เผาทำลายเมืองเขาจนสิ้นในชาติที่ผ่านมาให้ตายด้วยปลายดาบของเขา...
               เรื่องเริ่มที่ตรงนี้ค่ะ หลังชาติที่สี่เยียนจี้แก้แค้นสำเร็จ บ้านเมืองสงบสุขอย่างยิ่ง แต่ตัวเขาก็กลับป่วย และตายลง เวียนกลับมาในชาติที่ห้า หลังคิดด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมตนยังกลับมาเกิดอีกทั้ง ๆ ที่บ้านเมืองสงบสุขแล้ว เขาก็เกิดคิดขึ้นได้ว่าตั้งแต่ชาติแรกจนถึงชาติที่สี่ เขาตายในวันเกิดทั้งสิ้น ดังนั้นเขาจึงคิดหาวิธีแก้
                ชาติที่ห้าเยียนจี้ของเราเปลี่ยนบุคลิกตัวเอง อาจเพราะก่อนตายเขาฝันเห็นตัวเองในวัยเด็กสมัยยังยิ้มสดใส มาครั้งนี้เขาจึงผ่อนตัวเองให้กลายเป็นเหมือนยามนั้น ทว่าจิตใจที่เวียนเกิดมาจนอายุจริงเกือบร้อยปีไม่ได้ลดความเจ้าเล่ห์ลงเลย เมื่อต้องกลับมาเกิดในวัย 16 ปีที่พึ่งนั่งบัลลังก์มังกร เขาก็ยิ้มใสซื่อจัดการวางคนไว้ใจในชาติก่อนมาอยู่ข้างกายทันที 
            หนึ่งคือท่านราชครู เซี่ยเหวินจั๋ว ชาติก่อนเป็นที่ปรึกษาเคียงข้างเยียนจี้ เป็นคนที่ไว้ใจได้ขนาดที่เขาสามารถยกเมืองให้ดูแล ขณะที่ตัวเองออกไปรบ และฝากฝังให้หาหวงตี้องค์ใหม่ก่อนตัวเองสิ้นลม 
             สองคือท่านมหาเสนาบดีฟู่จือหวาย เพื่อนร่วมซนสมัยเด็ก ซึ่งสองชาติที่บ้านเมืองล่มสลาย ทิ้งภาพความตายตรึงใจเยียนจี้เอาไว้ แสดงให้เห็นถึงความภักดีไม่เสื่อมคลาย 
            สามคือแม่ทัพเฮ่อจี่ เทพสงครามที่ออกรบเคียงบ่าเยียนจี้ในชาติก่อนจนสามารถครองเก้าแคว้นได้ 
         สามหนุ่มสามมุมที่มาชาตินี้รุกจีบเยียนจี้กันรัว ๆ คนหนึ่งส่งจดหมายรักทุกวัน (ท่านมหาเสนาฯ) คนหนึ่งบุกตรง ๆ โดยการมาขอแต่งงานทุกวัน (ท่านแม่ทัพ) และอีกคนทำทีเป็นสอนหนังสือให้ความรู้ แต่กลับแทรกหนังสือ ศิลปะในการร่วมหอมาสอนด้วยทุกคืนที่ห้องนอน! (ท่านราชครู) แล้วแบบนี้เยียนจี้จะรับมือยังไง ในเมื่อชาติที่แล้วแต่ละคนไม่เคยเป็นแบบนี้ !!
          เรื่องเหมือนนายเอกจะตกที่นั่งลำบาก แต่จริง ๆ สามผู้ท้าชิงต่างหากที่ลำบาก เพราะนายเอกของเราหลังจากเกิดซ้ำ ๆ ก็ห่างไกลเรื่องความรัก พอโดนจีบเข้าก็กลับกลายเป็นไม่เข้าใจสิ่งที่ทั้งสามคนต้องการจะสื่อเสียอย่างนั้น ใครสนใจอ่านก็ทำป้ายไฟโบกทีมตัวเองได้เลยนะคะ แต่พออ่านแล้ว เราว่าทุกคนที่พลิกดูก็เดาได้เลยแล้วล่ะว่าพระเอกคือใคร
คะแนน 7.5 / 10

พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)
                ความประทับใจเรื่องนี้ คือการที่คนเขียนมักจะมีบทย้อนทบทวนตัวเอง และสำนึกในสิ่งที่ผ่าน ๆ มา รวมไปถึงการเล่าปมที่ดูรวบรัด และมีจุดที่เปลี่ยนแปลงไปจากชาติก่อน เพราะเยียนจี้วางตัวเองใหม่ เลยทำให้เหตุการณ์เปลี่ยนก็ทำให้น่าติดตาม แถมยังมีปมปริศนาที่นายเอกเราลืมความทรงจำช่วงหนึ่งในวัยเด็กไป แถมช่วงเวลานั้นยังเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้สามผู้ท้าชิงตกหลุมรักเขาอีกด้วย
               เนื้อเรื่องหลัก ก็คือ หาสาเหตุที่กลับมาเกิดใหม่ ให้ได้ คำใบ้ก็อย่างที่บอกไว้ตอนต้น “ ทุกสิ่งล้วนเกิดด้วยกรรม สำเร็จด้วยใจ ทำลายด้วยใจ จองจำด้วยใจ เป็นไทด้วยใจ ”
     แล้วอะไรที่ทำให้เยียนจี้กลับมาเกิดวนเป็นลูปกันล่ะ ? ระหว่างที่ต้องหาคำตอบนายเอกของเราก็ต้องแก้ปัญหาเดิมในสถานการณ์ใหม่ (เพราะตัวเขาวางแผนจัดการไม่เหมือนชาติก่อน เหตุหลาย ๆ อย่างจึงเปลี่ยนไป) รวมถึงเรื่องราวใหม่ ๆ ที่ชาติก่อนไม่มีอย่างเช่น...ความรัก
ปัญหาเดิม 1. กำจัดท่านลุงของเขาที่คิดจะยึดบัลลังก์ ในชาติที่สอง เยียนจี้เล่าว่าเขาไม่เอาไหนเองบ้านเมืองจึงล่มสลาย โดนแคว้นชือฟังเผาทำลาย แต่ในชาติสามเขาตาย เพราะไว้ใจท่านลุงท่านนี้ที่วางยาพิษเขาในจอกเหล้า ในชาติที่สี่ เขาจึงแก้แค้นโดยสังเวยประชาชนเมืองหนึ่งเพื่อลากท่านลุงลงจากตำแหน่ง ดังนั้นชาตินี้ เขาจึงเปลี่ยนวิธี เพราะเยียยจี้ไม่ต้องการทำร้ายประชาชนของเขา  แผนจึงแยบยลขึ้น ยิ่งมีลูกมือดี อย่างท่านราชครูที่รู้ใจ คนเจ้าแผนการอย่างมหาเสนาฯ สุดท้ายท่านลุงของเขาก็พบจุดจบที่ดีกว่าเดิมเล็กน้อย...
ปัญหาเดิม 2. ศัตรูคู่แค้นที่บุกทำลายเมืองกันทุกชาติ เจ้าแคว้นชือฟัง ทว่า มาชาตินี้เจ้าเมืองท่านนี้ก็กลับชาติมาเกิดเช่นกัน เขามาเพื่อแก้แค้นเยียนจี้ที่เผาทำลายเมืองเขาในชาติที่สี่ แต่สุดท้ายก็โดนเยียนจี้ตบตาว่าตัวเองไม่ได้กลับมาเกิดซ้อนแผนเข้าไป จนจับอีกฝ่ายได้ ...สิ่งสำคัญที่ทำให้ชนะ เพราะเจ้าแคว้นคนนี้เหมือนเยียนจี้ชาติที่สี่ เย็นชา คลุ้มคลั่งด้วยความแค้น
                เริ่มมองเห็นปัญหาไหมคะ เยียนจี้กลับมาเกิด เพราะบ้านเมืองโดนทำลาย แล้วต้องการแก้ไข (แก้แค้น) เลยย้อนกลับมา พอชาติที่สี่เจ้าแคว้นศัตรูเห็นบ้านเมืองตัวเองถูกทำลาย ก็เลยกลับมาเกิดใหม่เช่นกัน (นายเอกแพ้ไปตั้งสองชาติ) มันคือวงจรของกรรม ที่ใจจองจำกันเอาไว้ แล้วก็เวียนวายกลับมาแก้แค้นกัน นายเอกเราเลยพยายามแก้ทุกอย่างโดยพยายามสังหารคนให้น้อยที่สุด เพื่อละจากกรรมให้มากที่สุด แม้ว่าตำแหน่งที่เขานั่งจะทำได้ยากก็ตาม
ปัญหาใหม่ 1. ความรักครั้งนี้เขาจะมอบใจให้ใครดี ! พออ่านแล้วจริง ๆ ก็รู้เลยนะว่าเนื้อจะโดยใครกิน (5555) แต่ใจส่วนหนึ่งก็แอบเชียร์ฟู่จือหวายอยู่ เพราะในความทรงจำของเยียนจี้เขาเท่มาก ๆ ตอนยืนหยัดสู้ขณะที่เมืองแตก แต่มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ก็สองชาตินั้น นายเอกไม่ได้เลือกพระเอกเข้าวังเพราะเชื่อใจท่านลุง ดังนั้น เมื่อพระเอกได้เข้าวังในชาติที่สี่ เราว่านายเอกก็หลงชอบตั้งแต่ชาตินั้นแล้ว เพียงแต่ใจด้านชาด้วยความแค้น เลยกลายเป็นไม่ได้ใส่ใจ แต่พอมาชาติที่ห้า...

“... เยียนจี้ไล่มองดูทีละคนจนไปหยุดอยู่ที่คนชุดขาวที่อยู่ซ้ายมือสุด คนผู้นั้นยืนก้มศีรษะ ใบหน้าครึ่งหนึ่งถูกบดบังในเงามืดจึงมองไม่ชัด ส่วนอีกครึ่งอยู่ใต้แสงสลัว เผยให้เห็นใบหน้านุ่มนวลหมดจด คนผู้นั้นเดิมทีก้มหน้าอยู่ ครั้นสัมผัสถึงสายตาของเยียนจี้ก็เงยศีรษะขึ้น คิ้วเรียวยาว นัยน์ตาดำขลับลึกล้ำ หางตาขยับไหว แววตาพราวระยับ เปี่ยมเสน่ห์ตราตรึงใจยากลืมเลือน...ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่านิ้วเยียนจี้ที่จรดอยู่บนหน้าหนังสือนั้น สั่นเทาขึ้นมา...”
                เราอ่านแค่ตอนแรกพบสบตากันครั้งแรกในชาติที่ห้า...ก็ลงเรือเรียบร้อย คนนี้แล้วล่ะพระเอก เขาเป็นคนที่เข้าใจนายเอกทุกอย่างจริง ๆ ทั้งนุ่มนวลอ่อนโยน และเจ้าแผนการที่สุด จนบางทีเราอ่านแล้วอดไม่ได้ที่จะล้อว่าเรื่องนี้ควรชื่อเรื่องว่า เล่ห์กลราชครู ! ถ้าอยากรู้ว่าทำไม ขอแนะนำให้ไปลองอ่านแผนการจีบนายเอกของเขาดู ! เกิดหลายชาติก็ยังแพ้พระเอกคนนี้จริง ๆ
ปัญหาใหม่ 2. แก้ปัญหามาทั้งหมดขนาดนี้ ...แต่เมื่ออายุใกล้ 24 นายเอกของเราร่างกายก็เริ่มอ่อนแอลงอีกครั้ง ตกลงแล้ว เขาต้องแก้ปัญหาอย่างไรกันแน่ ...ความจริงแล้วปัญหาเรื่องนี้อยู่ที่ตัวเขาเองมาตลอด และตอนที่หมดลม เยียนจี้ก็ได้ย้อนกลับไป...ยังวัยที่ความทรงจำของเขา ขาดหายไป...
                เรื่องนี้พอมาถึงช่วงปัญหาสุดท้าย ก็ทำเราร้องไห้อยู่เหมือนกัน (เราเป็นคนซึ้งง่าย เอาเป็นมาตรวัดไม่ได้จริง ๆ ) เราชอบการเล่าเรื่องที่รวบรัด การเปิดเรื่องก็น่าสนใจมาก เพราะเปิดตอนใกล้ตายในชาติที่สี่  และเราก็ชอบตอนจบตอนขยี้ช่วงกำลังจะหมดลม และหาทางลงของผู้ท้าชิงอีกสองคน 7.5 คะแนน 
               สำหรับเราเนื้อเรื่องสมบูรณ์ตอบโจทย์ปมไหม บอกเลยว่าตอบทั้งหมด ไม่ได้ปวดตับหรือเหนื่อยในการอ่านเลย ตัวละครมีคำพูดให้เราฉุกคิดไปพร้อมกันทั้งฝั่งตัวร้าย และตัวดี เนื้อเรื่องหลาย ๆ ท่อนค่อนข้างรวบรัด คล้ายเป็นการสรุปเล่าเรื่องมากกว่า สิ่งที่ลงรายละเอียดคือเหตุการณ์สำคัญ กับเหตุการณ์ความรัก โดยรวมแล้วเป็นเรื่องที่ครบเนื้อ แต่อาจจะขาดเครื่องบางอย่างสำหรับเรา
เพ้อเจ้อตัวละคร (ประกอบและสมทบ)
                มีคู่น่ารัก ๆ ที่อยากอ่านเรื่องเพิ่มอย่างเส้าเหอกงกงผู้ใสซื่อข้างกายนายเอก กับหลินอิ้นหัวหน้ากรมยุติธรรมที่ขึ้นชื่อว่า นักโทษคนไหนอยู่ในมือไม่เกินสามวันก็จะต้องพูดความจริงออกมา ! และเรือผีล่องลอย (อีกแล้ว) ของเรา ท่านมหาเสนาฯ กับท่านแม่ทัพที่อกหักจากนายเอก สองคนนี้เคมีเข้ากันมาก ๆ ที่นักเขียนทิ้งทายไว้มันอดคิดต่อเองไม่ได้จริง ๆ ! (อ๊ากกกก ขอเพิ่มมม)

ชาแดง


วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2562

รีวิว ลุ้นรัก อาณาจักรแมวเหมียว




ภาพจาก Nabu

ลุ้นรัก อาณาจักรแมวเหมียว
ผู้เขียน Rio Sugihara
ผู้แปล พรรณพิสุทธิ์ โภชนสมบูรณ์
สำนักพิมพ์ TAISEI BOOKS
เรื่องย่อ
“ที่แห่งนี้คืออาณาจักรแมว เมื่อโทยะเสียชีวิตลงในโลกมนุษย์จึงกลายมาเป็น ภูติแมว และเดินทางมาในโลกแห่งนี้ ซึ่งได้คิริที่ร่างเหมือนมนุษย์ และแสนอ่อนโยนช่วยเอาไว้ ขณะที่ตัวโทยะกลับแปลก ๆ จนได้แต่ ร้อง เหมี้ยว ๆ ไม่หยุด จนเขาได้รู้ว่าร่างเขากลายเป็นมนุษย์ที่มีหู และหางของแมวไปแล้ว! แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ต้องใจเต้นตึกตักเมื่อโดนถามว่า จะมีงานมงคลกับคิริเมื่อไร!? มิหนำซ้ำ การกระทำ รวมถึงคำพูดแปลก ๆ ของคิริที่บอกเขาว่า มาคุยเรื่องผู้ใหญ่กันเถอะ เดี๋ยวฉันจะค่อย ๆ สอนเองนะนั่นมันหมายความว่ายังไงกันแน่นะ!?

พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์
                “หมายความว่า เขาจะจีบหนูไงลูก แค๊ก ๆ” เราขอตอบเรื่องย่อ (55555)
                แล้วตอนนี้ เราก็ทำการทลายไหดอง หยิบงานแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง ลุ้นรัก อาณาจักรแมว ออกมาอ่าน เพราะช่วงนี้ต้องการความน่ารักความอบอุ่น ไม่ก็สายการ์ตูนไปเลย ดังนั้นเรื่องนี้เลยถูกปัดฝุ่นออกจากตู้ และเราก็ทำการลอดเสาโอโทริสีแดงสดตามหนุ่มน้อยโทยะไป อาณาจักรแมว เพื่อตามหาความทรงจำที่หายไปว่าเขาคือใคร
                เด็กหนุ่มโทยะหลังตื่นขึ้นในอาณาจักรแมว ก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าบ้านนาม คิริ ชายหนุ่มผู้มีรอยยิ้มอ่อนโยน และมักจะกังวลว่าโทยะจะกลัวเขา จนถามออกมาบ่อย ๆ แต่นอกจากโทยะจะไม่กลัวคิริแล้ว เขายังสามารถพูดคุย และเข้าหาได้อย่างปกติ (แต่หูชอบลู่ลงอย่างน่าเอ็นดู) จนท่านคิริของเราอดปลื้มใจไม่ได้ นอกจากพระเอกแสนดี และอบอุ่น โทยะยังพบกับสองเด็กน้อยที่คิริ รับเลี้ยงในบ้าน นั่นคือนัตสึกิ และอากิโอะ เด็กชายที่มีหูแมว และหางแมวเหมือนโทยะ (แต่คิริไม่มีนะ เหมือนมนุษย์ทุกอย่าง) เนื่องจากโทยะจำตัวเองไม่ได้ จะมีผลทำให้กลายเป็นปีศาจแมวจริง ๆ ไม่ได้ ระหว่างฟื้นความจำ ค้นหาตัวเองนี้ พระเอกแสนใจดีอย่างคิริก็ยินดีให้พักอยู่ในบ้าน และมักจะชวนไปคุยเรื่องผู้ใหญ่กันสองคนเสมอ แต่...โทยะน้อยก็เหมือนปีศาจแมวแรกเกิด นอกจากไม่รู้ความนัยของท่านคิริ ยังตามไปคุยกับเขาอย่างจริงจัง จนท่านคิริทำได้เพียงยิ้มอย่างเอ็นดู และเลี้ยงขนมหวานอร่อย ๆ แทน (ตบบ่าปลอบท่านคิริ)
                เรื่องนี้เป็นแนวน่ารัก อ่านสบาย ปมชั้นเดียว ไม่ได้ซับซ้อน แต่มีการเล่าเรื่องที่โดดเด่นอย่าง การเดินตามหาตัวเองของนายเอกอย่างโทยะ คนอ่านจะไม่รู้อะไรเลยเท่ากับโทยะ เราต้องเดาเรื่องราวเองจนตอนท้ายทุกอย่างเฉลย จะถูกหรือผิดไปรู้ตอนนั้นพร้อมนายเอก เป็นเรื่องอ่านง่ายตัวละครมีเสน่ห์ ทั้งเด็ก ๆ สองคนที่แสนน่ารักขี้อ้อน พระเอกแสนใจดีอบอุ่น นายเอกซื่อ ๆ ที่ไม่ทำเรื่องราวให้วุ่นวาย และตัวละครสมทบอย่างสึซึ และ มิมิสึคุ (ตัวละครโปรดเราเลย) ก็ทำให้เรื่องราวนี้สมบูรณ์
คะแนน 8/10 (สำหรับเรื่องแนวไม่ซับซ้อน)


พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)
                เหมือนเราพึ่งพูดถึงการดำเนินเรื่องแบบ เดินไปบนปริศนาพร้อมตัวละคร ที่เราจะได้ข้อมูลทุกอย่างพร้อมตัวนำเรื่อง เราหรือตัวนำเรื่องใครจะเดาเรื่องได้ก่อน หรือใครกันที่เดาได้ถูก หรือทั้งเราทั้งตัวละครไปรอเฉลยพร้อมกันตอนสุดท้ายเลย เรื่องนี้ใช้การดำเนินแบบนั้นเลยค่ะ ด้วยปมใหญ่หนึ่งเดียวคือ โทยะคือใคร (บางคนอาจจะเดาได้แต่แรก) แน่นอนสิ่งสำคัญของเรื่องนี้คือ ความรักของโทยะและท่านคิริ รวมไปถึง ท่านคิริคือใครด้วย (นี่บางคนก็เดาได้เลยเหมือนกัน 55555)
                ปริศนาดูเดาไม่ยาก แต่เมื่อไม่มีคำตอบชัด ๆ เราเลยเดินไปกับเรื่องจนสุดทางสิ่งที่น่าสนใจคือการโยนคำตอบในรูปแบบของคำถามของคนเขียนไปตามทางเรื่อย ๆ โดยรวมแล้ว ดังนี้  
โทยะคือใคร เขาเป็นแมวดำ นั่นคือสิ่งที่โทยะเข้าใจ
เขาฝันเห็นเด็กผู้ชายกับแมวดำ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมมุมมองถึงสบสัน ไม่รู้ตัวเองอยู่ร่างคน หรือแมว คล้ายว่ามีทั้งสองมุมมอง
ตื่นขึ้นมาคิดว่าเป็นแมว และยังติดร้อง เหมียว เป็นความน่ารักอย่างหนึ่งจริง ๆ ตกใจก็ร้อง แง่ววว
หน้าตาของเขาเหมือนเด็กมนุษย์ในฝัน
เมื่อถูกถามว่าชื่ออะไร ความคิดแรกคือโทยะ แต่ปากตอบโทวะ เป็นชื่อแรก (ทำเราเอ๋! อยู่เหมือนกัน โทยะชื่อเด็กมนุษย์ โทวะคือชื่อแมวดำ)
การพูดของโทยะ พูดอยู่ไม่กี่ครั้งก็สามารถพูดภาษามนุษย์ได้คล่องแคล่ว
โทยะชอบทำงานบ้าน พอทำงานบ้านกลับรู้สึกดี และคุ้นเคย
โทยะเขียนจดหมายขอบคุณ ทำไมเขาถึงเขียนหนังสือได้ล่ะ
การเล่นไพ่ ทำไมเขาถึงคิดไปว่าไม่ได้เล่นนานแล้ว
ปีศาจกินวิญญาณ ที่อาระวาดกินวิญญาณมนุษย์ และสัตว์ ทำไมโทยะถึงติดใจเรื่องนี้
ปีศาจจิ้งจอกหาว่าเขาขโมยของไป
มีคนบอกเขาว่า เขาไม่ใช่ปีศาจแมวแรกเกิดธรรมดา แล้วทำไมเขาไม่มีพลังพอเปลี่ยนร่างตัวเองกัน
เสาโอโทริสีแดงในร้านขนม ว่ากันว่าเป็นทางเชื่อมไปโลกมนุษย์ มีแต่คนมีพลังแข็งเกร่งเท่านั้นจะเห็น แต่ทำไมโทยะที่มีพลังอ่อนกลับเห็น และยังรู้สึกคุ้นเคยด้วย
ปีศาจจิ้งจอกกลุ่มเดิมตามล่าเขา บอกเขาว่าโทยะเป็นปีศาจกินวิญญาณ และได้กินเด็กมนุษย์ที่เป็นเจ้านายเข้าไปจึงมีหน้าตาแบบนี้
คิริ เคยบอกว่า ถ้าโทยะเป็นปีศาจกินวิญญาณ เขาต้องรู้แล้ว

                เมื่อเรารวมแต่ละปริศนาที่หลุด ๆ มา บางทีก็สามารถเดาได้แล้ว แต่ก็จะมีบางอย่างทำให้สับสนบ้าง จนถึงตอนจบถึงได้รู้ว่าสิ่งที่คิดถูกไหม เราเป็นคนหนึ่งที่อ่านแล้วเดาได้ช่วงหนึ่งในสามของเรื่อง แต่โดนข้อมูลใหม่ทำให้มีลังเล
                ....แต่ว่าพอเจอตอนจบก็ต้องยอมรับว่า โอ้ ฉันเดาไม่ถึงขนาดนี้ น้ำตาซึมไปเหมือนกัน การที่เราอยากปกป้องใครสักคน อยากให้เขามีความสุข มันก็เป็นพลังปรารถนาที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ แม้แต่กับสัตว์ตัวน้อย ๆ อย่างแมว
                เรื่องนี้เราให้ 8 คะแนน ในแง่ของเรื่องอาจจะไม่ซับซ้อน แต่มีเสน่ห์ และอ่านง่ายจริง ๆ มีความน่ารัก ความอบอุ่นระหว่างตัวละคร เราไม่มีข้อข้องใจอะไรในเรื่องนี้ นอกจากอยากได้ฉากพิเศษเพิ่มสักนิดได้ไหมมม เท่านั้นค่ะ


ชาแดง






วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2562

รีวิวยุทธจักรเริงรมย์ ตอน พิษโอสถ (ฉบับเต็ม)



ภาพจาก แจ่มใส


ยุทธจักรเริงรมย์ ตอน พิษโอสถ

ผู้แต่ง ซวี่ฉือ
ผู้แปล เมี่ยนเปาต้าเหริน
สำนักพิมพ์ EverY
เรื่องย่อ
            “เพราะสุราดอกท้อของอาจารย์ไหเดียวแท้ ๆ เสี่ยวชุนจึงต้องระหกระเหินออกจากหุบเขาเทพเซียนพร้อมภารกิจตามหาศิษย์พี่ใหญ่กลับสำนัก แต่ภารกิจมีอันต้องชะงัก เมื่อเขาได้พบกับคนงามท่ามกลางฝูงทรชน! หนำซ้ำคนงามยังถูกพิษ และเป็นพิษที่หมอผู้เก่งกาจอย่างเขาไม่เคยพบเคยเจอเสียด้วย เขาผู้ถือคติ ช่วยคนได้ต้องช่วย จึงช่วยคนงามจากทรชน และช่วยถอนพิษให้ แต่ไป ๆ มา ๆ จากช่วยถอนพิษแบบถึงเนื้อถึงตัวบ่อยครั้งเข้า คนงามผู้นี้ชักทำให้เขาติดพิษไปเสียด้วย หรือนี่คืออย่างที่เขาว่า หมองูตายเพราะงู! ไม่นะ เสี่ยวชุนยังอยากดูโลกอีกนานขอรับ!

พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์
                ก่อนอื่นเลย...ขอเตือนด้วยคำสำคัญแก่ทุกท่านที่กำลังพิจารณาเรื่องนี้ว่า คู่พระนายเขามีสลับตำแหน่งนะคะ ( รีบะน่ะค่ะ) ถ้าท่านใดชอบอ่านที่ใครอยู่โพซิชันไหนต้องโพนั้น อาจจะต้องข้ามไป แต่ถ้าใครโอเค ตามไปพิจารณากันต่อได้เลยค่ะ (สลับก็มีความฟินของสลับนะคะ ใครไม่เคยอ่านก็ลองหาอ่านกันดูก่อนได้ -v-)
                เรื่องนี้ตัดสินใจหยิบเพราะนิยามที่คนพูดถึงกันก่อนหน้าว่า เดาไม่ถูกว่าใครพระใครนายกับมีสลับกันหยิบสิคะ รออะไรแนวนี้ยิ่งหายากอยู่ แต่พออ่านไปก็เดาได้แล้วว่าใครเป็นเมนพระเอก ใครเมนนายเอก ของนักเขียน (ไม่ได้มีฉากสลับเยอะอย่างที่คิด เหมือนมีให้นายเอกเอาคืนพระเอกบ้างเท่านั้น) ส่วนเนื้อหาที่เหมือนจะชิลนั้น เราว่าสุดท้ายแล้วสะท้อนให้คิดหลายอย่าง แต่ธีมมาทั้งเรื่องน่าจะเป็น การผูกความแค้น ไม่ได้นำมาถึงทางออกที่ดี
                โอ้พอเปิดธีมมาก็ดูดรามากันเลย เรามาทำความรู้จักเรื่องกันสักหน่อย เสี่ยวชุนของเราเป็นศิษย์คนที่ 8 น้องนุชสุดท้องของอาจารย์เซียนสมุนไพร บนหุบเขาเซียน วันหนึ่งตอนเมาได้ยินอาจารย์พูดเป็นห่วงศิษย์พี่ใหญ่ที่หายตัวไป เลยตัดสินใจทั้งเมา ๆ ลงเขาไปตามหา ผลคือตื่นมาตัวเองอยู่ที่ไหนไม่รู้ แถมยังเจอคนงามถูกทำร้าย นึกว่าเป็นผู้หญิงเลยรีบพาหนี แต่ต่อมารู้ว่าเป็นผู้ชาย ก็ยังดูแลคนงามนาม อวิ๋นชิง ต่อไป เพราะพิษที่คนงามได้รับตัวเสี่ยวชุนยังคิดยาถอนไม่ออก เสี่ยวชุนคนนี้เป็นคนที่หลงใหลคนงามมาก เห็นไม่ได้เป็นเหม่อลอยน้ำลายยืด แต่มีคติยึดมั่นจากความเป็นหมอ คือช่วยคน ไม่ฆ่าคน ซึ่งเรื่องนี้จะต่างจากคนงามของเขามาก อวิ๋นชิงมีนิสัยเย็นชา เด็ดขาด และรักสะอาดมาก เพราะในวัยเด็กถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเสมอ เขาเลยไม่รู้จักการแสดงอารมณ์ ความห่วงใย ความรัก หรือแม้แต่การใส่ใจคนอื่น ดังนั้นการที่เสี่ยวชุนช่วยเขาไว้โดยไม่มีเหตุผลใด ๆ เลยทำให้เจ้าตัวค่อย ๆ เรียนรู้ และไว้ใจมากจนกลายเป็นความรักไป
                ช่วงต้นเรื่องจะมีความสบาย ๆ ชิล ๆ เสี่ยวชุนจีบคนงาม แต่พอเข้าหนึ่งในสี่ของเรื่อง เปิดปมตัวจริงออกมา เรายอมนักเขียนจากใจอย่างนึงเลย คือการเล่า (เอาไว้พูดกันในสปอยล์ละกันเนอะ) สุดท้ายแล้วนิยายเรื่องนี้ครบรสมาก มีบทรัก บทเนื้อเรื่อง ปมตัวละคร และปมสถานการณ์ภายนอก นักเขียนวางไว้ได้ว้าวสำหรับเราเลย ถ้าใครชอบแนวท่องยุทธภพ บวกกับการเรียนรู้ซึ่งกันและกันของตัวละคร (พร้อมกับนักแสดงสมทบ และตัวประกอบที่น่าสนใจ) เรื่องนี้ถือว่าอ่านได้ไม่ถึงกับเครียดจนตับพัง (แค่ปวดจี๊ด ๆ เป็นพัก ๆ ) สำหรับคะแนน เราไม่อยากให้อิงจากเราในรอบนี้ เพราะเนื้อหาดีมาก แต่อาจจะมีบางอย่างที่ขัดใจเราเอง เราเลยขอให้แบบไม่ระบุว่า
คะแนน 7 (+ ขึ้นไป)
เวิ่นเว้อก่อนสปอยล์
อ่านเรื่องนี้แล้ว คู่พระเอกนายเอก ทำให้เรานึกถึงบทสัมภาษณ์ของอาจารย์นักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น ที่ชื่อ อาจารย์ Scarlet Beriko เจ้าของผลงานการ์ตูนวายมากมายที่เปลี่ยนมุมมองเคะเมะของเราไปหมด เพราะคนที่เดาว่าเคะก็เมะ คนที่ปกติมางี้น่าจะเมะก็เคะ (อ่านจนชิน เพราะอ่านแล้วพบว่า เฮ้ย อาจารย์เขียนเมะเป็นเมะจริง ๆ ) แล้วคงไม่ได้มีเราคนเดียวที่ตามงานอาจารย์แล้วสงสัยว่าทำไมอาจารย์เขียนออกมาแนวนี้ แล้วอาจารย์ก็ตอบคำถามแฟน ๆ ประมาณว่า “คนที่เป็นเคะของอาจารย์เป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง ยืดหยุ่น และพร้อมจะเข้าโอบประคองอีกฝ่ายไว้ ” เราจำได้คร่าว ๆ ประมาณนี้ พอลองกลับไปอ่านแต่ละเรื่อง ...ก็จริงของอาจารย์ พอยิ่งได้มาอ่าน ยุทธจักรเริงรมย์ ตอน พิษโอสถ เหมือนเรายิ่งเข้าใจคำตอบในสัมภาษณ์นั้น นึกถึงจนอดเขียนขึ้นมาไม่ได้เลย

พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)
            หลังจากเพ้อยาวนอกเรื่องก็มากลับเข้าเนื้อหากันต่อ (5555) เอาล่ะ เราบอกไว้ว่า ธีมเรื่องหลักเป็น การผูกความแค้น ไม่ได้นำมาถึงทางออกที่ดี ดังนั้น ถ้าปล่อยวางได้ ก็ไม่มีใครต้องเจ็บหรือทุกข์ รวมถึงตัวเอง และคนที่แคร์ตัวเอง จริง ๆ แล้วยังมีธีมรองจากนั้นที่น่าสนใจอีกสองสามอย่าง คือ สูญเสียก่อนจึงสำคัญ คนเรามักเป็นแบบนั้น และ การสื่อสารกันไม่มากพอ ไม่ใช่เชื่อใจ และเข้าใจกันอย่างเดียว สองอย่างหลังนี้ ต่อให้มีมากขนาดไหน สุดท้ายไม่เคยพูดคุยสื่อสารกันให้เข้าใจ มันก็ถูกทำลายลงไปง่าย ๆ
สปอยล์จริง ๆ แล้วนะคะ ถ้าอยากลองอ่านเองปิดไปได้เลยยย

                ปมปริศนาเรื่อง เรานึกว่าคือการตามหาศิษย์พี่ใหญ่ของเสี่ยวชุน ที่ไหนได้ศิษย์พี่ท่านนี้ไม่นานก็โผล่หน้ามาแทงศิษย์น้องเล็กของเขาเกือบตาย (55555) จริง ๆ เวทีของเรื่องที่กลายเป็นสองพล็อตใหญ่ ที่แทรกมาในบทสนทนาเล็ก ๆ หนึ่งคือ พรรคภูษานิล (คิดซะว่าพรรคมาร) เรืองอำนาจใกล้จะคลองยุทธภพ ทำให้พรรคฝ่ายธรรมะรวมตัวกันเพื่อกำจัด โดยมีพรรคหลักชื่อ พรรคประสาทเขาหลิวเขียน เป็นแกนนำ สองคือจักรพรรดิป่วยใกล้สิ้น องค์ชายพากันจ้องบัลลังก์ และออกตามหา มนุษย์โอสถในตำนานมารักษา
                เห็นได้ว่าปมเหล่านี้ ไม่น่ามาเกี่ยวกับเสี่ยวชุนได้ แต่คนเขียนก็พาเราเดินพร้อมเสี่ยวชุนกระทบกระแทกเจอปัญหา และเบาะแสให้ขบคิดไปพร้อมกัน ...เราคนอ่านกับเสี่ยวชุน ใครจะคิดได้ก่อน หรือจะคิดได้พร้อมกัน นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเล่าเรื่องแบบเดินบนปริศนา แต่นักเขียนยังไม่ได้ใช้ให้ คนอ่านเดินไปบนปริศนาพร้อมตัวละครแบบเต็ม ๆ เพราะตัวละครหลักอย่างเสี่ยวชุนก็มีปริศนาปิดบังคนอ่านให้เซอร์ไพรซ์ระหว่างทางไม่น้อยเลย (เยอะเลยแหละน่าตีจริง ๆ )
ก่อนจะพูดถึงปมมารู้จักตัวละครหลักในเรื่องกันสักหน่อย

1. เสี่ยวชุน ตัวละครนำเรื่องที่พาคนอ่านหนีจากหุบเขาเข้ายุทธภพ เขาวางแผนออกตามหาศิษย์พี่ใหญ่ ใครจะรู้ว่าการเดินทางหาศิษย์พี่ครั้งนี้ทำให้เขาพบคนงาม อวิ๋นชิง ที่ดึงเขาเข้าไปหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง...
            ใช่ค่ะ การตามหาศิษย์พี่เหมือนแค่เป้าหลอกคนอ่าน กับเสี่ยวชุนให้ออกจากเขาเซียน แต่จริง ๆ คือการออกไปตามหาตัวเองต่างหาก
2. ตงฟางอวิ๋นชิง คนงามที่พาเสี่ยวชุนเข้าวังวนของอดีต ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นสาเหตุให้การแก้แค้นครั้งนี้เกิดขึ้น (จริง ๆ อวิ๋นชิงไม่ผิด เด็กคนนี้ก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน และเป็นเหยื่อที่ทำให้โตมาเป็นแบบนี้)
3. หลันชิง ศิษย์พี่ใหญ่ที่วางยาร้อยแปดพิษเสี่ยวชุนแต่เล็ก จนเสี่ยวชุนกลายเป็นหมอ และร่างกายทนพิษ เป็นตัวละครที่เดาใจยากจริง ๆ เปิดตัวมาเหมือนคนโรคจิตพรรคมารที่ต้องการทำลายพรรคธรรมะ แต่พอรู้ว่าคนที่ตัวเองแทงเป็นน้องเล็กก็รีบพากลับไปด้วยกันทันที แต่หลังจากนั้น...ก็ใช้น้องซะสาระพัด

เวทีแรก เมืองหลวง : จักรพรรดิป่วยตามหามนุษย์โอสถ
                จริง ๆ เรานึกว่าเขาจะเล่นเรื่องปมยุทธภพ ธรรมะตีกับฝ่ายมารอย่างเดียว เพราะเปิดตัวมาเป็นปมนี้ก่อน ที่ไหนได้คนเขียนหักเข้า การชิงบัลลังก์ก่อน ปมนี้ไม่ใช่พี่น้องตีกันเหมือนเรื่องอื่น แต่มันคือการเปิดปริศนาปูมหลังตัวละครหลักอย่างอวิ๋นชิงกับเสี่ยวชุน และแน่นอน หลันชิง ศิษย์พี่ใหญ่ที่แค้นแบบจองเวรอวิ๋นชิงมาโดยตลอดก็เกี่ยวด้วยเต็ม ๆ  (เขาไม่กลับเขาเซียนเพราะเรื่องนี้) เราขอสรุปเรื่องราวความแค้นนี้รวม ๆ (ถ้ามีโอกาสได้อ่านจะสัมผัสอะไรได้ละเอียดกว่านี้แน่นอน!)
จุดเริ่มของความแค้น จักรพรรดิ (พ่ออวิ๋นชิง) ไปฉุดแม่อวิ๋นชิงมาจากเผ่าจนตั้งท้อง (ทั้งสองคนไม่มีใครรักอวิ๋นชิงเลย) แต่เผ่าของแม่อวิ๋นชิงต้องการใช้โอกาสที่นางได้เป็นเฟยนี้ก่อกบฏ จักรพรรดิรู้ทันส่งขุนนางใหญ่ในบ้านหลันชิง (ศิษย์พี่ใหญ่) ไปกวาดล้างเผ่าแม่อวิ๋นชิงตายทั้งหมด แม่อวิ๋นชิงจึงวางแผนล้างตระกูลหลันทั้งหมด โดยเหลือหลันชิงที่สวยมากไว้ให้จักรพรรดิต้องพระทัย และกลายเป็นนายบำเรอไป ส่วนแม่อวิ๋นชิงกลับมากรอกยาพิษใส่อวิ๋นชิง และตัวเอง เพื่อตายตามกันไป แต่หมอมาช่วยอวิ๋นชิงได้ทัน เขาเลยรอด
                แล้วเสี่ยวชุนอยู่ตรงไหนของวังวนนี้ ...แม่เสี่ยวชุนมีผู้มีพระคุณอยู่บ้านตระกูลหลัน (เดากันได้ไหมเอ่ยว่าเป็นยังไงต่อ) นางพยายามไปปล้นคุกแต่ถูกจับได้ ทั้งนางและเสี่ยวฉุนเลยถูกแม่อวิ๋นชิงประหารตัดเอวแล้วโยนประจานกลางเมือง...และเรื่องทั้งหมด จักรพรรดิรู้หมดว่าเป็นแผนที่แม่อวิ๋นชิงสร้างแต่ตัวเองอยากล้างอำนาจตระกูลหลันอยู่แล้ว เลยปล่อยให้ทำ คนนี้แหละ ตัวการใหญ่...
ความแค้นที่วางกันไม่ลง ศิษย์พี่ใหญ่หายไปนานอาจารย์ที่เป็นเซียนสมุนไพรเลยออกตามหาจนพบ ระหว่างทางเจอเสี่ยวชุนที่ตัวขาดครึ่งแล้วยังไม่ตายจึงพากลับไปด้วย แต่หลันชิงกลับไปแต่ใจยังอยู่เมืองหลวง เขาฝึกจนเป็นมือพิษอันดับหนึ่ง และเข้าไปเป็นประมุขพรรคมาร ในวังวนการแก้แค้น ศิษย์พี่ท่านนี้ดันไปหลงรักลูกของคนที่วางแผนล้างตระกูลตัวเองอย่างอวิ๋นชิง มันเลยเป็นทั้งรักทั้งชัง พอศิษย์น้องเล็กอย่างเสี่ยวชุนโพล่มา ก็เหมือนจิ๊กซอมันครบตัว เขาใช้เสี่ยวชุนเป็นเครื่องมือจัดการทุกอย่าง ส่วนอวิ๋นชิงพยายามทำทุกอย่างไม่ให้เสี่ยวชุนรู้ แต่เสี่ยวชุนของเราหัวไวนะ จับประเด็นเล็ก ๆ โผล่มาสองคำในบรรทัด...ก็กลายเป็นตัวเชื่อมทั้งหมด รู้ดียิ่งกว่าอวิ๋นชิงที่สืบมาเสียอีก
                อันนี้เป็นปมความแค้นแรก แน่นอนมันมีรายละเอียดหลักใหญ่ในตัวเสี่ยวชุนให้พลิกไปอีกหลายจุด แต่เราขอเล่าหลัก ๆ เท่านี้ดีกว่า ปมนี้คือปมเล่มแรก ค่อนข้างว้าวนะ ตับนี่ปวดจี๊ด ๆ เลย
เวทีสอง ประสาทเขาเพลินภิรมย์ : ยุทธภพนี้หรือมีธรรมะแท้จริง (คลายปมใหญ่)
                นิยายหลายเรื่องแนวยุทธภพที่มีพรรคมาร พรรคธรรมะ เท่าที่อ่าน เรื่องนี้โดนนักเขียนเสียดสีไว้หลายท่าน (และเราเห็นด้วยจริง ๆ แหละ) ความจริงมันน่าจะเริ่มตั้งแต่สมัยกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้ว แต่ถ้าเอาหลัง ๆ แนววาย อย่างที่เคยรีวิว คนน่ารักมักน่าแกล้ง ก็มีสำนักธรรมะแอบลักลอบค้ามนุษย์ หรือ ตัวร้ายอย่างข้าจะหนีเอาตัวรอดอย่างไรดี ก็มีประชดเด็ด ๆ ในเล่มสอง อย่างการใช้ความรักไปหลอกราชามารมากำจัด และใช้คนแบบธรรมะ 10 รุมอธรรม 1 ก็ยังว่าเพื่อคุณธรรม
                เรื่องนี้ก็มีเล่นปมนี้เช่นกัน ตัวละครที่เหมือนตัวประกอบโผล่พลุบมาช่วงแรกละหาย เป็นเจ้ายุทธภพที่คนนับถือ กลับกลายเป็นคนเนรคุณที่สุด บอกเลยว่าช่วงเล่มสองฉากหลังทำสะเทือนน้ำตาไหลไปเหมือนกัน ในช่วงของปมนี้ จะได้เห็นความสัมพันธ์ของหลันชิงกับเสี่ยวชุนมากขึ้น พี่คนโตกับน้องคนเล็ก สองคนนี้เหมือนคนหนึ่งรังแกอีกคนแต่เด็ก แม้แต่ในการแก้แค้นน้องเล็กคนนี้ก็ยังถูกพี่ใหญ่ใช้งาน ในเวทีแรกเมื่ออ่านจบ สิ่งที่สงสัยคือ หลันชิงตกลงรักศิษย์น้องคนนี้บ้างไหม ในช่วงของเวทีที่สองจะเฉลยออกมาจนเข้าใจ คนเขียนเขาเดินตัวละครตามนิสัยตัวนั้น ๆ ทำให้ดูซับซ้อนนิด ๆ โดยเฉพาะตัวละครหลันชิง      
เราบอกเลยว่าตอนหลันชิงถามเสี่ยวชุนว่า ทำไมเขาต้องทำตามที่เสี่ยวชุนขอ แล้วเสี่ยวชุนตอบว่า
“เพราศิษย์พี่รักข้าที่สุดแล้ว...ไม่ใช่หรือ...”
“พี่ชายรักข้าที่สุดแล้ว...ข้ารู้มาตลอด...”
โอ้ เราน้ำตาทะลักเลย หลันชิงตอนนั้นก็เหมือนตาสว่าง ไม่ใช่เขาไม่รู้ตัว ถ้าทุกคนได้อ่าน (แอบเชียร์) ก็พอจะรู้กันอยู่แล้ว เพราะคนคนนี้กลายเป็นบ้าไปช่วงหนึ่ง เพราะเขาไปทำร้ายจิตใจน้องเล็กอย่างสาหัสเข้า (ต่อมาก็ยังค่อยแกล้งทำร้ายต่อ เรียกว่าวางความแค้นลงไม่ได้จริง ๆ ) เรื่องที่เสี่ยวชุนขอ ก็เหมือนกับบอกให้หลันชิงวางความแค้นต่ออวิ๋นชิง คนยึดติดอย่างหลันชิง พอเจอน้องใกล้ตายก็ไม่ลังเลอีกที่จะแบกทั้งน้อง ทั้งคนรัก หนีไป และเขาก็ทำตามสัญญานั้นตลอดมา เรียกว่าปิดปม วางแค้นไปได้ (แต่ยังไงอาจจะต้องตามภาคสองต่อว่า พี่ใหญ่ท่านนี้จะมีบทบาทกับน้องเล็กต่อยังไง)
สุดท้าย เราไม่รู้ว่าศิษย์พี่ใหญ่จะย้ายมารักน้องตัวเองไหม (อันนี้แล้วแต่คนจิ้น หรืออาจจะมีต่อในภาคสอง) แต่เรามองว่าเขารักเสี่ยวชุนในฐานนะน้องจริง ๆ รังแกให้ตายสุดท้ายถึงรู้ว่าสำคัญ และอีกคน อวิ๋นชิง ได้เรียนรู้การพยายามใส่ใจใครสักคนในเล่มสอง การพยายามสื่อสารกับคนรัก และการอยู่ต่อไปเพื่อใครสักคน ปิดฉากไปอย่างสวยงามด้วยบทเพลงท่องยุทธภพ เราชอบมาก เหมือนฟังเพลงกระบี่เย้ยยุทธจักรเลย (จะว่าไปนามสกุลตงฟางนี่อดนึกถึงท่านประมุขพรรคตะวันจันทราไม่ได้) 7 (+ ขึ้นไป) คะแนน
เรื่องนี้เราค่อนข้างรู้สึกซับซ้อนให้คะแนนไม่ถูก เอาเป็นว่าจากการร้อยเรื่องเล่าเรื่อง เราค่อนข้างประทับใจในรายละเอียดในการเปิดปม และให้ขบคิดปิดประเด็นปมใหญ่เองในตอนขมวดปมสอง (อันนี้ไม่รู้นักเขียนจงใจหรือเราคิดมากเอง) แต่ด้วยส่วนตัวเราค่อนข้างใช้กำลังภายในไปเยอะตอนอ่านเรื่องนี้ (เพราะอ่านรวด) ทำให้ตอนท้ายเหนื่อยจนต้องอ่านกระโดด เลยลังเลที่จะให้คะแนน แต่พอมาเก็บรายละเอียดที่ละไป...น้ำตาพรากเลยค่ะ งานดีอยู่ค่ะ โดยเฉพาะเนื้อเรื่อง และการเล่า สำหรับเราคู่ที่ชอบดันเป็นเรือผี...แค่อดรู้สึกถึงเคมีนี้ไม่ได้เท่านั้น (ข้ามไปเถอะค่ะ Y-Y) เลยไม่ขอออกความเห็นเรื่องคะแนนค่ะ
เพ้อเจ้อตัวประกอบ
เล่มสองจะมีคู่น่าลุ้นออกมาประมาณหลายคู่ เห็นเรื่องนี้เป็นตอน ๆ ไม่รู้จะไปต่อในตอนอื่นหรือเปล่า
1. มู่เซียง และหานหาน ศิษย์สำนักฝ่ายธรรมะที่บังเอิญพบเสี่ยวชุนกับหลันชิง ตอนสองพี่น้องเมาจนตีกันหายไปครึ่งเมือง หานหานแอบรักมู่เซียงแต่เจ้าตัวไม่รู้...แต่เสี่ยวชุนที่พึ่งเจอกันกลับรู้ทันที โปรดพิจารณาความทึ่มของพี่มู่ท่านนี้กันดู
2. อาหนวดกับหลานชาย ที่เหมือนเป็นตัวประกอบขำ ๆ ในโรงเตี๊ยม แต่ดันเป็นคนสำคัญคนหนึ่งในฝ่ายธรรมะ คุณอาท่านนี้ประสบเคราะห์พร้อมคู่บน และเสี่ยวชุน เกือบโดนหลานตัวเองจับกด ดีที่เสี่ยวชุนทำยาแก้พิษให้ทัน
3.ท่านอาจารย์กับศิษย์พี่สอง (แค๊ก ๆ ) อันนี้เราใช้ญาณสัมผัสตั้งแต่ต้นเรื่อง เป็นไม้แผ่นที่เราเอามานั่งกะต่อเป็นแพให้ลอยในทะเล ไม่รู้จะมีคู่นี้ไหม
4. เหล่าศิษย์ของเสี่ยวชุน พี่ ๆ ที่น่าจะมีเรื่องของตัวเอง ได้แก่ พี่สาม พี่ห้า และพี่หก (สองคนหลังนี้เป็นแฝด) และคนอื่นที่ไม่ปรากฏ เสี่ยวชุนเป็นคนที่แปด แต่ตอนพิษโอสถกลับมีแค่ พี่ใหญ่ พี่สอง พี่สาม พี่ห้า และพี่หก ...พี่สี่กับพี่เจ็ดล่ะ? *
5. พี่ชายสี่ของอวิ๋นชิง เสี่ยวชุนเรียกห้วน ๆ ว่าเจ้าสี่ นับญาติเรียบร้อย
                อืมมม ถ้ามีตอนของตัวละครเหล่านี้จริง ๆ ถือว่าน่าสนใจมากเลย  
*เราไปเปิดภาคสอง เหมือนจะเห็นศิษย์พี่เจ็ดออกแล้วววว ไว้อ่านจบจะมาเล่าดูนะคะ (ดองไปก่อน)

ชาแดง



รีวิว แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ( 3 เล่มจบค่ะะ)

  แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ผู้แต่ง ปี่ข่าปี่ ผู้แปล จื่อซิน ผู้วาด 梨乖 酥 สำนักพิมพ์ Inltreebook เรื่องย่อ หลินชิงอวี่ แต...