วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563

รีวิว รักสองภพระหว่างข้ากับท่านพี่ (ฉบับเต็ม)





ภาพจาก Inktreebook

รักสองภพระหว่างข้ากับท่านพี่

ผู้แต่ง อวี้หยาง

ผู้แปล ฉุ่ยเหอ

ผู้วาดปก Catree

สำนักพิมพ์ Inktreebook

เรื่องย่อ

ภพแรก เขาต้องหนีการไล่ล่าพร้อมโดดผาตายเพื่อให้คนเหล่านั้นไม่สมตามปรารถนา เป็นการแก้แค้นพวกเขาที่พลากความสุขหนึ่งเดียวตลอดสามปีไปจากเขา ภพสองเมื่อลืมตาตื่นในร่างเยาว์วัยในจุดเริ่มต้นของความลำบากตลอด 15 ปีหลังจากนี้ เขาก็ตั้งสติพาตัวเองให้รอดพ้นจากเหตุการณ์ออกมาได้ เป้าหมายของการได้ย้อนเวลาครั้งนี้มีเพียงหนึ่งเดียว คือการกลับไปข้างกายความสุขหนึ่งเดียวในชีวิตเขาก่อนอีกฝ่ายจะหายไป ! ท่านพี่ เปาเอ๋อ มาหาท่านแล้ว !


พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์

                สำหรับเรื่อง รักสองภพระหว่างข้ากับท่านพี่ เล่มบางเบาอ่านสบาย แต่ตัวเนื้อเรื่องยังมีอะไรให้ตามอยู่นะคะ ส่วนตัวรู้สึกว่าอ่านแล้วปริศนาของเรื่องน่าติดตามนายเอกไปค้นหา โดยระหว่างทางจะมีโมเม้นท่านพี่กับเปาเอ๋อน่ารัก ๆ ไปตามช่วงวัย ด้วยความที่เล่มบางอาจจะมีการแบ่งช่วงเวลา หรือสคิปไปบ้าง แต่โดยรวมคือดีค่ะ สิ่งที่ได้และค่อนข้างประทับใจเป็นความมีสติในการค่อย ๆ เก็บข้อมูล เก็บเหตุการณ์ของนายเอก และคนข้างตัวนายเอกที่เป็นสติอีกชั้นจนได้แกนเรื่องอยู่อย่างหนึ่งออกมาค่ะ ทำการต้องลงมือในจังหวะและเวลาที่เหมาะสม ค่ะ

                เล่าเรื่องแบบปลอดสปอยล์กันค่ะ เริ่มต่อจากเรื่องย่อนะคะ หลังนายเอก เปาเอ๋อ ฟื้นมาพบว่าตนอยู่ในร่างตอน 3 ขวบ กำลังโดนบ่าวของลุงฆ่า แต่จากความทรงจำภพแรกเราและนายเอกจะรู้ว่าความจริงบ่าวคนนี้ขี้ขลาดมาก เขาไม่กล้าฆ่านายเอก ได้แต่แกว่งมีดมั่ว ๆ จนนายเอกภพแรกเสียโฉม แต่รอดชีวิตไปเป็นขอทาน ส่วนภพสองนายเอกตั้งสติหนีออกมาทันตอนบ่าวหลับตาแกว่งมีด จึงพ้นจากการเสียโฉมไปได้ค่ะ ในช่วงนี้นายเอกจะเริ่มนึกถึงอดีต เราจะได้รู้จักว่า ท่านพี่ ที่นายเอกคอยคิดถึง ความจริงคือคุณชายของวังอ๋องแซ ผู้เป็นเครือญาติกับฮ่องเต้ของที่นี่ ในชีวิตภพแรก นายเอกใช้ชีวิตขอทาน พยายามหางานทำจนได้เป็นคนครัวของวังพระเอก และได้พบพระเอกในครัวค่ะ สามปีที่นายเอกบอกว่ามีความสุขที่สุดในภพแรก คือช่วงเวลาสามปีที่ได้อยู่ข้างกายพระเอกนั่นเอง

                มาภพที่สองเมื่อมีโอกาสจะได้อยู่กับพระเอกตั้งแต่เด็ก และจะได้ตามหาต้นต่อของการกวาดล้างวังแซอ๋องในอีก 15 ปีข้างหน้า นายเอกไม่ลังเลเลยที่จะพาเท้าเล็ก ๆ ของตนออกเดินทางหลายลี้เพื่อไปรอพระเอกยังบ้านพักแห่งหนึ่งที่เขาชอบไปในช่วงฤดูหนาว และเมื่อพระเอกได้พบเจ้าตัวเล็กที่นั่งขดเป็นก้อนป่วยอยู่หน้าเรือนพักของตน มือเล็กคู่นั้นจับยึดเขาไว้แน่นอย่างมาก เขาจึงตกลงใจว่า เขาก็คงปล่อยเจ้าตัวน้อยในอ้อมกอดไปไม่ได้เช่นกันนน

คะแนน 7.5

                สำหรับเรื่องแนวนี้เนื้อเรื่องเราโอเคมาก บรรยากาศก็น่ารัก ยิ่งมีการสลับฉากภพแรกเสริม ยิ่งทำให้มีมิติเพิ่ม รู้สึกว่าครบรสค่ะ แต่การแปลยังรู้สึกทำให้อ่านมึน ๆ ไปหน่อย และ จุดต่อไปนี้ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ขอขึ้น คำเตือน : มีฉาก NC ตอนนายเอกอายุ 14 ค่ะ (อายุวิญญาณ 28 ปี) ในจุดนี้จะไปพูดคุยกันต่อไปในสปอยล์มากค่ะ สรุปสำหรับเราเรื่องนี้เป็นนิยายสั้นที่ครบรสค่ะ ปูฉากดีมีน้ำตาซึมด้วยใจอ่อนไหวว 55555 ใครอ่านเท่านี้สนใจใช่แนว อัญเชิญกดซื้อค่า


>>> รีวิวแบบสปอยล์บางส่วน


 

พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)

                พอขึ้นตรงนี้ขอเกริ่มด้วยการโอดครวญเล็ก ๆ จาก คำเตือน ด้านบนค่ะ เราลุ้นมากว่าอย่าน้า อย่าพึ่งได้กันตอนนี้เชียววว ไม่งั้นต้องหักแต้มแน่ ๆ ...แล้วก็มา T-T ส่วนตัวเราอ่านแนวนี้ได้ เราเข้าใจในเซตติ้งของคนเขียน

1.       ถ้ามองว่านายเอกด้วยอายุวิญญาณน่าจะห่างจากพระเอก 2-4 ปีเท่านั้น

2.       ยังมีสายเลือดเทพบรรพกาลอีก

3.       การแต่งงานของคนยุคสมัยนั้น

ถ้ามองตามเซตติ้งเรื่องอย่างเข้าใจทั้ง 3 อย่าง การมาถึงฉากนี้ไม่ได้อะไร แต่ส่วนตัวเราว่าจำเป็นต้องขึ้นเตือนกันสักเล็กน้อย ยังไงถ้าวัดตามจริง 14 ยังไม่เหมาะสม ขอรีวิวกันตามตรงเนอะ แล้วก็ขอบอกว่าหนึ่งในคะแนนที่หักของเราเป็นจุดนี้ ใครที่อ่านแล้วใช่แนว เข้าใจรับจุดนี้ได้บวกลบกันดูนะคะ

เคลียร์เรื่องอายุแล้ว เรามาต่อกันที่เนื้อหา ทำการต้องลงมือในจังหวะและเวลาที่เหมาะสม ประโยคนี้เข้าใจไม่ยาก แต่ลงมือทำยากมาก เพราะเราจะรู้ได้ยังไงว่าจังหวะไหนเหมาะสมไม่เหมาะสม เรื่องรักสองภพของข้ากับท่านพี่การเล่าเรื่องทำเรานึกถึงเจิ้นก็ยังคงสง่าผ่าเผยเช่นนี้ (ชื่อประมาณ ๆ นี้ยาวจัดจำไม่ได้ T-T) คือเล่าโดยย่อกระชับเหตุการณ์สำคัญ โดยยังไม่ละรายละเอียด ...งง ไหมคะ มันคือการที่เหตุการณ์นี้ต้องเกิด จำเป็นต้องกล่าวถึง เพราะเป็นจุดเปลี่ยน หรือตัวแปรทางกายภาพหรือทางจิตใจตัวเอง เลยเล่าแบบไม่ลงในเหตุการณ์ให้เราตามลุ้น แต่ให้เราเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นแทน  <--- อันนี้อธิบายตามความรู้สึกส่วนตัวเราล้วน ๆ นะคะ

เท่าที่เราอ่านมา ข้อดีของการเล่าแบบนี้เรื่องจะกระชับ และไม่พลาดจุดสำคัญของปมเรื่อง แต่ข้อเสียคือกระชับไป ทำไม่ดีจุดนี้จะกลายเป็นไม่อิน กลายเป็นรวบรัดตัดตอน แต่ในเรื่องรักสองภพ เขาชัดมาแต่ต้นว่าต้องการเล่า โมเม้นหรือความสัมพันธ์พระเอกนายเอก 3 ช่วงวัย โดยแต่ละช่วงจะมีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่ออนาคตอยู่ ดังนั้น เขาจะไม่ลงรายละเอียด แต่ยังเล่า แถมมีขยี้ด้วย ส่วนตัวคือชอบบ ถึงทำให้ร้องไห้ หรือหน่วง แต่ไม่ขยี้อารมณ์มันก็ไม่ถึงอ่ะ


ช่วงวัย 3 ปี ของการเรียนรู้กันและกัน

      เปาเอ๋อ ได้เข้ามาอยู่กับพระเอกในฐานะหลานบุญธรรมของปู่พระเอก สิ่งที่นายเอกเปลี่ยนแปลงตัวเองมีสองอย่าง คือตั้งใจเรียน และเข้าสังคม

        เรื่องนี้ต้องบอกว่านายเอกไม่ได้ฉลาดล้ำ แต่เขาไหวพริบดี ขยัน และหัวไว สิ่งแรกที่ภพแรกทำให้เขาพลาด คือการที่ตนไม่เคยศึกษาเล่าเรียน เป็นเพียงเด็กถูกทิ้งที่กลายมาเป็นขอทาน แล้วขยับขึ้นมาเป็นคนครัว จนกระทั่งเป็นคนข้างกายพระเอก ดังนั้นภพแรกต่อให้หัวไวมีไหวพริบ แต่โลกค่อนข้างแคบ เล่าเรียนได้น้อย (พระเอกฝึกให้ไม่นาน) เขาเลยพลาดพลั้งที่จะช่วยพระเอกไว้ได้

ภพสองเขาจึงต้องเตรียมพร้อม เพื่อหาทางรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคตเขาต้องเรียน นอกจากเรียนยังต้องหาข่าวสาร ดังนั้นนายเอกจึงพาตัวเองเขาไปอยู่กับวงสังคมตั้งแต่เด็ก ด้วยน่าตาน่ารักน่าชัง ทำให้เขาสามารถหาข่าวโน้นนี่ตอนเรียนได้ไม่ยาก จุดนี้เลยเป็นตัวช่วยพระเอกพ้นจากการกวาดล้างวังแซอ๋องในตอนหลังมากทีเดียวค่ะ


ช่วงเวลา 10 ปีต่อมา อายุ 14 ปี

ทางด้านพระเอกด้วยสิ่งที่นายเอกพยายามหาข้อมูลเขาจึงมีกำลังภายในบรรลุมากกว่าภพก่อน เซตติ้งนึงในเรื่องคือการที่พระเอกมีสายเลือดสืบมาจากสัตว์พรรพกาลค่ะ ชนิดไหนอันนี้ต้องลองไปตามหาคำตอบในเล่นนะคะ หุหุ แต่แน่นอนว่านายเอกไม่ใช่คนเดียวที่พยายามเตรียมความพร้อมก่อนถึงเวลาลงมือ พระเอกก็เตรียมไว้แล้วเช่นกัน เราจะมาเทียบกับภพแรกถึงจุดพลิกผันนี้ให้ฟัง

-          ทั้งสองภพ พระเอกที่ไม่สนใจบัลลังก์พยายามวางแผนพาครอบครัวย้ายถิ่นฐานอยู่แล้ว เพียงแต่จังหวะและเวลาที่เขาลงมือในภพแรก ไม่ถูกต้อง

-          ภพแรกเรียกว่าตัวเขาไม่พร้อมในข่าวสารและพลัง ขณะที่อีกฝ่ายกลับได้ข้อมูลต่าง ๆ ไปก่อน ทำให้พระเอกเตรียมการรับมือไม่ทัน สุดท้ายปกป้องใครไว้ไม่ได้แม้แต่ตัวเขาเอง

-          ภพสองด้วยความช่วยเหลือของนายเอก ทำให้เขานำหน้าฝ่ายตรงข้ามไปก้าวหนึ่งเสมอ เคราะห์ของตระกูลครั้งนี้จึงผ่านพ้นไป

แต่ก็เป็นอย่างพระเอกพูดค่ะ เรื่องนี้นายเอกแบกคนเดียวมาตั้งแต่ 3 ขวบ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมานายเอกต้องฝันร้ายซ้ำ ๆ ในเหตุการณ์นองเลือดที่เขาต้องเจอ และแบกเอาความหวังจะช่วยพระเอกอันริบรี่เอาไว้กับตัว เวลานายเอกฝันร้ายและเล่าภาพอดีตภพแรกให้คนอ่านฟัง อย่างขยี้เลยค่ะ

สำหรับเราการขยี้นี้ของคนเขียนทำให้พฤติกรรมนายเอกมีเหตุผล เช่นหลัก ๆ เลยคือ ทำไมนายเอกไม่เล่าให้พระเอกฟังไปเลยล่ะ ว่าตัวเองย้อนอดีตมา

พอเราตั้งคำตอบปุ๊ปคนเขียนโยนคำตอบใส่หน้าด้วยเหตุการณ์เลยค่ะ สะเทือนใจหนักไปอีก มันตอกย้ำทั้งนายเอกทั้งคนอ่านมาก ๆ ว่า ทำการต้องลงมือในจังหวะและเวลาที่เหมาะสม นะ ...แถว ๆ ช่วงนี้เลยได้แต่กอดปลอบน้องเงียบ ๆ แทนพระเอก


ช่วงเวลา 3 ปีหลังจากนั้น ก่อนเวลาเกิดเหตุภพแรก 1 ปี

เมื่อเปิดใจกันแล้วทุกอย่างพระเอกตบอกบอกเลยว่าหลังจากนี้ นายเอกไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจัดการให้เอง เขาก็ลงมือได้เนี้ยบจริง ๆ แถมการลงโทษตัวโกงแบบไม่ตบให้ตายแต่เอาให้เจ็บปวดไปชั่วชีวิต เราโอเคมาก ๆ เราคิดตลอดว่าจะมีไหม ตอนจบตัวโกงที่ไม่ใช่ตายหรือกดความเป็นคน การแก้แค้นเรื่องนี้สำหรับเราคือโอเคเลยค่ะ

สิ่งที่พระเอกติดค้างนายเอกที่สุด ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ก็คงเป็นเรื่องที่ตัวเองไม่สามารถทำให้นายเอกมีความสุขได้เท่า 3 ปีนั้นในภพแรก ดังนั้นในเวลา 3 ปีหลังจากรู้ความจริง เขาเลยปล่อยนายเอกเป็นตัวของตัวเอง และทำหน้าที่ปกป้องคนรักของตัวเองอย่างเต็มที่อีกครั้ง (ยกนิ้วโป้ง)

 

คะแนน 7.5 นอกจากหักข้างต้นและการแปล ยังมีอีกนิดหน่อยค่ะ...บุคลิกนายเอกช่วงกลาง ๆ ค่อนหลัง ยกมือในใจบ่อยมากว่าอย่าหลุดคาร์นะลูกกก อย่าลืมว่าอายุลูกเท่าไรร แล้วมันจะมีช่วง เอ๊ะ ๆ อย่างตอนลงถ้ำ ดีที่คนเขียนยังหาเหตุผลบางอย่างมาตบ ๆ ตอบ ๆ ได้ โดยรวมแล้วเลยให้ผ่านค่ะ เกือบไปแล้วเปาเอ๋อออ

สรุปแล้วชอบกว่าที่คิดค่ะ กลับไปอ่านซ้ำแน่ ๆ เราน่าจะเคยพูดใน รีวิวกลรัก กับ ตัวร้าย ว่าชอบอะไรที่มีเด็ก 55555 แต่เรื่องนี้ก็มีฉากพาลุ้นตลอดว่าเรื่องจะหลุดไหม (โดยเฉพาะความรักเนี่ย ==;;) แต่ด้วยความที่เขาไม่ออกทะเล เลยจัดว่าโอเคค่ะ ใครหาอะไรสบาย ๆ เบา ๆ เชิญค่ะ

อ๋อใช่ ๆ ฉากที่ประทับใจสุดของเรามีสองฉากค่ะ หนึ่งคือฉากพบกันครั้งแรกตอนนายเอกสามขวบ สองคือฉากที่ขยี้ใจสุดก็คือฉากภพแรกตอนนายเอกตามไปรับพระเอกจากคนเก็บศพค่ะ เรื่องนี้ถ้าขาดการเล่าความทรงจำภพแรกไปจะไม่โดนใจขนาดนี้ พระเอกนายเอกตอนภพแรกคือละมุนกันไปอีกแบบด้วยค่ะ ชอบ ฮืออ // ขายพอแล้ว ไปแล้วค่ะ เล่ามันทุกตรงของเรื่องแล้วมั้งเนี่ย >-<



ชาแดง









 

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2563

รีวิวนิยาย คุณลุง (ฉบับเต็ม)



คุณลุง

#คุณลุงไกด์

ผู้แต่ง อวี้หยาง

ผู้แปล ยวี่หลิง

ภาพปก Nuine

ภาพประกอบ Mind*creator

ภาพ SD นัสจี๊ติดแฟนตาซี

สำนักพิมพ์ Cover Book


เรื่องย่อ

                ถ้าบอกว่าชีวิตเหมือนละครฉากหนึ่ง ชีวิตของ เซียวจิ่นถัง ก็เหมือนละครที่ฉายมาครึ่งเรื่องแล้วจู่ ๆ ก็ตัดฉับ เริ่มต้นใหม่...แบบที่ดีกว่าเดิม ชีวิตของคุณลุงวัยสามสิบแปดของเขาเปลี่ยนไป เพราะการค้นพบมิติลับในสร้อยหยกของแม่ แล้วทำให้ตัวเขาสามารถบำเพ็ญเซียนจนร่างกายกลับมาหนุ่มแน่น แถมยังเปิดพลังไกด์ออกมาอีกด้วย ความโดดเดี่ยวเกือบสี่สิบปีของเขากำลังสิ้นสุดลงบนเส้นทางชีวิตใหม่นี้ กับเซนตินอลหนุ่ม ชอว์น คอนเนอร์


พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์


            สำหรับเรื่อง คุณลุงไกด์ นี่เราค่อนข้างเสียดายปมหลาย ๆ อย่าง และตัวละครหลาย ๆ ตัว ด้วยความ 2 เล่มจบ และบาง ๆ เบา ๆ อ่านง่ายในเวลารวดเร็ว หลายอย่างเลยถูกแตะ ๆ เรื่องแล้วจากไป แต่สุดท้ายเราก็มาคิดว่า แล้วเราได้อะไรจากเรื่องนี้ ที่ค่อนข้างเอียงไปในทางความรักแบบครึ่งชีวิตฝากไว้แก่กัน และการมีอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม คิดไปคิดมาก็เจอคำหนึ่งเป็นคำตอบ แก่นเรื่องนี้อย่างหนึ่งสำหรับเรา น่าจะเป็น ช่วงเวลาที่ ใช่ของแต่ละคน ไม่ได้จำกัดเพียงเพราะอายุน้อย มันจะมาถึงเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมของคนคนนั้น...แล้วเหมาะสมที่ว่าเป็นยังไง ก่อนอื่นมาดูเนื้อเรื่องแบบไม่มีสปอยล์ก่อนดีกว่าว่าแนวใครไหมเนอะ ๆ ๆ ๆ

                เรามารู้จักเซียวจิ่นถัง คุณลุงไกด์หน้าอ่อนเยาว์ของพวกเราต่อจากเรื่องย่อกันสักหน่อยนะคะ เซียวจิ่นถังเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ใช้ชีวิตวนลูปจำเจทุกวัน จนกระทั่งประสบอุบัติเหตุเลือดหลดลงหยกของแม่ แล้วทำให้ได้วิธีบำเพ็ญเซียน และเข้าไปในมิติลับในหยกเพื่อฝึกฝนตัวเองได้ คุณลุงกลับมาเหมือนหนุ่มจนเพื่อนแปลกใจ แถมยังค้นพบว่าตัวเองกลายเป็นไกด์ขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่เลยช่วงอายุแสดงความเป็นไกด์ไปแล้ว (พอเลยอายุ 25 ไปคนแสดงการเป็นเซนตินอลไกด์น้อยมาก ๆ ) และเพราะเขาบำเพ็ญเซียนด้วยทำให้พลังไกด์ของเขาแข็งแกร่งกว่าคนอื่น จนติดค่าพลังแฝงสูงมากทำให้สถาบันไกด์ให้ความสำคัญ และอยากให้คุณลุงจิ่นถังมีคู่เป็นเซนตินอลพลังเทียมกันดี ๆ สักคน ด้วยความหวังดีของสถาบัน เลยส่งเนื้อไปถ่ำเสือ แค่ก ๆ เลยส่งจิ่นถังไปเลือกหนุ่ม ๆ แค่ก ๆ ๆ เลยส่งจิ่นถังไปฝึกงานที่สถาบันเซนตินอล ซึ่งที่นั่น พระเอกของพวกเรา ชอว์น คอนเนอร์ กำลังศึกษาอยู่ในปีสุดท้าย แถมยังคะแนนดีสุด ๆ ที่สำคัญคือ โสด !!

                เซนตินอลไกด์ที่บังเอิญเป็นรักแรกของกันและกันจึงหมุนมาพบกันในแบบนี้เองค่ะ ความรักน่ารัก ๆ จีบน้อย ๆ คบสักพัก และหมั่นเลย 5555 สปอยล์เท่านี้พอมากไปจะหลุดหมด แนวไม่หนักเลย อ่านง่ายและรู้สึกว่าลงหลาย ๆ อย่างน้อยไปหน่อยน่ะค่ะ เดี๋ยวไปลงเต็มในสปอยล์อีกที


คะแนน 6/10

ความจริงเกือบจะ 5.5 ด้วย แต่เรายังบวกคะแนนโครงเรื่องให้กับความสัมพันธ์แบบคู่ชีวิตตีคะแนนขึ้นมาอีกหน่อย

ลิ้งสำหรับอยากอ่านแบบมีสปอยล์สักหน่อย

ส่วนสปอยล์เต็มป่ะค่ะข้างล่างกัน






พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)


                ถ้าเราจะบ่น คงเป็นความเสียดายโครงและเนื้อเรื่อง รวมไปถึงตัวละคร เรื่องนี้เหมือนคนเขียนอยากเล่าหลายอย่างมาก แต่ไปไม่สุดเลยสักทาง เขาดึงบำเพ็ญเซียนมาผสมกับอวกาศ เราว่าน่าสนใจแต่สุดท้ายก็ตัดไปเฉย ๆ  ยังตามหาต่อไป สร้อยหยกเกริ่นมาเหมือนมีเจ้าของ มีปริศนา ...หายจ้อย รบกับเผ่าเซิร์ก ตัดฉึบฉับเป็นสรุปเรื่องแทน ยังไม่นับตัวละครน่าสงสารที่มีบทแล้วหาย  หรือควรมีบทแต่...ต้องจบแล้วจริง ๆ พวกนายได้แค่นี้แหละ // ตบบ่าเพื่อนทั้งหลาย// สุดท้ายความสัมพันธ์พระเอกนายเอกที่ดูอยากเน้นความลึกซึ้งที่เข้าใจกันและกัน สนับสนุนกัน และฝากชีวิตไว้แก่กัน สำหรับเรา...ก็ไปไม่สุดจริง ๆ แต่ภาพรวมเราโอเคไหม ก็คงตอบว่าเรายังโอเค เป็นเรื่องที่อ่านได้ยิ้ม ๆ เวลาอยากหาอะไรเบา ๆ น่ารัก ๆ มาอ่าน


                ไม่รู้ลุงเต๊าะเด็ก หรือโดนเด็กเต๊าะ


                ถึงจะมีเรื่องบ่นเพราะเสียดายเยอะ แต่ความประทับใจที่ทำให้ยังโอเคมีแน่นอน เท่าที่เราอ่านสิ่งที่เรื่องนี้เน้น หนึ่งเป็นไฟที่อยากทำตามความฝันที่ทิ้งไปของจิ่นถังกลับมา สองอุดมการณ์เพื่อส่วนรวมและพวกพ้อง และสามที่น่าจะเน้นเป็นหลักคือการที่ชีวิตมีใครอีกคนมาแบ่งปันเส้นทางชีวิต ความฝันและอุดมการณ์นั้น

            ตอนที่เล่าสรุปตอนท้าย (ซึ่งเราบ่นว่าตัดฉึบฉับ) เป็นส่วนที่ทำให้เราคิดขึ้นมาว่า นี่มันเหมือนบันทึกเกียรติประวัติของคนคนหนึ่งเลย ว่าเขาเริ่มต้นจากไหนกว่าจะมาถึงจุดนี้ เลยทำให้มีความเห็นส่วนตัวว่า ความจริงแล้วสิ่งที่เน้นสามข้อนั้นรวมได้ข้อเดียว คือ ช่วงเวลาที่ ใช่ของแต่ละคนเกิดได้ในทุกช่วงวัย เพียงแต่มันต้องเป็นจังหวะ เวลาที่เหมาะสม

โครงเรื่องของคุณลุงความจริงดำเนินไปไม่ได้ซับซ้อนเพราะมีจิ่นถังเดินเรื่องเป็นหลัก


1.       เดียวดาย 38 ปี

ถึงจะกล่าวถึงไม่มาก แต่ชีวิตในเมืองใหญ่ที่เหลือเพียงคนเดียวของจิ่นถังคงลำบาก และโดดเดี่ยวมาก มันเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็นึกภาพตามได้ของลูป ทำงานเพื่อเก็บเงิน กลับบ้านนอน เช้าไปทำงาน ความฝันอะไรที่มี ก็เป็นแค่ภาพฝันวัยเด็ก...เขาไม่ได้อ่อนเยาว์แบบนั้น ไม่มีพลังใจแบบนั้นอีกแล้ว

นั่นเป็นจุดที่เรื่องมักเน้นให้เราฟังตลอดหลังจากจิ่นถังเป็นไกด์ เพราะอายุ 40 ปีในเส้นอายุไกด์ถือว่ายังหนุ่มมาก ๆ นั่นทำให้เขามีไฟอีกครั้ง และเริ่มดึงความฝันที่มีกลับมาเก็บกอดอีกหน รวมทั้งถนอมคุณค่าของเวลาที่ได้เพิ่มมากอย่างดี

2.       อายุไม่ใช่ปัญหาของแค่มีใจก็พอ

ความจริงจุดนี้ไม่ใช่แค่เรื่องความต่างวัยของนายเอกกับพระเอก การที่นายเอกโตกว่าทำให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูงกว่าจริง ขณะเดียวกันเขาก็มองว่าพระเอกอาจจะมีตัวเลือกที่กว่าเพราะอายุน้อยกว่าเขามาก (ซึ่งตามอายุเซนตินอลไกด์ไม่มีผลเลยย) แต่เมื่อคนสองคนต่างพูดคุยกันแล้วว่าไม่มีปัญหา อุปสรรคอื่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

อีกเรื่องคือความฝันและอุดมการณ์ เมื่อก้าวเข้ามามีอายุที่มากขึ้น ความต้องการของคนมักเปลี่ยน บางคนหากอายุยังเลขสอง อาจจะพยายามหาสิ่งท้าทายทำเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดทางความคิดความฝัน แต่เมื่ออายุขึ้นเลขสามกลับมองใหญ่ว่าต้องการความมั่นคงและหยุดตัวเอง เพราะคิดว่าหมดเวลาแล้ว ไฟแบบนั้นไม่หมดและหมดไปแล้ว

ซึ่งความจริงถ้าอ่านจากเรื่องนี้ช่วงเวลาบางครั้งก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดความสำเร็จ ใครบอกกันว่าอายุ 40 ประสบความสำเร็จไม่ได้ ทำตามฝันไม่ได้ จิ่นถังคือตัวแทนของคุณลุงคนนั้นที่มีจังหวะสำเร็จของชีวิตมาในวัยเกือบ 40


-           ในช่วงวัย 38 จู่ ๆ เขาก็ได้โอกาสร่ำรวย มีเส้นทางใช้ชีวิตเพิ่ม และในเปิดโลกใหม่

คนปกติอาจจะไม่ได้โชคใหญ่แบบเขา แต่ก็สามารถตีความได้ว่าในช่วงเวลาชีวิตมนุษย์วัย 38 ปีของจิ่นถัง คือจังหวะและเวลาของเขา ที่ทำให้โลกจารึกเขาไว้ในหน้าบันทึกของโลก

·         แต่ถ้าพวกเราจะมาคิดในมุมในโลกความจริง คงจะเป็นการบอกได้ว่า ทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่เคยสายไปที่จะประสบความสำเร็จ หรือทำตามความฝันละมั้งคะ แม้ว่าจะไม่ได้แฟนตาซีขนาดในนิยายก็ตาม

 

แต่แน่นอนอย่างหนึ่งที่เราเห็นว่าส่วนหนึ่งที่จิ่นถังประสบความสำเร็จก็เพราะวัยของเขาที่แก่พอที่จะควบคุมอารมณ์ และมีประสบการณ์พอที่จะวางตัวทำงานอย่างเหมาะสม เรียกว่าโอกาสในมาในตอนที่เครื่องมือในมือพร้อมก็ว่าได้

...ถึงในนิยายจะใส่ให้เห็นน้อยไปหน่อยก็เถอะ (ยังคงเสียดายพล็อต T T)


3.       สุดท้ายแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้คือใจเพื่อส่วนรวม

ความจริง (อีกแล้ว) มันก็ค่อนข้างจะมีความอะไรบ้างอย่างในอุดมการณ์ของทั้งคู่ เราว่าที่รู้สึกขัด ๆ นี้มันจะหายไปถ้าเรื่องราวถูกลงรายละเอียดดีกว่านี้ แต่ด้วยการเน้นย้ำของคนเขียน เราก็พบจริง ๆ ว่าเขาพยายามสร้างให้ทั้งสองคนมีอุดมการณ์เพื่อส่วนรวมอย่างแข็งขัน ซึ่งเป็นจุดที่น่าประทับใจ และสนุกสุดของเรื่องด้วย ฉากต่อสู้มันลุ้นและฮึกเหิมนะคะ ถ้า (อีกแล้ว...) เน้นเรื่องมาที่ตรงนี้ !!!

 

                สรุปแล้ว 6 คะแนน ได้แต่เสียดายจริง ๆ เราพูดเสียดายกี่รอบแล้วนะ ส่วนตัวยังรู้สึกดีที่ซื้อมา แต่หนังสือโทนประมาณนี้รอบหน้าเราอาจจะต้องเริ่มคิดซ้ำหลาย ๆ รอบจริง ๆ ค่ะ ในบรรดานิยายมากมายที่ออกตอนนี้ดูปกกับเรื่องย่ออย่างเดียวไม่ได้แล้ววว แกลบ ๆ ๆ ๆ ๆ

 

ชาแดง




รีวิว แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ( 3 เล่มจบค่ะะ)

  แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ผู้แต่ง ปี่ข่าปี่ ผู้แปล จื่อซิน ผู้วาด 梨乖 酥 สำนักพิมพ์ Inltreebook เรื่องย่อ หลินชิงอวี่ แต...