วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

รีวิว แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ( 3 เล่มจบค่ะะ)

 




แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1

ผู้แต่ง ปี่ข่าปี่

ผู้แปล จื่อซิน

ผู้วาด 梨乖

สำนักพิมพ์ Inltreebook

เรื่องย่อ

หลินชิงอวี่ แต่งเข้าจวนโหวเพื่อแก้เคล็ด กลายเป็นภรรยาชายของท่านโหวน้อยขี้โรค ลู่หวั่นเฉิง จิตใจเขาเต็มไปด้วยความชิงชัง ต้องการแก้แค้นเอาคืนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในสักวัน ไม่เว้นแม้แต่ สามี ผู้นี้ ทว่าคืนวันมงคลสมรสท่านโหวน้อยที่อาการล่อแล่กลับฟื้นคืนพลังชีวิต อีกฝ่ายกล่าวกับเขาว่าเจ้าตัวคิดแค่กินอิ่นนอนหลับรอวันตาย เป็นแค่ปลาเค็มตัวหนึ่งเท่านั้น หลังเขาจากไปท่านโหวน้อยผู้นี้ไม่เพียงจะมอบสมบัติให้ตนทั้งหมด ยังยินดีมอบอิสระจากตระกูลแก่เขาด้วยเรื่องดี ๆ แบบนี้จะเป็นความจริงหรือ ? แต่เห็นแก่ที่ ลู่หวั่นเฉิงไม่ทราบเกี่ยวกับการแต่งงาน เขาอดทนอยู่ด้วยเพียงครึ่งปีย่อมได้อยู่แล้ว

ทว่าคืนวันผ่านพ้นไป หิมะโปรยปรายทั้งที่อยากหลุดพ้นจากพันธะที่ผู้อื่นบังคับส่งมาให้โดยเร็ว ตัวเขากลับนั่งคิดค้นยาไม่เว้นวัน เพื่อหวังยื้อชีวิตใครคนหนึ่งที่รู้ใจไว้ให้นานที่สุด

 

ความรู้สึกหลังอ่าน

(กรี๊ดมาก แค่ก สปอยล์ปานกลางถึงมากค่ะ)

แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่มนี้ที่รอคอยยยย สนุกมากค่ะ !!! (ยังไม่ทันเกริ่นก็หวีดแล้ว 5555) เราอยากอ่านต่อตั้งแต่ปลายปีที่แล้ววนอ่านตัวอย่างอยู่สองรอบ พอเล่มมาส่งก็ต้องอดใจรอจนกว่าจะวันหยุดโต้รุ่งอ่านกันสักหน่อย ! สำหรับเรื่องนี้เป็นมุมมองของตัวเอกที่นำเรื่องโดยเป็นคนในโลกนิยาย ส่วนพระเอกเป็นคนที่ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างตัวประกอบในนิยาย เดี๋ยวจะลองเดาเนื้อเรื่องนิยายต้นฉบับใน Talk นะคะ ไม่รู้ว่าจะใช่ไหม เพราะเรื่องนี้เล่ามุมมองพระเอกน้อยมาก คนอ่านแทบจะเก็บปมจากมุมมอง หลินชิงอวี่ ทั้งหมด แต่ด้วยเรื่องย่อพวกเราพอจะรู้กันอยู่แล้วว่าพระเอกทะลุมา แถมยังมีการเข้าร่างอื่นถึงสามครั้ง ความจริงอ่านไปไม่น่าจะต้องลุ้นหรือค้างอะไรมาก แต่ ๆ ๆ เราลุ้น และรู้สึกไต่ระดับอยู่ตลอด (สำหรับเล่มแรก) ส่วนตัวรู้สึกว่าสิ่งที่น่าติดตามของเรื่องนี้ คือ ความสัมพันธ์ ที่ค่อย ๆ แน่นแฟ้นของคนทั้งคู่ กับ เรื่องราวในนิยายต้นฉบับ ที่นักอ่านกับหลินชิงอวี่รู้ก็เหมือนไม่รู้ แบบ ! ถ้าไม่รู้เลยว่าคาใจ แต่พระเอกเล่นสปอยล์นิยายต้นฉบับก็สปอยล์ไม่หมด น่าตีมาก ! มาค่ะ ก่อนที่ตรงนี้จะกลายเป็นพาร์ทชวน Talk มาปูเสื่อ ฟังเราเล่าเนื้อเรื่องสักครู่นะคะ

 

 

คุณชายปลาเค็ม

            หลินชิงอวี่ จำต้องแต่งงานเข้าจวนโหวเพื่อแก้เคล็ดตามคำบัญชาของฮ่องเต้และฮองเฮา ทำให้ความฝันการเป็นหมอของเขาต้องพังทลายลง ในใจของท่านหมอหลินจดบัญชีแค้นไว้ทั้งหมด ไล่จากเบื้องบนถึงเบื้องล่าง ไม่เว้นไว้แม้สักคนเดียว ทว่าเมื่อท่านโหวน้อยขี้โรค ลู่หวั่นเฉิง ฟื้นขึ้นมาด้วยความสับสน ไม่เพียงไม่รู้จักตน ยังเหมือนจำเรื่องราวของตัวเองคลาดเคลื่อน คนผู้นี้จึงถูกลบออกจากบัญชีรายชื่อ หลินชิงอวี่เพียงรอให้อีกฝ่ายสิ้นชีวิตเองจากโรคร้ายภายในครึ่งปีนี้ก็พอแล้ว ทว่าการฟื้นอย่างน่าอัศจรรย์ของลู่หวั่นเฉิงครั้งนี้กลับทำให้หลินชิงอวี่ค้นพบอยู่ 3 ประการ หนึ่ง คือ จวนโหวแห่งนี้ดูจะไม่อบอุ่นสงบสุขดังที่คิด มารดาเลี้ยงของลู่หวั่นเฉิงดูท่าจะอยากให้บุตรบุญธรรมผู้นี้จากไปเร็วกว่าตัวเขาเสียอีก สอง คือ โหวน้อยผู้นี้มิอาจดูเบา นอกจากเข้าใจเรื่องราวในจวน ยังเหมือนมอง มุมมืด ในตัวเขา ที่แม้แต่ครอบครัวยังไม่ทราบได้ทะลุปรุโปร่ง และประการสุดท้าย อีกฝ่ายตั้งใจเป็นปลาเค็มอย่างแท้จริง ! แค่ลุกกินข้าวยังกินบนเตียง ชีวิตก็ไม่หวังจะอยู่ต่อเอาแต่นั่งหยอกเขาเล่นให้ปวดหัวน่าปายาทิ้งยิ่งนัก เขาจะเหนื่อยคิดให้ฝ่ายเพื่ออะไร !!

 

คนงามอสรพิษ

            ภายในจวนโหวดูเหมือนจะไม่สงบสุขนัก ทั้งที่ลู่หวั่นเฉิงป่วยไม่อาจรักษาหายขนาดนี้ มารดาเลี้ยงและพี่น้องยังเวียนมาหาเรื่องกันไม่หยุด แน่นอนว่าตัวแปรย่อมอยู่ที่หลินชิงอวี่ เมื่อบุตรคนโตจวนโหวแต่งงานมีภรรยา แม้เป็นชายก็น่าหวั่นเกรงอำนาจในจวนจะเปลี่ยนมือ แม้ยากสักหน่อยแต่หลินชิงอวี่มีหนทางรับมือ ทว่าเมื่อเผชิญปัญหาหลายครั้งปลาเค็มบางคนมักสลัดขนลุกจากเตียงมาปกป้องเขาอยู่ร่ำไป ในใจไม่เกิดความรู้สึกดี ๆ กับอีกฝ่ายย่อมเป็นไปไม่ได้ยิ่งลู่หวั่นเฉิงล่วงรู้ความคิดดำมืดของตนแล้วยังยอมรับตัวตนนั้นได้ หลินชิงอวี่ยิ่งวางใจไว้กับอีกฝ่ายมากขึ้นเท่านั้น เขาพยายามปรับตัวยายืดชีวิตของท่านโหวน้อย คอยดูแลอีกฝ่ายเป็นอย่างดีด้วยตนเอง ไม่ยอมให้ลู่หวั่นเฉิงเจ็บปวดมากเกินไปและไม่ยอมให้ต้องแปดเปื้อนด้วยเลือดอย่างเด็ดขาด แต่มีคนบังอาจมาทำให้เกิดเรื่องต้องห้ามเหล่านี้คนที่ทำเช่นนั้น ต้องตาย !

 

คี่เปลี่ยนคู่คงเดิม

              สำหรับความรักของคู่นี้จะว่ายังไงดี ทางคุณพระเอก เราคิดว่าเขาน่าจะรู้ตัวแล้วล่ะค่ะ ว่าอาการห่วงหวง
หัวใจเต้นแรงจนเป็นลม (เป็นลมจริง ๆ 5555) นั้นไม่ใช่แค่ความรู้สึกเพราะเป็นพี่น้องหรือสหาย แต่ทางคุณหมอหลินเหมือนยังตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ว่า เพื่อสหายรู้ใจ เขาสามารถทำได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ ? …แต่ ๆ ๆ มันก็ชวนคิดว่าฉากพระเอกชวนตั้งรหัสลับหากตนกลับมาได้ หมอหลินก็ตอบรับจริงจัง แถมนับวันรอตามที่พระเอกเสนอ สรุปแล้วคู่นี้เขา ??? 55555 ใครสนใจเรื่องนี้อยู่ ต้องลองอ่านดูแล้วล่ะค่ะ คุณหมอหลินเขาสหายโซนจริง หรือแค่ไม่เข้าใจตัวเอง แต่บอกเลยว่าคู่นี้เขารู้ใจกันมากกกกก พระเอกคือตามใจหลินชิงอวี่ทุกอย่าง ชอบนักเวลาคนงามคิดวางยาพิษชาวบ้าน หลินชิงอวี่ค้อนใส่บ่อย ๆ ว่าตนนิสัยเสียเพราะอีกฝ่าย 555555

 

              แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่มแรกนี้ ก็คือจบเรื่องราวในการแต่งงานครั้งแรกและเกริ่นต่อเนื่องปูไปยังครั้งที่สอง ถามว่าค้างไหมให้ไปเลยค้างระดับ 10/10 ค่ะ !!! ถึงเราอ่านเรื่องย่อมาและรู้ว่าการแต่งงานครั้งถัดไปพระเอกจะเข้าร่างท่านแม่ทัพ แต่ก็อดลุ้นไม่ได้ว่าเขาจะกลับมาเจอกันยังไง เพราะอุปสรรคสำหรับคนเป็นปลาเค็มนั้นมากมายเหลือเกิน เขาทำตัวขี้เกียจขนาดนี้ยังไม่ให้ลาออกกลับเมืองอีกกก เขามีนัด 100 กับภรรยาที่รัก ถ้าหมดเวลาท่านหมอหลินไม่รอเจอเขาแล้วจะทำยังไงงงงง 55555555

ใครสนใจเรื่องนี้อยู่ลองติดตามในเล่มกันดูค่ะ สนุกมาก ชอบการเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลินชิงอวี่ที่ต้องจับปมต่าง ๆ มาเชื่อมต่อเอาเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ชวนลุ้น ชวนเดาเนื้อเรื่องต้นฉบับสุด ๆ เลยค่ะ ส่วนในเล่มแรกนี้อยากจะบอกว่าใครอ่อนไหวกับการจากลาแบบเราอย่าลืมเตรียมทิชชู่กันไว้ด้วยนะคะ เรานี่ไม่คิดจริง ๆ รู้ทั้งรู้ว่าต้องมีฉากนี้ ไม่อย่างนั้นจะเข้าร่างใหม่ได้ยังไง แต่แบบบ เขาบรรยายจนน้ำตาไหลชุ่มเสื้อเลยค่ะ Y-Y ประทับใจ

 

ชวน Talk เนื้อนิยายต้นฉบับที่พระเอกอ่าน ความสัมพันธ์ตัวเอกและฉากประทับใจ (สปอยล์มากกก)

              อนึ่ง การชวนคุยเนื้อเรื่องนิยายต้นฉบับที่พระเอกอ่าน เป็นเราเดาปะติดปะต่อเองจึงอาจจะมีคลาดเคลื่อน
และ
/ หรือสปอยล์เนื้อหาไม่มากก็น้อยเลยล่ะค่ะ

              เราขอเรียกพระเอกว่าพระเอกนะคะ เพราะชื่อจริง ๆ ของพ่อหนุ่มเขายังไม่ได้รับการเฉลย ไว้รีวิวเล่มสองตอนนั้นคงได้เอ่ยชื่อจริง ๆ เขาแล้วกันค่ะ 555555 ตอนพระเอกตื่นขึ้นมาในร่างลู่หวั่นเฉิง เขาพึมพำชื่อหลินชิงอวี่และหลุดพูดออกมาประมาณว่า คนงามที่ตายในตำหนักบูรพาหรือ ? จากนั้นช่วงสักตอนสามตอนสี่ เขาก็ถูกใจบุคลิกนิสัยท่านหมอหลินมาก ถึงกับพึมพำว่า เสียดายจริง ๆ ที่อีกฝ่ายมีเสน่ห์ขนาดนี้กลับไม่ได้เป็นตัวเอก จากนั้นเนื้อเรื่องเล่มแรกก็จะเริ่มเผยปมและตัวละครต่าง ๆ ที่ทำให้พระเอกกังวลเรื่องของหลินชิงอวี่มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนอกจากเขาผูกพันกับอีกฝ่าย ชีวิตของตนก็ใกล้จะจบลงแล้ว ซึ่งหากเขาจากไป ก็จะไม่มีใครปกป้องชิงอวี่ได้อีก นั่นทำให้พระเอกเครียดนอนไม่หลับพยายามเรียบเรียงเนื้อเรื่องออกมาเพื่อช่วยอีกฝ่ายจากชะตากรรมในต้นฉบับ และนั่นทำให้เราคิดว่า

               นิยายต้นฉบับ หลินชิงอวี่ น่าจะเป็นตัวตัวร้าย (?) ประกอบคนหนึ่งที่ต้องแต่งงานเข้ามาจวนโหวเพื่อแก้เคล็ดให้ท่านโหวน้อย แต่การชีวิตที่นี่ไม่ได้ทำให้สงบใจได้นัก เพราะท่านโหวน้อยโอนอ่อนผ่อนตามมารดาและน้อง เราคิดว่าชิงอวี่คงต้องเอาตัวรอดเองแบบไม่มีใครช่วยอยู่คนเดียวตลอดครึ่งปี สะสมความแค้นจนทำให้จวนโหวล่มจม สุดท้ายเมื่อกลายเป็นอิสระ เขาก็สามารถกลับสู่เส้นทางหมอ และกลายเป็นหมอหลวงในที่สุด แต่ด้วยความงดงามของชิงอวี่ คงไปเข้าตาทั้งฮ่องเต้และรัชทายาทจากที่พระเอกระแวงรัชทายาทมากมากขนาดเก็บไปฝันร้าย เราคิดว่าสุดท้ายชิงอวี่อาจถูกบังคับแต่งงานอีกครั้ง และถูกซ้ำเติมความโชคร้ายนานา ณ ตำหนักบูรพา จนเจ้าตัววางแผนใช้พิษทำลายทุกคนและจบชีวิตตัวเองลงที่นั่น เลยเป็นที่มาของพระเอกตอนเข้าร่างแรก ๆ

              อันนี้เดาล้วน ๆ ตอนแรกเราคิดว่ามันคงเรียบง่ายประมาณหนึ่ง แต่กลายเป็นว่า เรื่องราวการแต่งงานครั้งแรกเหมือนเป็นเพียงการปูเนื้อเรื่องนิยายต้นฉบับเท่านั้น อาจเป็นแค่ท่อนก่อนเริ่มเนื้อเรื่องในนิยายฉบับจริงด้วยซ้ำ ของจริงกำลังจะเริ่มในการแต่งงานครั้งที่สอง และเราอยากรู้ว่าเรื่องนี้ ถ้าชิงอวี่ไม่ใช่ตัวเอก แสดงว่าจริง ๆ แล้วมีพระเอกตัวเอกนิยาย ??? ใครน้อ คุณพระเอกมาเฉลยเร็ววววว

              ความสัมพันธ์ของตัวละคร ก่อนจะพูดถึงสองตัวเอก เราชอบตัวประกอบรอบตัวมาก ๆ อย่างสาวใช้ประจำตัวของพระเอกกับบ่าวรับใช้ของชิงอวี่เป็นสองคนที่น่ารักมากและเรากำลังสร้างเรือไว้พายคู่นี้ค่ะ 55555 เราชอบฉากที่สาวใช้ตัวน้อยร้องไห้ขอติดตามชิงอวี่ไปด้วย สาวน้อยบอกเขาว่าคุณชายสั่งไว้ให้ดูแลท่านกินข้าวครบทุกมื้อพาบ่าวไปด้วยเถอะ แล้วชิงอวี่ที่ไม่ค่อยแคร์ใครคือ ยิ้มรับ พาไปด้วย ส่วนทางบ่าวรับใช้ชิงอวี่เราชอบตอนท้ายชีวิตแต่งงานที่หนึ่ง เขาพอจะรู้ว่าพระเอกน่าจะ เปล่งประกายก่อนโรยรา เจ้าตัวก็ฮึบไม่ร้องไห้พยายามยิ้มทำตัวปกติ แต่พอเห็นพระเอกจากไป คือวิ่งร้องห่มร้องไห้คนแรก ฟุบกอดขาพระเอกไว้แบบทำใจไม่ได้ เอ็นดูสองคนนี้มาก ๆ เห็นถึงความสัมพันธ์ของสองฝั่งที่แรกเริ่มต่างแปลกหน้า ทว่าสุดท้ายกลับผูกพันไม่แยกจาก

              ทางสองตัวเอก เราชอบการยอมรับตัวตนของกันและกันมาก ๆ ต่างก็เป็นจุดพักพิงของกันและกัน โดยอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ชิงอวี่ที่นำเรื่องเกิดในครอบครัวที่พ่อแม่เป็นคนดีมาก ๆ ดีในที่นี้คือเมตตา ใจกว้าง และชอบช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งน้องชายเขาก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น แต่ตัวเขากลับไม่ใช่ เขาเป็นคนใจแคบ ชั่งน้ำหนักบุญคุณความแค้นชัดเจน การเป็นหมอนอกจากรักษาคน เขายังศึกษาพิษสารพัดอย่างเพื่อจัดการคนที่กล้าล้ำเส้น ซึ่งตัวตนด้านนี้ตัวเขาต้องซุกซ่อนไว้ ครอบครัวไม่รู้ คนนอกมองเขามาก็ดูไม่ออกและไม่คาดคิด แต่พระเอกกลับดูออกแถมยังยอมรับได้ ไม่พอยังสนับสนุน ปกป้องข้างตัวเขาตลอด เราคิดว่านั่นทำให้ชิงอวี่สบายใจมาก มากจนไม่อยากเสียอีกฝ่ายไป ช่วงหลังเห็นเลยว่า ตัวเอก
ถนุถนอมพระเอกสุด ๆ ลงมือดูแลเองทุกอย่าง ใครพูดว่าร้ายพระเอกจัดการเรียบ หนึ่งในตอนที่ทำให้เรารู้สึกว่า หากเปรียบหลินชิงอวี่เป็นมังกร พระเอกก็คือเกล็ดย้อนที่ห้ามแตะต้อง คงเป็นตอนพระเอกถูกทำให้กระอักเลือด แบบบบ องค์เจ้าแห่งพิษลงทันที ชอบการบรรยายมากเขาดูแลของเขาอย่างดี แต่คนคนนั้นกลับขวัญกล้า
! …และตอนที่เรารู้สึกว่าชิงอวี่เห็นพระเอกเป็นจุดพักพิงก็คือหลังจากเขาจำจัดคนคนนั้นทิ้ง แล้วพระเอกยังไม่ฟื้นตัวเอกที่มักมั่นคงกลับนั่งอยู่ข้างเตียงพระเอกและพูดออกมาว่า “หวั่นเฉิง ข้าทำเรื่องเลวร้ายอีกแล้ว” แบบเราน้ำตาซึม หมอหลินจะขาดพระเอกได้จริงเหรอ ฮือออออ >> แน่นอนค่ะนี่คือหนึ่งในฉากประทับใจขอเราเลยยย

              ทางพระเอกจริง ๆ ไม่ต้องเล่ามาก เพราะตัวเอกมักบรรยายเสมอว่า คนผู้นี้มักทำตัวตามสบาย หลุดพูดอะไรประหลาดยามอยู่กับ คนกันเอง แต่ไม่เคยหลุดมาดใด ๆ เลยกับคนนอก นั่นคือชัดเจนมากว่าชิงอวี่ก็รู้ว่าพระเอกไว้ใจตนสุด ๆ ปล่อยให้หยั่งเชิง ปล่อยให้จับปมต่าง ๆ ไป แต่จังหวะที่เราคิดว่าน้ำหนักหมอหลินในใจพระเอกมันมากเกินกว่าตัวละครโปรด พี่น้อง หรือสหาย คงเป็นการที่เขาสลัดทุกความสบายคิดเนื้อเรื่องอย่างหนักเพื่อหาทางออกไม่ให้ชิงอวี่พบจุดจบแบบเดิมพระเอกคิดจนเก็บไปฝันร้าย เขาถึงกับสะดุ้งตื่นกลางดึก พอไม่เห็นคนที่นอนห้องเดียวกันเสมอก็ฝ่าฝนออกมาหา จังหวะนั้น ชิงอวี่ถึงกับพุ่งตัวออกไปพยุงพระเอกไว้ จับมือเขาไว้แน่น และนั่นเป็นครั้งแรกที่พระเอกพูดคำว่า ปล่อยวางไม่ได้ คนที่ปลงชีวิตเตรียมใจจากไปทุกเมื่อ กลับปล่อยวางไม่ได้เพราะรู้ว่าชิงอวี่จะมีชีวิตไม่สงบสุข ฉากนี้เราว่ามันเป็นการก้าวข้ามเส้นความรู้สึกบางอย่างของทั้งคู่เลยค่ะ (ลองอ่านกันดูนะคะว่าคิดเหมือนกันไหม เราชอบฉากนี้มากกก)

แน่นอนว่าคนอ่านและชิงอวี่ไม่รู้เลยว่ามันคือเส้นทางชีวิตแบบไหนในเนื้อเรื่องเดิมที่ทำให้พระเอกถึงกับฝันร้าย ได้แต่รออ่านต่อเลยค่ะ ลุ้นมาก

ยาวแล้ว 55555 ไม่ได้ Talk ยาวขนาดนี้มาสักพักเลยค่ะ แต่จุดให้เม้าท์เยอะมากจริง ๆ

สุดท้ายย ฉากประทับใจสุด ๆ คงไม่พ้นฉากสุดท้ายของการแต่งงานครั้งแรก ร้องไห้หนักมากเลยค่ะท่ามกลางหิมะแรกโปรยปราย ลู่หวั่นเฉิงนั่งอยู่ตรงนั้น รอเขากลับมาโฮฮฮฮฮฮ

 ใด ๆ คู่นี้เราชอบการสกินชิฟฝั่งชิงอวี่มาก ๆ ชอบเวลาเขารองแก้มพระเอกเวลาสัปงก หรือคอยจับมือเอาไว้ตอนพระเอกมีเรื่องในใจ แม้แต่ตอนเจ็บปวด หรือจากไปก็กอดไว้กับอก คือดีงามมากจริง ๆ ค่ะ แต่ชอบสุดในเรื่องนี้เล่มแรกก็คงรองแก้มเนี่ยแหละ บ่อยมาก น่ารักก ฮืออ ทำไมเรารู้สึกว่าชิงอวี่โพมัมหวั่งเฉิงสุด ๆ ก็ไม่รู้ ลูกข้าใครอย่าแตะ 55555 แหมะ พอแต่งงานครั้งที่สองพระเอกแข็งแรงแล้วจะเป็นยังไงต่อไปนะ ขอเล่มสองเลยได้ไหมคะ //ส่งตาวิ้ง ๆ

ใครชอบแนวนี้ลองอ่านทดลองอ่านกันก่อนได้นะคะ ใครเริ่มแล้วมาเม้าท์กันได้ค่ะ ส่วนใครกำลังลังเลว่าจะดองหรืออ่านเลยอ่านเลยค่ะอย่ากลัวค้าง ! (หาคนคาใจเป็นเพื่อน 555555)


ชาแดง



วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2567

รีวิว ภรรยาหนุ่มวาสนาดี เล่ม 1 (ยังไม่จบค่ะะ)

 




ภรรยาหนุ่มวาสนาดี เล่ม 1

ผู้แต่ง Yu Lai Chi

ผู้แปล Breadknight

ผู้วาด Fsang12

เรื่องย่อ

              โจวจี้เหนียน ลืมตาอีกครั้งก็พบว่าตนย้อนกลับมาตอนตนอายุ 18 ปี ชาติก่อนเขาไต่ระดับจนพาตัวเองอยู่ในตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายขวา กวาดล้างศัตรูจนสิ้นไม่มีอะไรให้ห่วงหาอีกนอกเสียจากหนี้ชีวิตที่ติดไว้กับ เซี่ยหนิง ชาตินี้เมื่อได้โอกาสดำเนินชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาจะดูแลครอบครัวให้ดี และแต่งงานกับเจ้าปลาน้อยไว้ข้างกาย เพื่อดูแลอีกฝ่ายในฐานะภรรยาให้มีความสุขไปชั่วชีวิต

 

ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

              ขอเปิดนิยายปี 2024 ด้วยแนวย้อยเวลาแก้ไขอดีตมาดูแลภรรยาและครอบครัว ภรรยาหนุ่มวาสนาดี เล่ม 1 ค่ะ >< เรื่องนี้คุณพระเอกฟื้นกลับมาสมัยที่เขายังอยู่ในบ้านที่คุณย่ามีลูกหลายคนและรักลำเอียง ทำให้ตัว โจวจี้เหนียน พยายามดิ้นรน เล่าเรียนเพื่อทำให้ครอบครัวของเขาอยู่ดีกินดีมีหน้ามีตา ซึ่งพระเอกก็ทำได้ค่ะ และชาตินั้นเรียกได้ว่าเขาประสบความสำเร็จจริง ๆ ทว่ายังมีคนคนหนึ่งติดอยู่ในใจเขาเสมอมาจนช่วงใกล้สิ้นลม มาค่ะใครคนนั้นของพระเอกจะเป็นยังไง และพระเอกจะตกหลุมรัก ดูแลเขาเป็นอย่างดีขนาดไหน ปูเสื่อฟังเราเม้าท์สักแป๊บนะคะ

 

แด่ชีวิตแสนสั้นไม่รู้วันตาย หากโชคดีได้พบกันใหม่

              โจวจี้เหนียน ชาติก่อนเขาได้เป็นถึงเสนาบดีฝ่ายขวา เรียกได้ว่าเป็นคนเก่งที่บริหาร คุมเมืองกันเลยทีเดียว ทว่าในตอนเปิดตัว เขาเล่าว่าสองมือเปื้อนเลือดกำจัดศัตรูจนหมดไม่มีอะไรให้ห่วงแล้ว จะติดเพียงอย่างเดียวคือหนี้ชีวิตที่ไม่อาจใช้ให้ เซี่ยหนิง ได้เมื่อย้อนเวลากลับมาช่วงอายุ 18 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาทางเลือกพอดีว่า เขาจะเดินเส้นทางเดิมในการเข้าเมืองสร้างชื่อเสียงโดยเร็ว หรือดูแลครอบครัว พร้อมทั้งเปลี่ยนชะตากรรมของเซี่ยหนิงที่กำลังถูกถอนหมั่นกับญาติผู้พี่ของเขา เราเชื่อว่าทุกคนเดาได้ว่าพระเอกเลือกอะไรเขาต้องเลือกแต่งงานกับเซี่ยหนิงแทนญาติคนนั้นอยู่แล้ว! ชาติที่แล้วเซี่ยหนิงซึ่งเดิมเป็นเกอที่ทุกคนหมายปองกลายเป็นที่รังเกียจ เพราะป่วยเป็นโรคผิวหนังประหลาด ชีวิตได้แต่ติดตามญาติผู้พี่คนนั้นในฐานะเพื่อนร่วมเรียน จนหลายปีผ่านไปโจวจี้เหนียนเมาเหล้าและได้หลับนอนกับอีกฝ่ายจึงได้ดูแลลับ ๆ ในห้องข้าง ทว่าคนคนนี้เองที่ปกป้องเขาจนตัวตาย มีหรือโจวจี้เหนียนจะปล่อยให้เซี่ยหนิงต้องเผชิญชะตากรรมแบบเดิม...แน่นอนว่าไม่มีทางงง คุณพระเอกเชื่อมั่นว่าตนอ่านหนังสือมากมายขนาดนี้ไม่เชื่อหรอกจะดูแลรักษาว่าที่ภรรยาคนนี้ให้หายป่วยและอยู่ดีกินดีไม่ได้ !

 

หากได้ชดเชยสิ่งที่เคยพลาดไป คงจะดีไม่น้อย

              ทางเซี่ยหนิง ความจริงอาการป่วยของเขาเป็นปริศนาจากการตกน้ำเพื่อช่วยพี่ชาย ระหว่างดิ้นรนเขาเหมือนเห็นปลาไนสีแดงมากัด พอขึ้นจากน้ำเขาก็กลายเป็นโรคผิวหนังประหลาด และมีอาการร้อนจนต้องโดดลงไปในน้ำ เด็กหนุ่มไม่คาดหวังให้ใครมาสู่ขอตนอีกแล้วหลังจากเป็นโรคนี้ เขารู้ตัวดีว่าเป็นที่รังเกียจ ทว่าโจวจี้เหนียนกลับส่งแม่สื่อมาสู่ขอเขา ? นี่คือฝันไป ? สามีคนนี้ดูตั้งใจแต่งกับเขาจริง ๆ ไม่มีท่าทีรังเกียจเขาเลย แถมยังตั้งถังไม้ใส่น้ำให้เขาไว้ให้ในห้อง ยอมให้เขานอนในน้ำโดยไม่รู้สึกว่าประหลาดอีกด้วย นี่เขาเป็นคนวาสนาดีเช่นนี้เชียว ???

คนอ่าน : ไม่ค่ะหนิงหนิง เรานั่นแหละความโชคดีของจี้เหนียนและครอบครัวในชาตินี้

 

ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้าด้วยรัก

              นอกจากเรื่องของคู่ตัวเอกแล้ว ยังมีเรื่องครอบครัวให้เอาใจช่วยคุณพ่อและคุณป๊าด้วย ครอบครัวเซี่ยหนิงอย่างคุณพี่ชายเองก็ดูมีบทบาทสำคัญมาก ๆ คาดว่าในชาตินี้คงมีเส้นทางชีวิตที่ต่างออกไปจากชาติก่อนเพราะน้องเขยคนนี้แล้วล่ะค่ะ สำหรับเรื่องราวความรัก คู่นี้เป็นไปอย่างน่ารักเลยค่ะ พี่จี้เหนียนจากเดิมแต่งกับน้องเพื่อมาดูแลชดเชยหนี้ชีวิต กลายเป็นตกหลุมรักเพราะน้องคนนี้น่ารักไม่ไหวแล้ววว เซี่ยหนิงเป็นคนใส แต่ไม่ได้ซื่อขนาดไม่ทันคน ขณะที่จี้เหนียนพยายามเรียนใหม่เพื่อพาทั้งครอบครัวออกจากที่แห่งนี้ไปด้วยกัน ไม่ใช่ออกไปเพียงลำพักแบบชาติก่อน ก็มีเซี่ยหนิงเนี่ยแหละค่ะ คอยหนุน คอยสอดส่องเรื่องราวของพ่อและป๊า ทำให้อะไรหลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่แตกต่าง ลำบาก แต่ดูจะอบอุ่นและดีขึ้นสำหรับจี้เหนียน บอกเลยว่าในเล่มแรกดูสบาย ๆ ลุ้น ๆ หวาน ๆ อบอุ่น ๆ แต่ก็มีเรื่องราวให้ลุ้นจากความไม่รู้เส้นทางอนาคตในไทม์ไลน์นี้ของพระเอกในเราได้เห็นด้าน มือเปื้อนเลือด ของเขากันค่ะ

 

สำหรับเรื่องนี้ตอนเราอ่านตัวอย่างก็รู้สึกว่าชาติใหม่นี้กะว่าพระเอกต้องมาเหนือ ไม่มีอะไรเกินมือเขาแน่นอน ที่ไหนได้ การตัดสินใจเลือกเส้นทางที่แตกต่างจากชาติที่แล้วกลับทำให้เส้นเรื่องที่ควรซ้ำรอยเดิมให้นักอ่านอย่างเราลุ้นว่าพระเอกจะแก้เกมดีกว่าชาติก่อนยังไง กลายเป็น ลุ้นว่าพระเอกจะทำยังไง เมื่อเจอเส้นทางที่ไม่เหมือนเดิมค่ะ ความไม่รู้ของพระเอกทำให้เราอ่านเพลินมาก ที่คิดว่าพระเอกจะมาสายซูกลายเป็นไม่ใช่เสียแล้ววว นี่เรายังนั่งคิดอยู่ว่าการย้อนเวลาของพระเอกยังไงก็ต้องมีที่ไปที่มาแน่ ๆ รวมถึง โรคผิวหนัง ของเซี่ยหนิงปลาไนสีแดง เหมือนเราจำว่านิยายเรื่องอื่นเหมือนกล่าวถึงปลาชนิดนี้เป็นปลานำโชคของจีน ? น้องจะกลายเป็นเงือกหรือมังกรรึเปล่า ?? (เดาแบบเว่อ ๆ ขำ ๆ 55555) ใด ๆ เล่มแรกนี้เหมือนจะไม่ค้าง ??? มากนัก พอจะมีจังหวะให้หายใจรอเล่มสองแบบชิล ๆ ได้ค่ะ ใครชื่นชอบแนวนี้ลองไปทดลองอ่านกันดูได้นะคะ แอบคิดว่าทุกคนน่าจะตกหลุมรักน้องเซี่ยหนิงกันแน่ ๆ

อนึ่งมีการบรรยายฉากเกี่ยวกับเนื้อและเลือดในช่วงหลัง ใครไม่โอเคโปรดระวัง (เนื่องจากเราอ่านละตกใจเพราะสงสารตัวละคร มันติดอยู่ในใจค่ะ เผื่อใครไม่โอเคจะได้เตรียมใจกันก่อน)

อนึ่ง (ครั้งที่สอง) ชอบคำนำของคุณนักแปลมากเลยค่ะ เรานำส่วนหนึ่งมาใช้เป็นท็อปปิกแต่ละพาร์ทนะคะ เข้ากับเนื้อเรื่องมากเลยค่ะ แทนใจพี่จี้เหนียน ;---;

 


ชวน Talk ปลาพระอาทิตย์จี้เหนียน (สปอยล์มากกกก)

ลังเลมากเพราะกลัวสปอยล์มากไป แต่แบบอย่างคุยฉากนี้มากเลยค่ะ เราชอบฉากที่จี้เหนียนเสียเซี่ยหนิงไปแล้วเขาจะตายตาม เพราะเขาคาดว่ายังสามารถย้อนเวลาได้ และจะได้ปกป้องอีกฝ่ายทัน แบบบบบ เราชอบการเล่นประเด็นนี้ของคนย้อนเวลามาก ๆ มันเหมือนจุดอ่อนแอในใจ ขณะเดียวกันก็ขยี้ให้เห็นน้ำหนักของเซี่ยหนิงในใจจี้เหนียน เราชอบที่เขาตั้งสติขึ้นมาว่าตายไม่ได้ต้องแก้แค้นก่อนด้วยค่ะ เหมือนในที่สุดหลังจากพานักอ่านเห็นชีวิตที่เริ่มต้นใหม่ซึ่งเป็นมุมสงบของพระเอกมากเกือบจะจบ ในที่สุดก็เผยด้าน อดีตเสนาบดีฝ่ายขวา ให้เราได้ติดตาม สำหรับเราเรื่องนี้เล่าเส้นเรื่องตัวละครในความควรซูแต่ไม่ซูดีค่ะ แอบลุ้นเลยว่านอกจากปริศนาหลักสองเรื่องอย่างการย้อนเวลากับโรคของเซี่ยหนิง พาราเรลเวิร์ลนี้พระเอกของเรายังจะได้เป็นขุนนาง ? และไปได้สูงสุดที่ตรงไหนค่ะ



 ชาแดง


วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2566

รีวิว หน้าตางามเลิศล้ำแล้วมีประโยชน์อันใด (จบ)

 




รีวิว หน้าตางามเลิศล้ำแล้วมีประโยชน์อันใด (จบ)

ผู้เขียน ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ

ผู้แปล ชานมไข่มุกหวานร้อย

ผู้วาด Qian Er Bai

สำนักพิมพ์ Rose Publishing

เรื่องย่อ

    ฉีเซ่อเจียง เป็นผู้สืบทอด “จื่อตี้ซู” คนสุดท้าย เขาจากโลกด้วยโรคไทฟอยด์อย่างโดดเดี่ยว แต่เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เขากลับข้ามเวลามาถึงแปดสิบปีให้หลัง ในร่างดาราหนุ่มหน้าตาดี ที่ดูเหมือนจะได้ชื่อว่าเป็นแจกันดอกไม้ของวงการ และกำลังถูกเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วเป็นลูกของดาราสาวในวงการท่านหนึ่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นแจกันดอกไม้เช่นกัน เพื่อฟื้นฟู ศิลปะแห่งชาติไม่ให้สาบสูญ ฉีเซ่อเจียงจึงเลือกที่จะยอมรับสายสัมพันธ์ครอบครัวและเลือกสายอาชีพใหม่ที่ทำให้ทั้งวงการบันเทิงต้องตกตะลึง!


ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

    หน้าตางามเลิศล้ำแล้วมีประโยชน์อันใด เป็นหนึ่งในเรื่องที่ประทับใจมากระดับต้น ๆ ของคุณ
ลาเหมียนเลยล่ะค่ะ ! ไม่ว่าจะเป็นที่ความสัมพันธ์ของสองตัวเอก การดำเนินเรื่องที่มีปมดราม่าของยุคสมัยที่ศิลปะ วัฒนธรรมเป็นเรื่องต้องห้าม การรอคอย และการนำเสนอศิลปะพื้นบ้าน ซึ่งเราอ่านแล้วทำให้นึกถึงบ้านเราเลยค่ะ อย่าง ฉ่อย ลำตัด รำวง หรือ แหล่ และอื่น ๆ ที่เราอาจจะไม่รู้จักหรือหายไปแล้วเหลือแต่เพียงชื่อให้ศึกษา ต้องยอมรับว่า ตอนอ่านเรื่องนี้อาจไม่เข้าใจถึงรูปแบบการร้องรำต่าง ๆ เพราะไม่คุ้นเคย ทว่าพออ่านถึงจังหวะตัวเอกขึ้นแสดง เราจะมีการเชื่อมโยงมาที่ศิลปะบ้านเราเลยค่ะ อ่านแล้วก็รู้สึกนับถือนักเขียน ไม่ง่ายจริง ๆ ที่จะย่อยสิ่งเหล่านี้ลงมาให้ติดตามในแบบของนิยายแล้วสนุก ถ้าทางบ้านเรามี ก็น่าสนใจมากจริง ๆ ค่ะ ส่งกำลังใจให้เหล่าคุณนักเขียนนน ใด ๆ สำหรับเรื่อง หน้าตางามเลิศล้ำแล้วมีประโยชน์อันใด จัดว่าเราชอบมากแบบที่หยิบซ้ำ ๆ ได้ พอ ๆ กับครึ่งเซียนฯ เลยค่ะ ! แน่นอนว่าพระเอกไทป์ของเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวด ซึน ค่ะ 5555555


หน้าตางามเลิศล้ำเป็นเหตุ

        เหมือนพูดมาไม่มีชื่อพระเอกปรากฏเลยนะคะ 555555

    ฉีเซ่อเจียง ตื่นขึ้นมาในร่างดาราหนุ่ม ซึ่งเขาพบว่าเป็นช่วงเวลาในอีกแปดสิบปีถัดมาหลังจากเขาเสียชีวิต ในชีวิตก่อนเขาเป็นศิลปินพื้นบ้านที่ทำมาหากินด้วย ‘เซี่ยงเซิง’ อืมมม ถ้าเล่าตามความเข้าใจของเรา เซี่ยงเซิงมีความคล้ายเดี่ยวไมค์โครโฟน หรือ ฉ่อย ผสมกัน << อันนี้เทียบด้วยขอบเขตความรู้ศิลปะพื้นของเราที่มีอยู่จำกัดนะคะ >> แต่มีรูปแบบและจังหวะสอดรับของคำขึ้นและคำลงเป็นของตัวเอง เป็นการเล่าเรื่องที่สอดแทรกมุกตลกเข้าไป ต้องใช้ไหวพริบของผู้แสดง และข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมาก ๆ ตอนอ่านเราค่อนข้างเพลินไปกับเราบรรยายแสดงของอาชีพนี้มาก ๆ เลยค่ะ สิ่งที่เราว้าวอย่างหนึ่งของเซี่ยงเซิงก็คือ ศิลปินต้องออกตามหา ‘คู่’ ของตนเองค่ะ ดีงามมากกก ฮิคารุเซียนโกะสุด ๆ เลยค่ะ (อะไรของเรา 55555)

    สำหรับตัวของฉีเซ่อเจียงในปัจจุบันเมื่อเขายอมรับให้คุณแม่เปิดเผยความสัมพันธ์แม่ลูก เขาก็เดินหน้าในการเปลี่ยนจากเป็นดารา มุ่งสู่เส้นทางเซี่ยงเซิง แน่นอนว่า ฝั่งศิลปินพื้นบ้านค่อนข้างยอมรับผู้มีที่มีอาจารย์ หรือฝึกประกอบอาชีพสายนี้อย่างจริงจัง ฉีเซ่อเจียงจึงต้องพิสูจน์ฝีมือให้พวกเขาเห็น ขณะเดียวกัน ฐานะดาราของเขาก็ทำให้คนรุ่นใหม่เริ่มติดตามด้วยความสงสัยว่า เขาร้องอะไร ? เซี่ยงเซิงคืออะไร? เขาจะเลิกเป็นดาราจริง? หรือนี่ก็แค่ ข้ามสายชั่วคราว!? หน้าตาดีขนาดนี้ ไม่น่าทิ้งวงการบันเทิงนะ!


ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าโทรศัพท์กดโทรออกยังไง

    มาค่ะ ทางนี้ค่ะพระเอก “จางเยว์” พิเศษในเครื่องหมายคำพูดให้เขาสักหน่อย ชดเชยที่กว่าครึ่งของการเล่ายังไม่ได้กล่าวถึงเลยแม้แต่ในความรู้สึก 555555 พระเอกคนนี้แสบตรงที่ เขาเป็นนักร้องวงไอดอล ที่เดบิวต์มาด้วยทุกคนรู้นิสัยว่า เจ้าตัวไม่ค่อยไว้หน้าใคร หรือพูดง่าย ๆ คือปากเสียประจำ แน่นอนว่า ฉีเซ่อเจียง ก็เคยโดนเขาแซะตอนเข้าร่างใหม่ ๆ แล้วนั่งนิ่ง ๆ ไม่ตอบอะไร ดังนั้น ตอนที่พบกันหน้าตึกบริษัท แล้วฉีเซ่อเจียงเดินเข้าไปถามจางเยว์ว่ามือถือกดยังไง เพราะเขามาจากแปดสิบปีก่อน ใช้ของทันสมัยยังไม่ค่อยเป็น (มีความ Culture Shock สมอายุจริงสุด ๆ ค่ะ) พ่อพระเอกจางเยว์เลยคิดว่าตัวเองโดนหาเรื่องค่ะ หลังจากนั้นพอฟังเพลงที่ฉีเซ่อเจียงร้องครั้งแรก แล้วคนพากันฟังไม่ออกว่าเขาร้องอะไร แล้วหาว่าเขาร้องเพี้ยง จางเยว์กลับเป็นคนที่ฟังแล้วชอบ ไม่ใช่แค่ฟังซ้ำ ๆ จนร้องตามได้ด้วยนะคะ ปรับแต่งจนสมบูรณ์กว่าตอนฉีเซ่อเจียงขึ้นโชว์กับคุณแม่ได้ด้วยค่ะ! จางเยว์ไม่ได้แซะอีก มีโต้คนโน้นคนนี้คืนให้ด้วยหลังฟังเพลงนั้น พอได้มาร่วมงานกันจริง ๆ ยิ่งเข้ากันได้ดีมากกกกกกกกกกกกก ความจางเยว์แต่เพลงเองเป็นอะค่ะ เขามาช่วยฉีเซ่อเจียงเรียบเรียงเพลงพื้นบ้านให้ทันสมัย คือเคมีดี จริง ๆ


เหมือนเราจะเล่าความสัมพันธ์คู่นี้ไปแล้ว 55555

    จุดเริ่มต้นคู่นี้ ตามด้านบนเลยค่ะ แน่นอนว่า เรื่องคุณลาเหมียนยังคงคอนเซ็ปต์ พระเอกตกหลุมรักก่อนเหมือนเดิม เพิ่มเติมที่ ฉีเซ่อเจียง…คนผ่านโลกมาเยอะ เขาดูออกค่ะ แต่เพราะมีปมในใจ ปมเวลา หลาย ๆ อย่างติดตามมาตั้งแต่แปดสิบปีก่อน ดังนั้น พอเขายังเคลียร์ไม่ได้ เลยไม่กล้าแสดงออกว่าตนคิดยังไง แต่แบบ เราชอบมากจริง ๆ ที่เนื้อเรื่องทำให้สองคนนี้อยู่ด้วยกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป แล้วจางเยว์มักเป็นคนที่อยู่ตรงนั้นและอยู่ในเวลาที่ฉีเซ่อเจียงไม่มีใครเสมอ แถมพระเอกคนนี้ ยังละเอียดอ่อนกว่าที่เห็นภายนอกมาก อยากแนะนำให้ลองอ่านค่ะ ถ้าชอบแนวนี้ พระเอกซัปพอร์ตดีมากจริง ๆ ฉากพาขี่หลังเพราะรู้ว่าเจ็บเท้า หรือฉาก “จะแปดสิบปี หรือตอนนี้ไม่สำคัญ แค่เป็นนายที่อยู่ตรงนี้ก็พอ” << ประโยคคร่าว ๆ จากความทรงจำสีจาง >> ดีงามมากค่า


    รู้สึกเหมือนเกือบหลุดสปอยล์มาก หน้าตางามเลิศล้ำแล้วมีประโยชน์อันใด เล่าเพลินมากจริง ๆ ค่ะ ยิ่งเล่ายิ่งนึกถึง ยิ่งรู้สึกอยากชวน Talk 5555 แต่วันนี้ต้องมาเร็วไปเร็ว รีวิวในทวิตมาสักพักแล้ว แต่มีอะไรให้ป้ายยาอีกเยอะเลยค่ะเรื่องนี้ ตอนพิเศษคือดีงามเช่นกัน เป็นการยกพระเอกย้อนกลับไปแปดสิบปีก่อน แวะสปอยล์นิด ๆ ว่า ชอบความพี่ชาย ตอนแรกหวั่นใจน้องชายไปติดนักร้อง (เซี่ยงเซิง) กลัวน้อง (ก็คือพระเอก) เปย์เงินเสียคน เลยย่องตามไป ปรากฏ ดันไปเห็นว่าน้องชาย (ที่ร่ำรวยมากของตน) ดันให้นักร้องเปย์ตัวเอง! พี่ยอมไม่ได้ เสียหน้ามหาเศรษฐี! เอาหีบทองไปเปย์นักร้องเดี๋ยวนี้!

        // จางเยว์ : …ให้เงินผมทำไม ผมใช้เงิน (ยุคนี้) ไม่เป็น (555555)

    เอาเป็นว่า ถือว่าเรา Talk ไปในตัวนะคะ แบบบบบบ ไม่คิดจริง ๆ ว่าเรื่องนี้จะเล่าเพลิน ของป้ายยาอย่างเป็นทางการค่ะ //พับไมค์



เพ้อเจ้อชื่อเรื่อง

สักนิดดดด ด้วยตอนอ่านจบ เราเลยพอจะนึกภาพเซี่ยงเซิงได้บ้าง เลยแอบคิดว่า จริง ๆ แล้วชื่อเรื่องเองก็คือ การเรียบเรียงแบบเซี่ยงเซิงไหมนะคะ ความรู้สึกเราดูใช่ รู้สึกว้าวมากค่ะ ! << คิดเอาเองว่าน่าจะใช่


ชาแดง



วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2566

รีวิว คำสาบานแห่งพันธสัญญาเงือก เล่ม 1-2 (ยังไม่จบค่ะ)

 




คำสาบานแห่งพันธสัญญาเงือก เล่ม 1-2

ผู้เขียน Yin Ye

ผู้แปล REAR

ผู้วาด Qing Lan Yan Yu

สำนักพิมพ์ Clover

เรื่องย่อ

        ฉีหนาน ฟื้นหลังจากออกปฏิบัติงาน และได้รับการเลื่อนขั้น พร้อมทั้งได้สิทธิเลือกคู่เป็น เงือก ได้ อย่างไม่คาดฝัน ! มีเรื่องดี ๆ แบบนั้นเกิดขึ้นกับเขาจริง ๆ เหรอ! แทบจะเหมือนฝันไปที่เขา คนที่มีพลังจิตระดับเกือบตกมาตรฐานการเข้าเป็นทหาร กำลังกายก็กลาง ๆ จู่ ๆ ระเบิดพลังกะทันหันปราบโจรสลัดจนรอดชีวิตมาได้ และตอนนี้ การที่เขาเข้ามาเลือกเงือกเป็นคู่ครอง ยังมีเงือกสนใจคนธรรมดาอย่างเขาจนเข้ามาทักทายเอง อีกฝ่ายงดงามและน่าทะนุถนอมดูแลเป็นอย่างมาก ฉีหนานตั้งมั่นแล้วว่า จะพยายามดูแล ลั่วซิวเจ๋อ เป็นอย่างดีหลังจากนี้!

ฉีหนาน: เรื่องย่อทั้งหมดนั่นเป็นแค่ภาพลวงตา

ลั่วซิวเจ๋อ: ข้าเป็นเงือกที่อ่อนไหวบอบบางมากนะ

ฉีหนาน: … นี่คุณกำลังล้อผมเล่นใช่ไหม


ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลาง…ถึงมากค่ะ)

        คำสาบานแห่งพันธสัญญาเงือก เป็นความเสียหายจากงานหนังสือค่ะ 555555 เราอ่านเรื่องนี้จบพักใหญ่ ๆ แล้วแต่ไม่มีโอกาสเขียนเล่าถึงยาว ๆ เรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซี ไซไฟ ที่น่าติดตามมากเรื่องหนึ่งเลยค่ะ ถ้าหากว่าชอบพระเอกแปลก…แค่ก…ชอบแนวโรงเรียน ไขปริศนา สงครามระหว่างดาว และตัวละมากมายให้สองตัวเองได้สานสัมพันธ์ตั้งตี้ เรื่องนี้ก็อาจจะใช่แนวค่ะ ซึ่งตอนเริ่มอ่านเราไม่คิดว่าจะออกมาเป็นแนวนี้เลยค่ะ ส่วนตัวคือ สนุก! ปมปัญหาโยงใยมากกว่าที่คิด ถ้าใครกำลังสนใจว่าเรื่องนี้เป็นแนวประมาณไหน ปูเสื่อนั่งกันสักครู่นะคะ


คุณพาเสี่ยวเจ๋อของผมไปไหวไหน

        จริง ๆ…เรื่องนี้นำโดยคนนี้เป็นส่วนใหญ่ ต่างหากค่ะ 555555 ลั่วซิวเจ๋อ เจ้าชายเงือกที่ตื่นขึ้นมาจากการจำศีลเพื่อเปลี่ยนสภาพร่างกายและก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ต้องพบว่า เหลือเขาเพียงตนเดียวในท้องมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ และเหนือน้ำนั้น กำลังมีหุ่นรบต่อสู้กัน ด้วยหุ้นที่กำลังได้เปรียบยิงปืนเลเซอร์เฉียดเส้นผมของเขา ลั่วซิวเจ๋อจึงตอบโต้อีกฝ่ายด้วยพลังจิตระดับสูง ทำลายสมองศัตรูโดยตรง ทำให้ ฉีหนาน ที่ถูกไล่ต้อนจนเกือบพลาดท่า รอดชีวิตมาได้ ด้วยความจริงใจ และความซื่อของฉีหนาน ลั่วซิวเจ๋อจึงเลือกให้อีกฝ่ายมาพบตัวเองโดยไม่เก็บทิ้งท้องทะเลไปอีกคน แน่นอนว่าเรื่องที่ฉีหนานตรงสเป็คเขามาก ไม่เกี่ยวเลยสักนิด แค่ก ลั่วซิวเจ๋อค่อนข้างประทับใจความตรงไปตรงมาของฉีหนาน จึงเลือกใช้พลังจิตอ่านความทรงจำของอีกฝ่ายจนรู้ประวัติชีวิต และความผิดปกติจากการโดนวางยาของฉีหนาน รวมถึงความเป็นไปของโลกนี้ ลั่วซิวเจ๋อตัดสินใจเปลี่ยนแปลงความทรงจำฉีหนานเล็กน้อย ให้เขาลืมตนเองไปชั่วคราว และปลอมตัวเป็น เงือก ในแบบที่คนบนโลกนี้รู้จักกัน แน่นอนว่า เจ้าชายท่านนี้เลือกที่จะรอให้ฉีหนานก้าวเท้าเข้ามาเลือกเขาเป็นคู่ด้วยตนเอง …เขาไม่ได้บังคับอีกฝ่ายเลือกเขาเลยสักนิด แค่จูงใจ! (ค่ะพี่)

ฉีหนาน: ประกาศหาเสี่ยวเจ๋อเงือก (ไม่) น้อยบอบบาง ไม่ทราบว่าใครเห็นบ้างไหม

ลั่วซิวเจ๋อ: อยู่ทางนี้ อยู่ตรงหน้า จะไปหาที่ไหนอีก

ฉีหนาน: …บางทีผมอาจจะยังไม่ตื่น //โดนหางฟาดปลุก//


เกล็ดแห่งพันธสัญญาคู่ชีวิต

        ถึงลั่วซิวเจ๋อจะดูมัดมือชกฉีหนาน แต่คุณเจ้าชายเขาก็คิดแล้วว่า เขาสามารถมีสิ่งตอบแทนฉีหนานได้ ด้วยจริง ๆ แล้วฉีหนาน เป็นคนสกุลฉี ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ แต่เพราะตัวเขามีพลังจิตและพลังกายระดับต่ำ จึงถูกขับออกจากตระกูล กลายเป็นคนที่ไม่สามารถกลับไปเหยียบดาวเมืองหลวงได้ แต่จากการตรวจสอบด้วยพลังจิตของลั่วซิวเจ๋อ เขาพบว่าฉีหนานถูกวางยา ทำให้สะกดพลังที่แท้จริงของเขาเอาไว้ แถมฉีหนานมีพลังพิเศษ ที่ต่อต้านพลังจิตสายควบคุมของเขาได้ (ต้องบอกว่าคุณลั่วระดับพลังจิต SS แบบพิเศษที่ควบคุมหได้ถึงสมอง แต่น้องฉีเขาสามารถต่อต้านได้ระดับหนึ่งทั้งที่พลังถูกสะกดอยู่ระดับต่ำ) ดังนั้น ลั่วซิวเจ๋อจึงเลือกฉีหนานมาเป็นคู่ตามกฎหมายเพื่อทำให้ตัวเองตามหาเผ่าพันธุ์เจอ ขณะเดียวกันเขาก็ตามหายาสูตรโบราณที่เขาเคยศึกษามาช่วยอีกฝ่ายถอนยา อีกทั้งช่วยฝึกฝนให้เก่งขึ้นอีกด้วย…ทว่า เขาคาดการณ์ความโหดร้ายของคนวางยาผิดไป ยาตัวนี้ไม่ได้ทำหน้าที่แค่สะกด แต่ยังจำกัด และพร้อมกำจัด เจ้าของร่าง ถ้าอีกฝ่ายคิดพัฒนาตัวเองเกินกว่านี้ ความทรมานจะกัดกินฉีหนานถึงชีวิต…ลั่วซิวเจ๋อไม่เคยคิดทำร้ายฉีหนาน และเขาค่อนข้างประทับใจอีกฝ่ายมาก ๆ ด้วย นั่นจึงทำให้เจ้าชายยอมดึง ‘เกล็ด’ พิเศษของเงือกออกมาช่วยชีวิตอีกฝ่าย เกล็ดที่ควรมอบให้กับคู่ชีวิต…ดังนั้นต่อจากนี้ เขาจะดูฉีหนานไว้ให้ดี ถ้าพวกเขาสามารถพัฒนาเป็นคู่ชีวิตจริง ๆ ได้ ด้วยสัญชาตญาณเผ่าพันธุ์เงือก เขาไม่ปล่อยให้ฉีหนานเป็นอะไรไปแน่!


เจ้านึกถึงสถานะตัวเองแล้วหรือยัง…

        อืม…คู่นี่น่ะนะคะ เป็นอารมณ์ว่า ตกกระไดพลอยโจน จุดเริ่มต้นเราค่อนข้างสงสารฉีหนานนิด ๆ เขาตั้งใจแต่งงานเป็น ‘เสี่ยวเจ๋อ’ จริง ๆ แต่ฝันสลาย พอความทรงจำกลับมาถึงได้รู้ว่าความรู้สึกย้อนแย้งระหว่างทำความรู้จัก ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ ‘บอบบาง’ หมายถึงอะไร และความสัมพันธ์หลังจากนั้นคือค่อยเป็นค่อยไปเลยค่ะ อยู่กับการฝึก และฝึก มีโมเม้นต์รังแกกันอยู่ตลอด (หมายถึงใช้หางฟาดเวลาฉีหนานคิดจะอู้) ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปของทั้งสองคนเลยค่อย ๆ เห็นได้ในทุก ๆ จังหวะค่ะ เราเลยค่อนข้างชอบ ยิ่งพอฉีหนานเริ่มมีศักยภาพพร้อมขับหุ่นอย่างที่ตัวเองชอบ ตอนนั้นยิ่งสนุกค่ะ เราชอบโมเม้นต์แบบ ฉีหนานยังไม่ชำนาญสนาม แต่พอมีลั่วซิวเจ๋อที่เก่งด้านการวางกลยุทธ์ และการต่อสู้มาชี้แนะ หรือบอก ฉีหนานทำได้ไหลลื้นมาก แบบสไตล์คู่นี้คือ แม่ทัพกับคุณพลคู่ในเลยค่ะ ยิ่งขึ้นเล่มสองยิ่งชัดเจนมากกกกกก โดยเฉพาะช่วงท้ายที่ฉีหนานฝึกจนตามสู้เคียงข้างด้วยทัน คือสนุกมาก อยากอ่านเล่มสามต่อเลยค่ะ!


       พอได้เล่า คำสาบานแห่งพันธสัญญาเงือก ก็รู้สึกอยากกลับไปอ่านค่ะ โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของทั้งคู่ เอาจริง ๆ ฝั่งเจ้าชายเงือกเขารู้ตัวก่อนค่ะ ส่วนทางฉีหนานคือ มึนงงกับความรู้สึกตัวเอง ระหว่างนี่เป็นความรู้สึกอยากแกร่งขึ้นให้ลั่วซิวเจ๋อยอมรับ แต่ก็รู้สึกอยากให้อีกฝ่ายใส่ใจตัวเองมากขึ้นไปอีก ซึ่งคุณเจ้าชายคือ รอค่ะ รอให้ฉีหนานคิดออก เฮ้อออ เราชอบจุดที่ลั่วซิวเจ๋อเข้าใจความรู้สึกฉีหนานเรื่องตระกูลฉีด้วยค่ะ เขาย้ำตลอดว่าอย่าดูถูกตัวเอง และพยายามทำให้ฉีหนานมั่นใจมากขึ้น ไม่ด้อยค่าตัวเองอย่างที่ตระกูลทำใส่เขามาตลอด ส่วนทางฉีหนานเองก็ค่อยสนับสนุนคอยเตือนความเป็นจริงในปัจจุบันให้ลั่วซิวเจ๋อ ว่าเขาในวันนี้ ไม่ใช่เจ้าชายของใครอีกแล้ว ดังนั้น เขาจะมีแต่ฉีหนาน ที่เชื่อใจเต็มร้อยไม่ได้ เขาต้องดึงคน รวบรวมคนให้ยอมรับ เพื่อให้พวกเขาช่วยเหลือเรื่องเผ่าพันธุ์ ให้ได้มากกว่านี้ …

       ส่วนตัวสนุกค่ะ คู่นี้น่าติดตาม สเกลดูเริ่มแตกขยาย ความสัมพันธ์หลังจากคุณเจ้าชายลั่วชอบน้องฉี ก็แบบ ดีงามมมมมมมม



เมื่อฉีหนานประสบเหตุภายนอก…

ซิเรียส: เจ้าเด็กฉี ยังต้องให้ฉันดูแลเขาที่ไหน ดูผู้ชายที่มากับเขาสิ!

ครูสาขาของฉีหนาน: กับคนมากมายนายหวงเขาขนาดนี้ ทำไมตอนฝึกไม่เข้มงวดน้อยลงให้นักเรียนฉีสักหน่อย

เมื่ออยู่กับฉีหนานสองคน…

ฉีหนาน: พอทีเถอะ ฉันวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว

ลั่วซิวเจ๋อ: ยังไม่ครบชั่วโมง วิ่งต่อไป //หางฟาด//

…เป็นดังคำกล่าว ข้ารังแกคนรักได้เพียงคนเดียว


ชาแดง


วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2566

รีวิว + สปอยล์ เกมปริศนาสอบมรณะ เล่ม 1 (ยังไม่จบบ)

 




รีวิว + สปอยล์ เกมปริศนาสอบมรณะ เล่ม 1

ผู้เขียน มู่ซูหลี่

ผู้แปล ใบไม้แดง

สำนักพิมพ์ Minerva Book

เรื่องย่อ

        โหยวฮั่ว ถูกดึงเข้ามิติประหลาดพร้อมกับลุงและลูกพี่ลูกน้องของเขา ในที่แห่งนี้ พวกเขาและคนอีกกลุ่มหนึ่งต้องผ่าน ‘สนามสอบ’ ไปให้ได้จึงจะสามารถกลับสู่โลกแห่งความจริงได้ ซึ่งระหว่างการสอบนี้ผู้ที่ทำผิดกฎจะถูกผู้คุมสอบลงโทษ ในสนามสอบแรกของโหยวฮั่ว มีผู้คุมสอบ ฉินจิว ผู้มีเลขตัวเดียวเป็นเลขประจำตัวอยู่ในระดับหัวหน้าคอยคุมการสอบ แต่ไม่รู้ผู้คุมเขานึกติดใจอะไรเขานัก ถึงได้ดูตามติดกันไปคุมสอบกันหลายสนาม…นี่คือ บังเอิญ?


ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ค่อนข้างมากในเล่มแรกค่ะ)

        …เหมือนเราอ่านคุณมู่ซูหลี่ สลับกับคุณลาเหมียนเลยนะคะ 555555 มาค่ะ เกมปริศนาสอบมรณะ เล่ม 1 นี้ คิดว่าหลายคนน่าจะอ่านกันไปถึงเล่ม 3 ซึ่งเราคาดว่ากว่าจะย่องไปถึงคงใช้เวลาอีกสักพัก เลยขอแวะมาหวีดเล่มแรกนี้ก่อนสักหน่อยค่ะ แบบว่า ช่วงนี้ด้วยความอ่านงานคุณมู่ต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ดาราสิ้นสูญที่พึ่งอ่านจบไป ยังมีไปทดลองอ่าน ใครบางคน (แน่นอนว่าพรีแล้วค่ะ 55555) และคุณทนาย (เรื่องนี้อ่านละติด รอมากค่ะ) ช่วงนี้เลยเกิดอาการเทียบเคมีแต่ละคู่ของคุณนักเขียนค่ะ 5555555 เกมปริศนาสอบมรณะ คู่นี้เป็นสายต่างคนต่างกวนกันนิ่ง ๆ ยังไงไม่รู้ค่ะ เอาคืนกันแบบแสบ ๆ คัน ๆ แต่ถามว่าพอลงเรือลำเดียวกันแล้วเข้าคู่กันดีไหม คำตอบคือดีมากกกค่ะ ยังไงก่อนจะไปไล่ Talk ถึงเหล่าคู่ เราขอแวะเล่า + หวีดสักหน่อยนะคะ


เรา…เคยเจอกันมาก่อนไหม

        เปิดตัวมา โหยวฮั่ว หลุดเข้ามาในสนามสอบพร้อมกับญาติทั้งสองคน ตอนอ่านใจคือไม่ได้กลัวโหยวฮั่วเป็นอะไรไปเลยค่ะ เราลุ้นญาติสองคนของเขามากกว่า คนลูกพี่ลูกน้องดูติดพี่เขามาก ถึงจะตามความคิดโหยวฮั่วไม่ทัน แต่เรื่องไหวพริบตามพี่ชายถือว่าไว และเชื่อใจโหยวฮั่วมาก ๆ ส่วนคุณลุงถึงจะมีเอ่ยถึงไม่มากเท่าลูกชายของเขา แต่เรารู้สึกว่า เขาห่วงหลานชายที่ ‘ความทรงจำหายไป’ คนนี้จริง ๆ แน่นอนว่าเกมข้อสอบในเรื่องนี้ย่อมเดิมพันด้วยชีวิต ตั้งชื่อสนามสอบสมเป็นสนามสอบเลยค่ะ ด่านแรกนี้คือ ฟิสิกส์ แต่นักเขียนสร้างสรรค์โจทย์ได้สมกับเป็นเกมเซอร์ไววัลมาก เราเดาไม่ค่อยถูกว่าควรจะตอบยังไงกับโจทย์แบบนี้ดี แต่โหยวฮั่วก็พาแก้โจทย์แบบนอกกรอบตลอด ด่านแรกคือลุ้นระทึกดีค่ะ ในส่วนที่รอคอยตอนอ่านมาก ๆ คือ คุณพระเอกอีกคนจะออกมายังไงนะ และเขาก็เปิดตัวมาได้มีเสน่ห์จริง ๆ ค่ะ แบบว่า แค่ก้าวเท้าเข้ามาในสนาม โหยวฮั่วคือ ยกมือจับต่างหูโดยไม่รู้ตัวกันเลยยยยย แถมทางคุณ ฉิวจิว ยังมีอาการ ‘ความทรงจำหายไป’ ด้วยเหมือนกันอีก เดาเลยว่า คู่นี้ต้องมีอะไรเชื่อมโยงต่อกันแน่ ๆ แต่ว่าดูคู่นี้ถูกชะตากันแบบแปลก ๆ ค่ะ ตั้งคำถามดูโรแมนติก ว่า “เราเคยเจอกันมาก่อนไหม” การกระทำคือ สวนทางมาก หาเรื่องกันไม่พัก กวนกันสุด ๆ…สนใจกันแหละค่ะดูออกกกกก


นัมเบอร์ 001

        การเป็นผู้คุมสอบได้ เดิมทีพวกเขาเป็นผู้สอบมาก่อน เมื่อทำคะแนนได้สูงพวกเขาถึงสามารถเปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้คุมสอบ ตาม ‘กฎ’ ของที่นี่ แต่เมื่อไรที่พวกเขาแหกกฎ พวกเขาจะถูกลงโทษ ให้กลายเป็นผู้เข้าสอบใหม่อีกครั้ง ดูจากอาการของผู้คุมสอบหมายเลข 154 ก็รู้เลยว่าการผ่านสนามสอบแต่ละสนามสร้างปมในใจกับเขาไว้มาก และยังมีผู้คุมสอบคนอื่น ๆ อีก แม้แต่ 522 ที่น่าเอ็นดูเรื่องถูกโหยวฮั่วแย่อาหารบ่อย ๆ ก็พยายามไม่ทำผิดกฎ ทว่า ฉิวจิว กลับดูไม่ค่อยแคร์เลยค่ะ ยิ่งเจอโหย่วฮั่ว เขาแทบจะทำผิดกฎทีละนิดทีละหน่อยอย่างไม่ใส่ใจ เราชอบสนามสอบถัดมา ที่ฉิวจิวตามมาคุมสอบคนเดียวมากเลยค่ะ มีความหน่วงในสนามเมื่อเราค่อย ๆ คาดเดาตัวตน NPC ได้ มีความลุ้นเอาใจช่วยผู้เข้าสอบที่เราเริ่มคุ้นเคย และมีความยิ้มกริ่มมม เมื่อโหยวฮั่วและฉิวจิวได้มีสถานการณ์ให้อยู่ด้วยกันมากขึ้นค่ะ เราชอบการหยอดใบ้ตามรายทางของคุณนักเขียนด้วยค่ะ แบบบ ถึงจะแค่ชื่อเรียก หรือจะแค่เรื่องเขาเล่าว่า เชื่อว่าหลายคนน่าจะเดาสถานะในอดีตของทั้งคู่ได้ตั้งแต่ขึ้นสนามสอง ซึ่งเอาจริง ๆ เราชอบ และตื่นเต้นมากเลยนะคะ ถ้าเป็นอย่างที่คิดนี่มันดูแบบ…เป็นการ สลับบทบาท ที่ชวนติดตามมากค่ะ! ความทรงจำที่หายไป …เรื่องราวในอดีตเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ


“A”

        เหมือนเล่มแรกพึ่งจะได้เกริ่นความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเลยค่ะ แบบมีทั้งในรูปแบบของคนเขาเล่าว่า ที่ทำให้เราชวนคิด ชวนสงสัย และคาดว่าน่าจะใช่พวกเขา รวมถึงการกระทำใกล้ชิด ความเคยชิน การเรียก หรือชื่อที่เขาไม่ควรจะรู้ แม้แต่ปฏิกิริยาร่างกาย ที่พอมาอยู่เข้าคู่กันจริง ๆ ก็เริ่มทำให้เราได้เห็นมากขึ้น ซึ่งงงงง เรารู้สึกเหมือนพึ่งได้เสพฟีลลิ่งแบบนั้นช่วงครึ่งหลังของเล่มค่ะ อยากขึ้นเล่มสองงงงงงง คู่นี้เราพูดไม่ถูกเลยค่ะ ว่าถือว่าเป็นคู่รักคู่กัดไหม พวกเขาดูปรองดองกันมากกว่าจะใช้คำนี้ยังไม่รู้ค่ะ อารมณ์ประมาณ ฉันสนใจคุณฉันกวนคุณ อีกคนก็เหมือนกวนมากวนกลับไม่โกง แต่นั่นคือความพิเศษที่ฉันมอบให้คุณเช่นกัน …อะไรแบบนี้อะค่ะ พูดง่าย ๆ คือ สองคนเขาก็ดูทำตัวกันเป็นธรรมชาติ เหตุไฉน เราอ่านถึงเขินไปได้ 555555


        เกมปริศนาสอบมรณะ ถ้าพูดถึงปม เราคงคาใจว่า สรุปแล้วมิตินี้คืออะไร ถ้าเราเดาสถานะโหยวฮั่วในอดีตไม่ผิด ก็อยากติดตามต่อว่า ตกลงเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น เขากับฉิวจิวทำอะไรลงไป ระบบสนามสอบถึงได้ทำให้พวกเขาเป็นอย่างปัจจุบัน ยังมีคนที่ถูกดึงเข้ามาตายจริง ๆ ใช่ไหม ที่บอกว่ากลับออกไปโลกความจริงได้ สรุปแล้วได้กลับออกไปจริง ๆ เหรอ …สองมันสมองคิดนอกกฎทั้งสองมารวมกัน เชื่อว่าเล่มถัด ๆ ไปคงมีความแสบย้อนระบบสนามสอบให้ได้ติดตามได้คำตอบกันค่ะ


ชวน Talk สั้น ๆ กล่าวถึงคู่รักคู่กัด

        อืมมม นั่นสินะคะ ถ้าพูดถึงคู่รักคู่กัด ในบรรดาคู่ของคุณมู่ เราคงนึกถึงคู่หัวหน้าฉู่กับคุณหยางค่ะ ซึ่งเป็นเคมีแบบที่เราชอบมากกกกกก ส่วนในไทป์คู่ที่รู้สึกดีงามไม่ต่างกัน ก็คงเป็นคนนึงนิ่งคนนึงซน อย่างเหรียญทองแดงปราบพิภพค่ะ …จะว่าไปจริง ๆ คุณทนายก็ออกแนวมาทางนี้เหมือนกันค่ะ ตัวเอกมีความซน อีกคนคือขมวดคิ้วแล้ว ขมวดคิ้วอีก 555555 ส่วนที่คลายกันแต่สลับขั้ว น่าจะเป็นดาบบรรพกาล ที่ทางพระเอกมีความซน แต่ก็มีความฮัสกี้ในตัว สกินชิปเก่งงงงด้วยย ส่วนตัวเอกพาร์ตหลักจะมีความบ่นในใจ แต่ฉันขี้เกียจจะต่อปากต่อคำด้วย อะไรแบบนั้น เคมีแบบนี้ก็น่ารักมากค่ะ (ถ้านับนิสัยร่างหลัก ตัวเอกก็ดูผู้ใหญ่กว่าระดับนึงเลยนะคะ) ทางใครบางคนนี่น่าเอ็นดู คนหนึ่งทำตัวเย็นชา…แต่ก็ดูแล คนหนึ่งทำตัว ‘ฉันไม่ใส่ใจนายหรอก’ …แต่ใส่ใจ …แหมะ… ดังนั้น…สำหรับเราคู่โหยวฮั่วกับคุณฉิว เลยเป็นเคมีบอกไม่ถูกค่ะ ดูมีความลึก คล้าย ๆ คู่คุณหยางกับหัวหน้าฉู่ แต่ก็คลุมเครือกว่า …ย๊ากกกก ถ้าอ่านต่อน่าจะได้ฟีลมากกว่านี้แน่ ๆ เลยค่ะ จะเคลียร์ลิสต์ไปให้ถึงงงง


ชาแดง



วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2566

รีวิว ยมทูตพาร์ตไทม์ผู้โด่งดัง เล่ม 1 (ยังไม่จบค่ะะ)

 




ยมทูตพาร์ตไทม์ผู้โด่งดัง เล่ม 1

ผู้เขียน ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ

ผู้แปล ศีตกาล

ผู้วาด Zoochan

สำนักพิมพ์ Bookish House

เรื่องย่อ

        เมื่อยมทูตงานล้นมือ ‘ยมทูตคนเป็น’ จึงถูกเรียกเพื่อรับหน้าที่ หลันเหอ อาชีพนักแสดงจำต้องรับอาชีพนี้เป็นจ๊อบเสริม เมื่อเขาถูกยมทูตตัวจริงเรียกหา โดยมีสัญญาต่อเจ้าพนักงานว่า จะทำพาร์ตไทม์นี้เป็นเวลาหนึ่งปีเท่านั้น ทว่างานเสริมที่ถูกเรียกเมื่อไรก็วิญญาณออกจากร่างนี้ กลับทำให้เขาโด่งดังในการรับบทเป็นผู้วายชนม์ จนสร้างเสียงเรื่องลือไปหลายกองถ่าย อาชีพนักแสดงที่ไม่จืดจาง แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างของเขากลับกำลังเฟื่องฟูด้วยพาร์ไทม์นี้เอง


ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

        ยมทูตพาร์ตไทม์ผู้โด่งดัง เป็นอีกหนึ่งงานพาร์ตไทม์ที่คุณ ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ สร้างสรรค์ให้พวกเรานักอ่านได้ติดตามกันค่ะ ถ้าหากใครเคยอ่าน ครึ่งเซียนพาร์ตไทม์ ไม่รู้คิดแบบเราไหมว่าชื่อเรื่องนี้ กับช่วงเกริ่นงานยมทูตคนเป็น ทำให้นึกถึงตัวละครหนึ่งในครึ่งเซียนฯ ที่ถูกเรียกให้ไปรับจ๊อบนี้แบบจำยอม เราแอบคิดขำ ๆ ระหว่างอ่านด้วยค่ะว่า เอะ จะมีเชื่อมกันไหมนะ (ไม่น่ามี คนละปมเลยค่ะ 55555) สำหรับ ยมทูตพาร์ตไทม์ สนุกน่าติดตามมากค่ะ แถมทุกครั้งที่ หลันเหอ ทำงานจนบังเอิญเจอกับ ซ่งฝูถาน เคมีจะฟุ้งงง หวาน ๆ น่ารักทุกครั้งเลยยยย พระเอกซ่งคนนี้ก็เรียบร้อยน่ารักเหลือเกินน มาคนละสายกับอีกาสามขา แมว และนักร้องบางคนจริง ๆ ค่ะ 5555555


…ไหน ๆ ก็มาแล้ว

        หลันเหอ อาชีพนักแสดง แต่ดูเหมือนว่าบ้านเกิดในวัยเด็กที่เขาเติบโตจะทำให้คุ้นเคยกับการทำพิธีต่าง ๆ ไม่มากก็น้อย การเป็นยมทูตคนเป็นของเขาพอจึงมีวิธีรับมือ โดยเฉพาะตอนที่โดนเรียกให้รับงานในครั้งแรก เจ้าพนักงานยมทูตอยากให้เขาทำหน้าที่จนกว่าพนักงานยมทูตจะมีเพียงพอ แต่ด้วยฝีมือการพับกระดาษเงินทองของเขาจึงติดสินบน (?) ได้เหลือทำงานเพียงหนึ่งปี เมื่อจ๊อบยมทูตคนเป็นเริ่มต้นขึ้น หลันเหอจำต้องมีข้อแก้ตัวเมื่อเข้ากองถ่าย เพราะเจ้าพนักงานที่ชักชวน (?) เขาเข้าทำงาน มักเรียกหาโดยไม่บอกก่อน ขนาดตอนมาเทสต์หน้ากล้องก็ยังเรียก! โชคดีที่ฉากเข้าทดสอบคือบทที่ตัวละครไม่หายใจ เขาถึงได้แสดงสมจริงเสียจนได้รับเลือก (5555555) ขณะเดียวกันหลันเหอก็ยื่นเงื่อนไขให้เจ้าพนักงานบอกเขาล่วงหน้าก่อนเรียก ไม่อย่างนั้นเกิดเหตุแบบนี้บ่อย ๆ คนรอบตัวคงพาเขาเข้าห้องฉุกเฉินวันละหลายรอบแน่ ๆ เรียกว่า เปิดตัวพาร์ตไทม์นี้มา ก็ป่วนมากค่ะ


ระฆังเรียกวิญญาณ

        ทำหน้าที่ไปหลายเคส ในที่สุดหลันเหอก็พบความผิดปกติของเมืองนี้ ดูเหมือนว่า วิญญาณคนตายจะเพิ่มมากขึ้น และพัฒนาสู่วิญญาณแค้นที่แข็งแกร่งจนเจ้าพนักงานยมทูตมีไม่เพียงพอ แม้แต่เซียนเองก็ดูเหมือนจะรับมือความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ยาก นอกจากนี้การที่หลันเหอพบกับ ซ่งฝูถาน คนเป็นที่วิญญาณหลุดออกจากร่างบ่อยจนน่าตกใจ ยิ่งทำให้เขาพบว่า เคสของอีกฝ่ายแปลกและอันตรายมากจริง ๆ พบครั้งแรกซ่งฝูถานรอถูกเรียกเข้าร่างที่สี่แยกเงียบ ครั้งถัดมาดันถูกชักชวนจนเข้ามาดูงิ้วในป่า พอกันอีกทีถึงขนาดโดนลากเข้าบ่วงยมทูต ถ้าหากหลันเหอพบอีกฝ่ายไม่ทัน ไม่ต้องทัวร์ปรโลกไปจริง ๆ แล้วหรือ ! ทว่า…การเดินทางกับซ่งฝูถาน ทำให้เขาเห็นอิทธิฤทธิ์ของหนึ่งในของวิเศษประจำเมือง (เรียกแบบนี้ไหมนะ) นั่นคือระฆังของวัดหลักประจำเมืองนี้ ซึ่งดูเหมือนเหล่าของวิเศษประจำเมืองจะมีความเกี่ยวข้องกับเหตุพลิกผันของวิญญาณ และ…ซ่งฝูถาน…เขาจะเป็นเพียงคนที่วิญญาณหลุดบ่อยเท่านั้นจริง ๆ หรือ?


นักอ่านขอครวญ …พี่ซ่งเปิดเน็ตหน่อยเถอะ

        คู่นี้ เล่มแรกนี้ มีหนึ่งคนตกหลุมรัก หนึ่งคนรอคอยและดีใจมาก ๆ ที่จะได้เจอกันค่า ส่วนตัวรู้สึกว่าคู่นี้น่ารักมาก ๆ และเหตุการณ์พบกันโดยบังเอิญแบบนี้เราค่อนข้างชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ 5555555 เราชอบการที่บังเอิญพบกัน แบบ คนหนึ่งเดินผ่านแล้วสะดุดใจ พอเดินกลับมายังเห็นอีกฝ่ายอยู่ก็เข้าไปทัก พอคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว กลับยังมาพบกันในสถานการณ์แปลก ๆ แต่รูปแบบเดิมอีก น่ารักดีค่ะ น่าติดตามมม และด้วยนิสัยคุณซ่งเขานิ่ง ๆ เรียบร้อย ๆ กับหลันเหอที่สุภาพอ่อนโยน แต่เว้นระยะห่างกับคนนิด ๆ พอทั้งคู่มาพบกันในรูปแบบของวิญญาณ ได้เป็นตัวของตัวเองและเป็นเพื่อนกัน เลยลงตัวมาก ๆ ค่ะ เอาจริง ๆ เรารอการพบกันของพวกเขาทุกครั้งเลยค่ะ แถมเห็นอาการหวั่นไหวของทั้งคู่ยิ่งน่าเอ็นดู ><


        ยมทูตพาร์ตไทม์ผู้โด่งดัง ไม่ดังไม่รู้จะว่ายังไงแล้วค่ะ หลันเหอขยันทำงานขนาดนี้ 555555 เราชอบไอเดียร์การลดน้ำหนักของดารามาก ๆ เลยค่ะ หลันเหอแบบ โอเคกายเนื้อต้องเข้าคอร์สลดหุ่น งั้นใช้วิญญาณตอนเป็นยมทูตออกไปกินละกัน 555555 ประเด็นคือ ยิ่งพอมีคุณซ่งช่วงหลัง หลันเหอยิ่งเป็นยมทูตคนเป็นที่อุดมสมบูรณ์ พี่เขาเตรียมของเซ่นไว้ให้เยอะมากกกกกกก เอาอกเอาใจสุด ๆ บอกเลยว่ายังคงตามสเต็ปคุณลาเหมียนที่คุณพระเอกตกหลุมรักก่อน แต่เรื่องนี้ไม่ปล่อยให้ลุ้นนาน เพราะคนอ่านเห็นแววน้องหลันหวั่นไหวแล้ววว อะไรคือการรอมาเจอคุณซ่งคะ! ตอนนี้คือ เราเห็นทดลองอ่านเล่ม 2 เริ่มลงแล้ว …ได้เวลา …


ชวน Talk พระเอกในสายเรื่อง ‘พาร์ตไทม์’

        แวะชวน Talk สั้น ๆ ค่ะ ตอนนี้ นอกจากมังกรฯ ที่เรายังดองอยู่ นิยายส่วนใหญ่ของคุณลาเหมียนเราเลยได้แตะมาแล้ว ในส่วนของขุนนางพาร์ตไทม์ ถึงจะอ่านไปแค่เล่มแรก (ที่เหลืออีก 2-3 บทจะจบ) เราก็พอมองออกว่าพระเอกของเรื่องนี้ คือ หมาน้อย แค่ก ศิษย์น้องผู้มีฐานะคนนั้น ซึ่งเป็นสไตล์ขี้อ้อน ติดคนนน ส่วนยมทูตพาร์ตไทม์อย่างที่เล่าค่ะ เงียบ ๆ สันโดษ ดูน่ารัก และ ครึ่งเซียนพาร์ตไทม์! นี่ก็พูดน้อย ช่วยเหลือคนอื่นเก่ง ดูแลคนที่ชอบเก่ง น่ารักกกกกกก ฟีลพระเอกสายพาร์ตไทม์ มาทรงนี้หมดเลยไหมคะเนี่ยยย (เราพลาดพาร์ตไทม์คุณลาเหมียนเรื่องไหนไหมคะเนี่ย) ขณะที่สายสวนสัตว์ ปลูกพริก เสริมสร้างวัฒนธรรมดนตรี มาสายซึนกันเป็นแถววว น่าเอ็นดู 55555555 มาค่ะ เห็นมีเรื่องคุณหมอนักพรตกำลังจะเปิดพรี มารอกันดีกว่าว่าคนนั้นจะมาสายไหนนน


ชาแดง



วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2566

รีวิว ยามดาราสิ้นสูญ เล่ม 2 (ยังไม่จบค่าา)

 



ยามดาราสิ้นสูญ เล่ม 2

ผู้เขียน มู่ซูหลี่

ผู้แปล Luna

ผู้วาด Kanapy

เรื่องย่อ

---ขอยกไปในความเดิมค่ะ---


ใครสนใจไม่อยากโดนสปอยล์มาก >> ยามดาราสิ้นสูญ เล่ม 1​​​​​​​


ความเดิมในยามดาราสิ้นสูญเล่ม 1

      




ความรู้สึกหลังอ่าน (หวีด แค่ก สปอยล์มากอย่างยิ่ง)

        ยามดาราสิ้นสูญ เล่ม 2 มาส่งแล้วววว >< ลัดคิวก่อนใคร เพราะอ่านค้างไว้ในเว็บค่ะ เล่มนี้เป็นเล่มที่พีคมากกกกก ทั้งปมของเรื่อง และความสัมพันธ์ของทั้งสองคนค่ะ ช่วยไม่ได้จริง ๆ ไม่พีคเล่มนี้จะพีคเล่มไหนนะคะ ในเมื่อเล่มหน้าก็จบแล้ว ฮืออออออ เราชอบเคมีคู่นี้มากเลยล่ะค่ะ ยิ่งเจอเล่ม 2 ไป ความคู่หูคู่กัด ความเคยหวั่นไหวต่อกันในวัยเยาว์ มันเป็นอะไรที่ชวนกรี๊ดและชวนยิ้มมมมม จริง ๆ ค่ะ แถมมีฉากชวนประทับใจมาก ๆ อยู่ในเล่มด้วย หนึ่งในนั้นนนน…ใครเล่นทวิตเตอร์แล้วเห็นภาพลายเส้นคุณ Kanapy ในฉาก “นอนเป็นเพื่อนฉันอีกเดี๋ยว” แล้วบ้างคะ ฉากนี้คือหนึ่งในฉากประทับใจต่อเนื่องของเราเลยค่ะ >< มาค่ะ ขอมาหวีดเล่ม สองงง


ดูเหมือนว่าคุณกับผมจะไม่ต่างกันเลยนะครับ

        หลังเข้าไปช่วยผู้ที่ตื่นจากแคปซูน หัวหน้าฉู่และคุณหยาง ก็ตัดสินใจเข้าไปในอาคารที่ครั้งหนึ่งในวัยเด็ก ฉู่ซือ เคยอาศัยอยู่กับ เจียงชี พ่อบุญธรรมของเขา ก่อนที่อีกฝ่ายจะเสียชีวิต เรื่องน่าตกใจก็คือ บ้านหลังนั้น เจียงชีกลับยังมีชีวิตอยู่ ! ความสับสน ความดีใจ และความกังวลต่อช่วงเวลาในอนาคตของอีกฝ่ายเข้าจู่โจมความรู้สึกที่เฉื่อยชามานานของฉู่ซือ การเล่าเรื่องที่ทำให้เราว้าวก็คือ ในวันนี้ ช่วงเวลานี้ ครั้งหนึ่งหัวหน้าฉู่วัยเด็กเคยจำได้จริง ๆ ว่ามีคนแปลกหน้าสองคนแวะเข้ามาในบ้าน ซึ่งฉู่ซือกับ ซ่าเอ้อ หยาง พบกับฉู่ซือในวัยเด็กนอนขดตัวอยู่บนโซฟาจริง ๆ …นี่เป็นการเล่นกับเวลาที่เราตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าการผูกโยงมาแบบนี้ ยังไงการเสียชีวิตของเจียงชี ต้องเป็นกุญแจสำคัญแน่ ๆ ในฉากนี้นอกจากมีปม และคลายปมเพิ่ม การพบเจียงชี
ทำให้เรารู้สึกว่า นัยคำพูดของคุณพ่อ เหมือนจะเดาได้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้า คือ ลูกชายของเขา!?? ยังมีการแซวว่าซ่าเอ้อ หยางดูเป็นคนรักของลูกชายที่เหมือนตัวเองมาก อีกทั้ง ทั้งคู่ดูเป็นคนรักที่เข้ากันได้ดี 55555 หัวหน้าฉู่แทบจะกระอักเลือด เจียงชีสายตามีปัญหารึเปล่า ถึงมองว่าพวกเขาเป็นคนรักกันจริง ๆ แถมเข้ากันได้ดี!!!


ที่รัก นายทำให้ฉันถูกเวลานับถอยหลังคุกคามมาทั้งวันแล้ว

        เล่ม 2 … คำว่า ที่รัก ของคุณหยาง ไม่ได้แค่พูดไปเล่น ๆ จริง ๆ ค่ะ เอาเป็นว่าในส่วนนี้ เราจะยกกันไป Talk เนอะคะ ทว่าส่วนของเรื่องราว เรียกได้ว่าลุ้นมากจริง ๆ ค่ะ ที่ยกประโยคนี้มา ไม่ใช่แค่เป็นฉากที่ประทับใจมาก แต่เป็นความรู้สึกตอนอ่านเช่นกัน ว่านักอ่านเองก็แทบจะถูกเวลาไล่กวดตามคุณหยางแล้ว…

        หลังจากออกจากอาคารหลังที่เคยอาศัยกับเจียงชี แก๊งเด็ก ๆ ของหัวหน้าฉู่ ก็พบสัญญาณของยานรัฐบาล และบนยานลำนั้น มีเหล่าลูกน้องจากฝ่ายความมั่นคงของฉู่ซืออยู่ทั้งลำ ตอนนี้ ฝ่ายอำนาจรัฐทั้งสามของดวงดาวได้แบ่งหน้าที่ช่วยเหลือผู้อยู่ในแคปซูนตามเศษซากดวงดาวที่แตกออก และฝ่ายความมั่นคงคือผู้ออกช่วยเหลือ และรวบการเชื่อมเศษซากดวงดาวด้วยซากมังกร ขณะรวมพลปฏิบัติหน้าที่ ทั้งหัวหน้าฉู่และคุณหยาง กลับเริ่มได้เบาะแสของเรื่องราวที่เกิดขึ้น มากขึ้นเรื่อย ๆ …ฉู่ซือ การทดลองลับ เจียงชี เวลา และคนในสามขั้วอำนาจ …เรื่องราวที่เกี่ยวพันมาตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน เวลาที่ผันแปรจนฉู่ซือที่เกิดในร้อยถัดมาถูกดึงเข้ามาเอี่ยวในฐานะผู้ขัดขวาง กำลังจะถูกเฉลยในครึ่งหลังของเรื่องนี้แล้วค่ะ!


หัวหน้า เรื่องที่ถูกขัดจังหวะเมื่อหลายปีก่อน ฉันขอสานต่อได้ไหม

    จิตใจของคุณหยางยากแท้หยั่งถึงงงงงงงงง

        มีเรื่องชวนกรี๊ดตั้งแต่ช่วงแรกของการเริ่มเล่มสองเลยล่ะค่ะ ใครไม่เขิน เราเขินค่ะ ! อ่านแล้วก็รู้ว่าหัวหน้าฉู่เคยหวั่นไหวกับคุณหยางตั้งแต่ครั้งยังอยู่ด้วยกันในค่ายฝึกจริง ๆ แต่เพราะรู้นิสัยคุณหยางดีเกินไป เลยรู้ว่าตัวเองจะเป็นเพียงระเบิดที่เข้าถึงได้ยากลูกหนึ่งสำหรับคุณหยางที่ชอบความท้าทาย เมื่อไรที่อีกฝ่ายได้ไป สุดท้ายคงหมดความสนใจและทิ้งขว้างตัวเขาอย่างไม่ไยดี (โธ่! หัวหน้าคะ ;---;) ซึ่งคุณหยางในเล่มนี้ไม่ปล่อยให้คำตอบคลุมเครือนาน ขอแย้งหัวหน้าด้วยคำว่า น่าแปลก ปกติก็ต้องเป็นแบบที่หัวหน้าบอก แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้ผ่านไปหลายปีก็ยังไม่ใช่ …ย๊ากกกกกก << นักอ่านระเบิดตัวเอง >> เพื่อเป็นการพิสูจน์คำพูดนี้ ไม่ได้มีเพียงอดีตให้นักอ่านตามย้อนเก็บ ปมเวลาบนตัวฉู่ซือได้ทำการ แสดง ความจริงจังของคำว่า ‘ที่รัก’ สำหรับคุณหยางออกมาหมดเปลือกเลยล่ะค่ะ!!!


        ยามดาราสิ้นสูญ เล่ม 2 นอกจากกรี๊ดกับความสัมพันธ์ที่ไต่ระดับแบบพุ่งปรี๊ด ยังมีการเก็บปมช่วงท้ายเล่มที่เราขอยอมแพ้ และถอดสมองไปก่อนเลยค่ะ เราจำเงื่อนไขเล็กน้อยรายทางไม่หมด ตอนนี้คือ มึนมาก ๆ ใครเริ่มเดาทางได้แล้วแวะเวียนมาตั้งข้อสันนิษฐานไว้ได้นะคะ ตอนนี้เราตันมากเลยค่ะ ;;---;; ส่วนตัวประกอบ รู้สึกเรื่องนี้มีแก๊งเยอะมากกกก ทำให้เราไม่ได้มีแฟมิลี่ของหัวหน้าฉู่ที่ชัดเจน สำหรับเล่มสองมีแก๊งใหม่ให้ชวนติดตาม หลัก ๆ เลยทำให้เราผูกพันกับสองตัวละครเอกมากเลยค่ะ ส่วนตัวประกอบที่คาดว่าจะเด่น เล่มนี้บทหายจนจางไปแล้ว ;---; ใด ๆ ตัวละครใหม่ช่างน่าเอ็นดู และแอบระแวงในเวลาเดียวกัน อยากอ่านเล่มสามแล้วล่ะค่ะ!




            ชวน Talk …ดูสิ มีคนกอดเขาโดยไม่รังเกียจแล้ว … (ฮือออออ สปอยล์มากค่ะ)

        ใครอ่านแล้วแวะมาหวีดตรงนี้ได้นะคะ

        สำหรับยามดาราสิ้นสูญในเล่มสอง ไม่พูดไม่ได้คือ ฉากที่เขาไปพบเจียงชี ค่ะ เรื่องนี้ มีความโดดเด่นสำหรับเราตรงที่ เล่าสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ในจังหวะที่เรื่องราวในปัจจุบันกำลังเดินไปถึงจุดสำคัญ ในอดีตที่เคยมีเรื่องราวจุดชนวนไว้ก็จะถูกเล่าขึ้นมาให้เราได้ทำการเก็บข้อมูลก่อนค่ะ อยากในเล่มแรก จะมีการเล่าสถานการณ์ เวลา  ฉู่ซืออยู่กับซ่าเอ้อ หยาง ซ้ำ ๆ แต่ในการซ้ำ จะมีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นฉากหนึ่งที่เราชอบมาก คือ เรื่องที่ฉู่ซือ เล่าเกี่ยวกับการทำภารกิจที่พวกเขาออกไปทำด้วยกันเป็นครั้งแรก เล่าแรก ๆ คือ เป็นอะไรที่เข้ากันไม่ได้ เล่าต่อมา พวกเขากลับรวมทีมกันได้ดี จากนั้นเล่าอีกที เหมือนจะโดนทิ้งแต่อีกฝ่ายกลับมา…ฉากต่อมาเล่าในภารกิจหลังจากนั้นพวกเขาเลยเข้าคู่กันต่อ เล่าแรก ๆ เหมือนเป็นคู่หูที่ดี เล่าไปเล่ามาในตอนสุดท้าย ดันลงเอยที่ว่าพวกเขาหวั่นไหวต่อกันในคืนหนึ่ง…

     แบบบบบบบ เป็นการไล่เรียงเรื่องราวของตัวละครนำที่เราชอบมากเลยค่ะ มันทำให้เหตุการณ์ในปัจจุบันสมเหตุสมผล เหมือนอย่างการพาซ่าเอ้อ หยางเข้ามาพบเจียงชีในฉากเริ่มต้น หัวหน้าฉู่ เคยเล่าตั้งแต่เล่มแรกว่าซ่าเอ้อ หยาง ทำลายหลักฐานชิ้นสุดท้าย ที่สามารถยืนยันการมีอยู่ของเจียงชี นั่นทำให้เขาโกรธอีกฝ่าย พอมาเล่มนี้ก็เล่าต่อ ว่าตอนสมัยที่ยังอยู่ด้วยกันซ่าเอ้อ หยางเป็นคนประมาณนี้ ทำให้เขาพอเดาได้ว่า ที่อีกฝ่ายทำลงไปมีเบื้องหลังมากกว่ากว่า และผูกโยงไปยังเฉลย…

        การเข้าไปพบเจียงชี เลยกลายเป็นจุดเคลียร์ปม และเปิดปมหลายอย่างเลยล่ะค่ะ เกริ่นเล่าแต่ซ่าเอ้อ หยางมานาน แต่จุดเจียงชี มีการเล่าสลับอดีตเช่นกันค่ะ คือ ในครั้งหนึ่งวัยเด็ก ฉู่ซือจำได้ว่ามีเหตุการณ์ที่คนแปลกหน้าเข้ามาขออาศัยนั่นตอนไฟดับ สิ่งที่ทำเราตื่นเต้นคือ คนแปลกหน้าสองคนนั้นคือ ตัวพวกเขาเอง ฉากนี้เราลุ้นมากว่า เจียงชี จะรู้ไหมว่าคนตรงหน้าเขาคือลูกชายตอนโต และการปล่อยเรื่องเล่าในอดีต รวมถึงบทสนทนาที่หยอดในปัจจุบันทำให้เรารู้สึกว่า เขารู้ค่ะ ! เราประทับใจตอนเจียงชีลูบหัวฉู่ซือตอนเด็ก แล้วบอกว่า ลูกชาย พ่อไปก่อนนะ แล้วจะรีบกลับมา” แล้วมองที่หัวหน้าฉู่ด้วยอ่ะค่ะ จะร้องไห้มาก ๆ เราว่าเขารู้ ลูกคุณพ่อมาแบบหนึ่งแถมหนึ่ง โตแล้ว และมีแฟนแล้ว สวัสดีครับผม ฮืออออ

        นอกจากฉากเจียงชีที่ชอบมาก อีกหนึ่งฉากที่แทบจะอ่านซ้ำ ๆ คือ ฉาก ที่รัก นายทำให้ฉันถูกเวลานับถอยหลังคุกคามมาทั้งวันแล้ว ค่ะ ฉากนี้มันบีบบบบบ และเป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนมุมมองมาทางคุณหยางค่ะ การได้ตามคุณหยาง ทำให้เรารู้เลยว่า ร่างกายเขาไม่เหมือนคนปกติ เขาสามารถทนต่อการว๊าบได้ต่อเนื่องเกินสอบครั้ง แผลรักษาตัวเองได้ อดหลับอดนอนได้ เรียกว่า เวลา ไม่มีผลต่อเขาเลยค่ะ ทว่า คนที่ เวลา ไม่เคยส่งผล กลับ โดน เวลา คุกคาม เพราะใครอีกคนที่ตัวเองรักมาก กำลังถูกเวลา พรากจากไป เราแบบบบบบบบบ ทุกคนต้องอ่านถึงฉากนี้ !!! “ถึงไม่ดูเขาก็รู้ว่ายังเหลือเวลาอีกเท่าไร เพราะเขานับเวลาอยู่ทุกนาที” แงงงงงงงง จากตรงนี้ละไปต่อที่ฉาก “นอนเป็นเพื่อนกันอีกสักเดี๋ยว” น่ะค่ะ สุดมากกกก เขาแทบจะใช้พลังชีวิตทั้งหมดเพื่อกู้เวลาของอีกคนหนึ่งให้เดินต่อ เราประทับใจมากค่ะ

        แน่นอนว่า ทางฉู่ซือ ก็ทำเราซึ้งมากค่ะ หัวหน้าฉู่ที่เฉื่อยชา เริ่มรู้สึกว่าการรอคอยมีค่าขึ้นมา เมื่อเห็นผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลือ เห็นดวงดาวเริ่มเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เขาเริ่มรู้สึกว่า การมีซ่าเอ้อ หยางคอยอยู่เคียงข้างกันและฝากชีวิตไว้ได้เพียงแค่เพราะอีกฝ่ายพูดว่า กลับไปทันแน่นอน รอก่อนนะ เราอ่านแล้วคืออออ และในตอนที่เวลานับถอยหลัง ฉู่ซือรีบเดินกลับห้องเตรียมการทุกอย่างให้ซ่าเอ้อ หยางสามารถดำเนินการทุกอย่างได้อย่างราบรื้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งลูกน้อง หรือมอบสิทธิ์ต่าง ๆ ให้ เขาคิดล่วงหน้าและวางทุกอย่างไว้ให้หมดเลยค่ะ ฉากที่เขาปลดกุญแจนักโทษ และส่งมอบมรดกให้ซ่าเอ้อ หยางทั้งหมด เราแทบจะยกฉู่ซือไว้บนหิ้งค่ะ แล้วคุณหยางที่เขาโดนปลดล็อกกุญแจนักโทษ รู้ทันทีว่าเกิดเรื่องแล้วรีบติดต่อกลับมา ยิ้มแล้วบอกว่า ฉันจะกลับไปปลุกหัวหน้าเอง เราแบบบบบบ แงงงงงงงงง ประทับใจคู่นี้มากจริง ๆ ค่ะ

        และใช่ค่ะ มีแต่หวีดฉากและตัวละคร 5555555 ปมใด ๆ ทุกคนไปเก็บและติดตามในเล่มได้ค่ะ บอกเลยว่า ตื่นเต้น และลุ้นมากค่ะ แม้แต่ฉากประทับใจที่เล่าไป ในเนื้อเรื่องบรรยายกาศมันออกมาได้ภาพยนตร์มากเลยล่ะค่ะ! ใครมีฉากประทับใจอื่น ๆ แวะมาเม้าท์กันได้นะคะ รอเล่ม 3 กันค่ะ!!!


ชาแดง





รีวิว แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ( 3 เล่มจบค่ะะ)

  แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ผู้แต่ง ปี่ข่าปี่ ผู้แปล จื่อซิน ผู้วาด 梨乖 酥 สำนักพิมพ์ Inltreebook เรื่องย่อ หลินชิงอวี่ แต...