วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2563

รีวิว Out of Tune (ฉบับเต็ม)



                            ภาพจาก สำนักพิมพ์ Hermit

            

Out of Tune

ผู้เขียน Wu Zhe

ผู้แปล หมีสามเกลอ

สำนักพิมพ์ Hermit


เรื่องย่อ

เซี่ยงซี เด็กที่ถูกแก๊งในสลัมเก็บมาเลี้ยง เพื่อให้ออกหาเงินโดยการลักเล็กขโขยน้อย ไปจนถึงการหลอกเอาเงินอย่างการแกล้งล้มให้รถชน...แต่ชีวิตของเขาต้องเป็นแบบนี้ไปตลอดหรือ ? กระเป๋าหนังคุณภาพดีใบหนึ่งที่เขาชกมา บนบัตรประชาชนมีชื่อที่เขาอ่านไม่ค่อยจะออก แต่รู้สึกว่าเพราะมาก ๆ เฉิงโป๋เยี่ยน คุณหมอแผนกกระดูก ที่วนมาเจอกันที่โรงพยาบาล ...ถ้าเซี่ยงซีอยากออกจากวังวนดำมืด เฉิงโป๋เยี่ยนก็เป็นแสงไฟดวงหนึ่งสำหรับเขาที่อยากคว้าจับเพื่อนำทางออกไป...ยังโลกอีกด้านหนึ่ง



พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์

                หลังจากอ่านจบไปนานมาก ๆ ก็นึกถึงขึ้นมา ช่วงนี้อยากอ่านอะไรอบอุ่น ๆ มีปม แต่ไม่เครียดเกินไปเลยคว้า  Out of Tune ออกมาจากตู้ มี 3 เล่มจบค่ะ เคยหวีดไว้ในรีวิวอีกอันว่าได้มา เพราะปก 5555 มันสบายตาดีชอบบ

                สำหรับแกนของเรื่องนี้เราคิดว่าเป็นการ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ไมถึงมีคำว่า กล้าเรามาอ่านเรื่องแบบไม่สปอยล์กันดูนะคะ

                เซี่ยงซี เด็กหนุ่มกำพร้าที่โดดหัวหน้าแก๊งมืดในสลัมเก็บมาเลี้ยง ด้วยสภาพแวดล้อมทำให้เขากลายเป็นเด็กที่ต้องหาเลี้ยงตัวด้วยการหลอกคนไปวัน  ๆ เพราะถ้าไม่ได้เงินกลับมาก็อาจโดนซ้อมได้ จนวันหนึ่งจู่ ๆ เขาก็คิดขึ้นมา...เขาต้องเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไร ?

                คืนหนึ่ง เฉิงโป๋เยี่ยน เลิกเวรไปซื้อขอที่ซุปเปอร์กลับบ้านให้แม่ แต่กระเป๋าเงินเขากลับถูกมือดีฉกไป..ท้ายสิคะใครฉก...และในเวลาไม่นานก็มีเหตุเกิดในห้องฉุกเฉิน มีคนกระดูกหักมาที่แผนก เซี่ยงซี นั่นเอง เด็กหนุ่มจำหน้าคุณหมอได้ เพราะเขาเคยเห็นในบัตรประชาชนของอีกฝ่าย และด้วยอยากอ่านชื่อพระเอกออกพอได้ยินครั้งหนึ่งก็ท่องทันที เนื่องจากเจ้าตัวรู้สึกว่ามันเพราะมาก ๆ พระเอกแนะนำให้นายเอกไปห้องผ่าตัดเตรียมเอกสาร ใครจะไปรู้ว่าเผลอแป๊ปเดียวนายเอกกับชาวแก๊งก็หายออกไปจากโรงพยาบาล

                แต่ปรากฏตัวอีกทีคือมาแกล้งล้มว่าพระเอกชนขาหัก...นายเอกเลยโดนพระเอกจับได้ว่าเป็นแก๊งต้มตุ๋น (แต่ขาหักจริง ๆ นะ) ถึงอย่างนั้น ด้วยอะไรก็แล้วแต่เขาสองคนเลยวนเวียนมาเจอกันแบบนี้จะหนี...ใครจะหนีกันละ 5555 เซี่ยงซีเจอเฮียเฉิงดูแลขนาดนี้แล้ว ไม่ให้กัดฟันลองหนีจากแก๊งดูสักครั้ง จะได้ออกไปใช้ชีวิตในโลกแห่งแสงสว่างกับคนอื่นเขาบ้าง เจ้าตัวคิดว่า มันคุ้มค่าที่จะลองเสี่ยงดูสักตั้ง !

คะแนน 8/10




พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)

                สปอยล์นะคะ ใครไม่ชอบข้ามนะ


                กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง

                ทำไมถึงคิดว่าเป็นคำนี้ เพราะนายเอกเลยค่ะ คนแรกเลย สภาพแวดล้อมที่นายเอกอยู่มันอันตราย และกดดันมาก แต่เขายังเลือกที่จะ กล้า เสี่ยงหนีออกมา ถึงนั่นจะหมายถึงความตาย หรือ ต่อให้รอดเขาก็อาจจะโดนล่า และถูกลากกลับมา ...แต่เขาก็ยังของลองทำ และเมื่อเขากล้าที่จะทำมัน เมื่อเขาได้มาอยู่โลกอีกด้านกับพระเอก สิ่งที่เขาต้องปรับตัว สิ่งที่เขาต้องเปลี่ยนแปลง...ต้องใช้ความกล้านะ ความรู้สึกเรา เพราะมันคนละสังคมกันเลย แน่นอน สิ่งที่ในนิยายบอกอีกอย่าง นายเอกเปลี่ยนแปลงสำเร็จ เพราะมีแสงดวงไม่เล็กไม่ใหญ่อย่างพระเอกคอยสนับสนุน


1.       กล้าก้าวออกมา  อย่างที่เราเล่าช่วงแรกค่ะ ที่ที่นายเอกถูกเลี้ยงดูไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่ดี และไม่ได้ออกมาได้ง่าย ๆ มีหลายคนที่เข้าไปแล้วสุดท้ายก็ออกจากวังวนไม่ได้ ต้องกลับไปทำอะไรแบบนั้นอย่างเดิม แต่นายเอกก็ยังขอให้ได้ลองดูสักครั้ง และคว้าแสงอย่างพระเอกเอาไว้

2.   กล้าที่จะยอมรับ  นายเอกไม่เคยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นยังไง และไม่ใช้สิ่งเหล่านั้นเป็นข้ออ้าง เพื่อให้ตัวเองก้าวหน้า และเปลี่ยนแปลง แน่นอนพระเอกก็เช่นกัน เขารู้ว่านายเอกเป็นยังไง โตมาแบบไหน เขาไม่ได้เรียกร้องให้นายเอกไม่เป็นตัวเอง สิ่งที่เขาทำคือสนับสนุน และแนะนำการใช้ชีวิตอย่างปกติสุขให้นายเอก เรียกว่าเป็นฝ่ายซับพอร์ตที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ อะไรที่นายเอกไม่พูด พระเอกสังเกตและจะไม่บังคับ แล้วก็ปล่อยให้นายเอกวิ่งมากอดชาร์จพลังไปสู้ต่อ โดยที่เขาจะคอยตามระวังให้อยู่ไม่ไกล

3.     กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เส้นทางชีวิตที่พวกเราใช้กันปกติ นักเขียนได้นำเสนอในมุมมองของเซี่ยงซี เลยทำให้เรารู้เลยว่า ความจริงมันไม่ง่ายเลยนะกับการใช้ชีวิตที่แตกต่างแบบนี้ นั่นคือจุดที่ทำให้เราลุ้น และตามให้กำลังใจนายเอกไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่เขาจะรอดจากการตามล่าไหม เขาจะทำงานอะไร เขาจะหาครอบครัวที่แท้จริงได้รึเปล่า เขาจะสามารถอยู่กับพระเอกได้รึเปล่า ปัญหาทั่วไปเนี่ยแหละค่ะ คือปัญหาจริง ๆ


ต้องบอกว่า 3 เล่มเป็นปัญหาชีวิตของพระเอกนายเอกจริง ๆ ส่วนเรื่องความรักก็อบอุ่น และดูมีคำถามสมจริงให้คิดด้วยค่ะ


จากคุณแม่พระเอก คุณแม่ตั้งคำถามทั่วไปเลยค่ะ...นี่คือรัก หรือแค่หลง


โอ้ เราชอบการยิงประเด็นมาก ๆ สำหรับใครชอบแนวนี้ไปหาจับจองได้นะคะ 8 คะแนนค่ะ สิ่งที่ชอบเลยคือพระเอกเรียลมากที่ไม่ได้มีอำนาจล้นฟ้าคุ้มกันนายเอกได้ตลอด มันเลยทำให้เราลุ้นว่าเขาจะปกป้องนายเอกจากการตามล่ายังไง ทว่าพอมาช่วงใช้ชีวิตก็จะเป็นสโลว์ไลฟ์ทำให้ออกเอื่อย ๆ สักหน่อย และความสัมพันธ์หลังจากฝ่าด่านครอบครัวก็ตัดฉับ จบสมบูรณ์ค่ะแต่อยากให้ตอบคำถามคุณแม่ชัดกว่านี้ (หรือชัดแล้วแต่เราลืมกันนะ) สรุปเลยลง 8 คะแนนค่ะ  



ชาแดง


วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2563

รีวิว น้องชายที่รัก ( ฉบับเต็ม )


                        ภาพจาก Samsenbook

รีวิว น้องชายที่รัก ( จบ )

น้องชายที่รัก

ผู้แต่ง Molly

ผู้แปล ธมน

สำนักพิมพ์ Rose Publishing

เรื่องย่อ

            “เหนาเหนา ของเตี้ยวเตี้ยว คือลูกสุนัขสีดำขนหยิกที่ชอบประจบเอาใจ แต่ เอ๊ะ เหนาเหนาก็คือพี่ชายของเตี้ยวเตี้ยวนี่นา ก็พี่ชายที่เคยห่วงใบดูแลกลับมีท่าทีหมางเมินไม่สนใจน้องชายอย่างเขา ทั้ง ๆ ที่เขาตั้งใจกลับมากระชับสัมพันธ์ ทำอะไร ๆ ให้มันดีขึ้น แต่พี่ชายดันทำแต่งานเนี่ยนะ...เป็นแบบนี้พี่ชายก็ใช้ชื่อเดียวกับเจ้าขนปุยตรงนั้นไปแล้วกัน !


พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์

                เราอ่าน น้องชายที่รัก จบสักพักแล้วค่ะ แอบโดดไปเขียนเรื่องอื่นเสียก่อน สำหรับเรื่องนี้มี 2 เล่มจบ และสำหรับคนที่เคยอ่านเรื่อง หัวใจมีหลิงซี ไม่ควรพลาดค่ะ เพราะเรื่องนี้มีตัวละครคาบเกี่ยวอยู่พอสมควร อย่างคู่พี่ชายของพระเอก แอนดูร์กับหวังลี่ลี่ เล่มนี้ก็จะมีมาเฉลยความหวานอยู่ช่วงหนึ่งกันเลยทีเดียว

                หลังจากอ่านจบเราก็คิด ๆ อยู่นานว่าแกนของเรื่องนี้คืออะไร แล้วก็ได้คำตอบค่ะ เราคิดว่ามันน่าจะเป็นคำถามง่าย ๆ ที่คนเรามักลืม และโฆษณาประเภทหนึ่งเลยพากันหยิบมาใช้สะกิดเตือนกัน


“ วันนี้คุณใส่ใจคนที่คุณรัก (บ้าง) หรือยัง ”


        ก่อนจะไปสปอยล์สุด ๆ มาปลอดสปอยล์กันก่อนตามสเต็ปนะคะ


        เย่ฟาน ประสบอุบัติเหตุจากการขับรถอย่างคึกคะนองจนบาดเจ็บสาหัส เดือดร้อนพี่ชายที่อยู่อีกประเทศรีบบินมาหาด้วยความเป็นห่วง แต่คนเป็นพี่ชายดูแลน้องยามเจ้าตัวหลับ ทำให้คนน้องไม่รู้เลยว่ามีคนคอยดูแลอยู่ตลอด จนกระทั่งพี่ชาย สวีเซิงเหยา เห็นว่าน้องชายพ้นขีดอันตรายจึงจำใจกลับประเทศไปเคลียร์งานต่อ ทำให้เขาพลาดช่วงเวลาที่น้องชายลืมตาขึ้นมาแล้วร้องไห้ ...เย่ฟานร้องขอกลับบ้าน เพื่อไปอยู่กับพี่

คุณชายเล็กคนละแซ่กับพี่ชายอย่าง เย่ฟานเป็นเด็กเกเรมาตลอดตอนนี้เขาสำนึกแล้วเลยตัดสินใจกลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพี่ชายที่เก่งกาจ และถูกเขาเมินเฉยมาตลอด 20 ปี สวีเซิงเหยาเห็นน้องกลับบ้านมาทำตัวดีผิดปกติก็เกิดหวาดระแวง...นี่ใช่น้องเขาตัวจริงหรือเปล่า ? แต่ส่งคนไปสืบก็แล้ว ตรวจดีเอ็นเอก็แล้วทุกอย่างยืนยังว่าคนคนนี้น้องเขาตัวอย่างแน่นอน พี่ชายจึงหาเวลามาจับเข่าคุย...ใครจะรู้เรื่องราวมันซับซ้อนกว่าคนคนนี้คือ เย่ฟานน้องชายของเขา...แต่เป็นจิตวิญญาณของน้องจากอีกโลกคู่ขนาน ! มาเข้าร่างเพื่อแก้ไขอดีต

ความสัมพันธ์พี่น้อง (ไม่แท้) ความสับสนตัวตน และความรักที่ต้องข้ามกำแพงใจ ทุกอย่างรวมกลายเป็นความหวานนนน ของคุณพี่สุดแทคแคร์ และน้องชายที่พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น ต้องสปอยล์สักหน่อยว่าคุณพี่รู้อยู่แล้วค่ะว่าน้องไม่ใช่น้องแท้ ๆ เขาเลยข้ามกำแพงไปได้ (แต่เขาเลี้ยงของเขามานะ) แต่ทางน้องชายไม่เคยรู้ รายนี้เรียกว่าปีนข้ามมาเลยก็ว่าได้ ส่วนอะไรยังไง หวานนนแค่ไหน ติดตามในเล่มได้ค่ะ ถ้าใช่แนวนะคะ ส่วนใครสนใจสปอยล์ป่ะค่ะหลังคะแนน

คะแนน 7.5 /10




พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)


                ถ้าติดความหวานเบาสมองเพราะเป็นความสัมพันธ์ของคุณลุง (แค่ก ๆ ) ของผู้ใหญ่อย่างหัวใจมีหลิงซี โปรดล้างโมเม้นแบบนั้นสักเล็กน้อย เรื่องนี้อาจจะตลกและหวานตามสไตล์นักเขียน แต่ด้วยตัวละครนำอย่าง เย่ฟาน เป็นคนที่เติบโตมาแบบไม่ได้พัฒนาด้านสังคมที่ดีนัก เป็นคุณชายเจ้ารำราญเที่ยวกับกินมาตลอด พอเขาอย่างเปลี่ยนแปลง เลยจะมีอะไรให้ต้องคิดต้องค่อย ๆ ก้าวมากกว่า ซึ่งพระเอกก็เป็นหลักที่ดีสำหรับเขาพอควรเลยค่ะ


                สปอยล์จริง ๆ แล้วนะคะ ไม่ชอบข้ามนะคะ ๆ


                อย่างที่เราเกริ่นข้างต้นค่ะ เราคิดว่าแกนเรื่องนี้คือ “ วันนี้คุณใส่ใจคนที่คุณรัก (บ้าง) หรือยัง ”


                ก่อนอื่นเราขอแบ่งประเด็นปัญหาของเรื่องเป็น 2 อย่างค่ะ


1.       ประเด็นภายใน  

1.1 ช่วงแรก คือความสัมพันธ์พี่น้อง (พี่น้องจริง ๆ ก่อนนะ) เดิมทั้งนายเอกก่อนประสบอุบัติเหตุไม่เคยสนใจใยดีกับความรักความเอาใจใส่ของพี่ชายอย่างพระเอก เพราะเขาตั้งแง่ว่า พี่แค่เสแสร้ง เหมือนคนรับใช้ และแม่ที่เย็นชาใส่เขาตั้งแต่เด็ก ดังนั้น นายเอกเลยมักจะละเลยพระเอกไป ต่อให้พระเอกทำดีด้วยแค่ไหน ทำดีมานานเท่าไร สำหรับนายเอกก็กลายเป็นความชินชา

จนถึงจุดเปลี่ยนที่ความตายเข้ามาใกล้ เขาถึงได้รู้คุณค่า


ประเด็นนี้แยกออกเป็นสองโลกก่อนนะคะ

โลกคู่ขนานที่นายเอกจากมานั้นตายตอนอายุ 29 (ถ้าจำไม่ผิด) เจ้าตัวเสียใจมาที่เข้าใจพี่ชายผิดมาตลอด วิญญาณเขาที่มาเข้าร่างอีกโลกหนึ่ง

ก็คือโลกหลักในวัย 20 ปี ตอนแรกเจ้าตัวดีใจ ที่เขาจะได้กลับมาชดเชยให้พี่ชายของเขา (พี่ชายในโลกคู่ขนาน) แต่เมื่อคุยกับพี่ชาย (โลกหลัก) นายเอกก็พบว่าตัวเองมาอยู่คนละโลก พี่ชายคนนี้เป็นคนละคนกับโลกของเขา ...นี่เลยเป็นปมแรกที่สองคนต้องจัดการ เมื่อพระเอกตั้งสติได้ เขาก็ดึงสตินายเอกกลับมาให้ทบทวนดี ๆ สองคนจึงสามสัมพันธ์กันตามเดิม...จบปมช่วงแรก


1.2 ช่วงกลางเรื่องก้าวข้ามขีดสายเลือด อย่างที่เล่าไปด้านบนค่ะสองคนไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ แต่คนที่รู้มีแต่ทางพี่ชาย (รายนี้ช่างสัเกต เดามาตั้งแต่เด็กก่อนจะออกสืบ) ส่วนทางนายเอกคือคนที่ก้าวข้ามจุดนี้ไปเองจริง ๆ ในเรื่องเลยมีช่วงเวลาที่เจ้าตัวสับสน คิดหนัก ซึ่งพี่ก็เข้าใจ (แต่ก็ไม่บอกน้องนะนาย) ปล่อยให้นายเอกคิด และตัดสินใจ แน่นอนค่ะ นักเขียนท่านนี้ไม่ค่อยปล่อยตัวละครยื้อสถานการณ์ พอถึงจุดที่มากไปกว่านี้เราอาจจะเริ่มรำคาญ นักเขียนก็ปล่อย ให้ตัวละครตัดสินใจพอดี ... อันนี้สำหรับเราค่อนข้างชอบนะ เรื่องกะจังหวะ เป็นความรู้สึกส่วนตัวมาก  ๆ เลยค่ะว่าเขากะจุดได้พอดี


2.       ประเด็นภายนอก


2.1    ศัตรูปัจจุบัน ตัวละครนี้ใครอ่านหลิงซีน่าจะคุ้น ใช่ค่ะ เราจะไม่เฉลย แต่เขามาเป็นนางร้ายโลกนี้กับคู่นี้ด้วยค่ะ

2.2    ศัตรูจากอนาคต เป็นคนที่หลอกนายเอกวัย 29 ปี (ในโลกคู่ขนาน) ให้ยึดบริษัทจากพี่ชาย (โลกคู่ขนาน) จนนายเอกรู้สึกตัวหลังยึดมาจริง ๆ ว่าพี่ชายของเขาความจริงดีต่อเขามากแค่ไหน แต่สุดท้าย ก่อนที่เขาจะได้บอกขอโทษอีกฝ่าย...เขาก็ตายก่อน


น้องชายที่รัก เรื่องนี้นักเขียนทำให้เราเห็นตัวละครที่ละเลยอยู่ 3 แบบ ซึ่งในโลกคู่ขนานต่างก็ต้องตายจากไป เพราะ ไม่ใส่ใจในสิ่งที่ควรรัก

เย่ฟาน ไม่ใส่ใจพี่ชาย จนกระทั่งตายถึงรู้สึกถึงคุณค่า เขาจากมาพร้อมได้โอกาสที่สอง...แต่โอกาสที่สองมันไม่มีอยู่จริง...พี่ชายคนนี้ ไม่ใช่คนเดียวกับที่เขาอยากชดเชยให้ สวีเซิงเหยาคนนี้เป็นคนที่เขารักและใช้ชีวิตด้วยจริง ...แต่พี่ชายจริง ๆ ของเขาอีกโลกหนึ่ง...เย่ฟานไม่มีวันได้ชดเชยอะไรให้ได้ แม้แต่บอกว่าขอโทษ เขาทำได้แต่ใช่ชีวิตนี้ให้ดี ไม่ให้สวีเซิงเหยาซ้ำรอยอีกโลก

คุณเลขาพระเอก และเพื่อนพระเอก เป็นคู่ที่เราชอบตอนพิเศษในโลกคู่ขนานมาก โลกนั้นสิ่งที่สองคนละเลยคือชีวิตตัวเอง คนหนึ่งไม่ใส่ใจสุขภาพ ทำแต่งานสุดท้ายเป็นมะเร็งตาย คนหนึ่งละเลยสุขภาพตนเองและไม่รอบคอบพอที่จะป้องกันชีวิตตัวเองสุดท้ายโลกนั้นก็ถูกระเบิดบาดเจ็บสาหัส ...ไม่มีวันได้เจอกัน และไม่มีโอกาสที่สอง (โลกหลักเขาคู่กันนะคะ)

ตัวร้าย เป็นคนละเลยความจริงโดยรวม และที่สุดคือละเลยความสุขของตัวเอง แม้แต่กลับมาได้ชีวิตใหม่ เขาเลือกยังเลือกตรงข้ามกับเย่ฟาน ไม่เริ่มต้นอะไรใหม่...และย้ำอยู่ที่เดิม


      โดยความเห็นส่วนตัวนักเขียนทำตัวร้ายกะจังหวะออกมาไม่เคลียร์ และมีอิมแพคกับปมน้อยไปมาก ๆ เราส่วนใหญ่กลายเป็นเน้นปมภายในมากกว่า เลยค่อนข้างเสียดาย อีกส่วนหนึ่งคือบทสรุปของตัวร้ายเราแอบคิดนิดหน่อยว่าจะมีอะไรที่ดีกว่านี้ไหม...แต่โอเคค่ะโดยรวมดี 7.5 ค่ะ และดีมาก ๆ 

สำหรับคนอ่านหลิงซี

นักเขียนกล่าว่า “ คู่นี้ไม่ว่าโลกไหนพวกเขาก็จะตกหลุมรักกันค่ะ ” ค่า หวานจริงง คู่เน้  



ชาแดง

    











วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2563

รีวิว เหรียญทองแดงปราบพิภพ (ฉบับเต็ม)





ภาพจาก Minerva Books


เหรียญทองแดงปราบพิภพ
ผู้เขียน มู่ซูหลี่
ผู้แปล ใบไม้แดง
ภาพ ซานหุน
สำนักพิมพ์ มิเนอร์วา บุ๊ค

เรื่องย่อ
            ตำนานเทพมังกรผู้ยิ่งใหญ่ถือกำเนินจากท้องทะเล และมาพร้อมกับเมฆสายฟ้าอานุภาพรุนแรงน่าครั่นคร้าน ทว่ามังกรก็มีวันประสบเคราะห์ใหญ่ถึงคราววิบัติ ถูกทำร้ายจนเหลือแต่แก่นวิญญาณรอกลับคืน...จู่ ๆ ที่เมืองหนึ่งมีเหตุประหลาดเกิดขึ้น ข่าวลือเรื่องชายรูปร่างหน้าตาสยองราวกับภูตผีมักปรากฏตัวในยามค่ำคืนจนผู้คนหวาดผวา กระทั่งหลสงจีนผู้หนึ่งมาที่นี่พร้อมเหรียญทองแดง เรื่องราวแสนพิลึกพิลั่นก็บังเกิดขึ้นนับแต่นี้ 


พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์
                ถ้าชื่นชอบแนวผจญภัย คดีลึกลับ ช่วยวิญญาณมีห่วง เหรียญทองแดงปราบพิภพ 3 เล่มจบนี้ ก็เรียกได้ว่ามีเนื้อเรื่องที่ดี และค่อนข้างถูกใจเรามาก ๆ เรื่องหนึ่งในปีนี้เลย
                เรื่องราวเริ่มจากวิญญาณประหลาดที่มาซื้ออาหารเช้าในเวลาเดิมทุกวันก่อนรุ่งสาง เป็นเหตุให้เด็กรับใช้ที่ขายอาหารแก่วิญญาณตนนั้นทนไม่ไหว ต้องรีบจับชายจีวรขาวของหลวงจีนที่ผ่านทางมา ขอความเมตตาปราบผีให้หน่อย ทว่าด้านวิญญาณที่ซื้ออาหาร แท้จริงแล้วก็เพียงทำตามคำสั่งของ เซวียเสียน เทพมังกรที่โดนกระชากกระดูกไปจนวิญญาณและร่างต้องแยกกันอยู่ ตัวเขาบาดเจ็บสาหัสต้องอาศัยร่างกระดาษเป็นร่างกาย แต่เมื่อไม่มีกระดูกจึงพิการขยับตัวไม่ได้ จึงต้องให้วิญญาณเจ้าของบ้านหลังนี้ ช่วยออกไปซื้อข้าวให้
                แต่คนถึงคราวจะไม่ได้กิน ก็มักจะมีเรื่องขัดจังหวะ หลวงจีนหนุ่มที่โดนไหว้วานให้มาปราบผีก็เข้ามาแซะร่างกระดาษของทั้งเขา และวิญญาณเจ้าของบ้านติดตัวไปด้วย ทว่ายังไม่ทันที่ เซวียเสียนจะหาทางหนี เสวียนหมิ่น หลวงจีนที่จับเขาไว้ก็ดันตาดีทักคนที่มีเลือดมังกรของเขาติดร่าง เป็นเหตุให้พวกเขาทั้งหมดยกพลไปจัดการคดีวิญญาณที่เมืองนั้นด้วยกัน...และกลายเป็นเดินทางร่วมกัน จนถึงปลายทางของแต่ละคน
                สนุกนะ เราชอบแนวนี้ อาจจะไม่ได้มีจุดสู้พีคแบบฟ้าสะเทือนมากนัก แต่ปริศนา และความสัมพันธ์ของแต่ละคนก็พาลุ้น และแบบหน่วงใจไปตามทางเหมือนกัน นอกจากนี้มีฉากที่เราอยากเห็นระหว่างมังกรกับคนตรงใจเราอยู่ด้วย อย่างขดร่างเล็ก ๆ พันมือ หรือแปลงร่างเดิมม้วนคนไว้กับตัว...เราเป็นคนแพ้ทางมังกรจีน 5555555 (ไม่จีนก็ชอบอ่านน)
คะแนน 9/10
                ปล. ความรักไม่หวือหวา แต่อบอุ่นท่ามกลางม่านหมอกค่ะ



พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)

สปอยล์มากจริง ๆ โปรดข้ามหากไม่โอเค

สปอยล์เล่มพิเศษ สคิปไปหัวข้อสุดท้ายค่ะะ

                เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่เปิดเรื่องที่ปริศนาสองอย่างของตัวละครเองทั้งสองคน และวางปมที่อ่อนไหวระหว่างทั้งคู่ไว้ด้วย
                ถ้าให้เราคิดว่าแก่นเรื่องนี้คืออะไร เราคิดว่า ชีวิต...นับว่าไม่มีให้อะไรให้เสียดาย หรือเสียใจอีกแล้ว
                ตอนอ่านพวกเราจะเจอกับคำขอสุดท้ายขอผู้วายชนแต่ละคน แล้วจะได้ยินนายเอกถามเสมอ
เจ้าไม่เสียใจแน่นะกับ เจ้ามีอะไรติดค้างหรือไม่
ก่อนอื่นมาดูตัวละครเอกของพวกเรากันสักหน่อย

นายเอก เซวียเสียน เป็นเทพมังกรที่มีชีวิตอยู่มานาน และมักจะไม่อยากติดค้างใคร และไม่ค่อยจะจดจำใครเอาไว้ด้วย...เพราะเขามีชีวิตนานเกินไป
พระเอก เสวียนหมิ่น หลวงจีนผู้ไม่ได้ถือศีล เพียงปลงผม และทานเจ แน่นอนว่ามีจิตใจเมตตา แต่นิสัยชอบอยู่คนเดียว และมักจะจดจำสิ่งต่าง ๆ เอาไว้
                สองคนนี้คือคนที่ชอบปลีวิเวก เลยไม่ค่อยได้ผูกสัมพันธ์กับใคร แต่การเดินทางครั้งนี้ของพวกเขา กลับทำให้รู้จักคำว่า 
ผูกพันธ์ 
                โครงเส้นเรื่องหลัก คือตามหากระดูกมังกรของนายเอก และปัญหาเรื่องความทรงจำที่หายไปของพระเอก ...แน่นอน ว่าความทรงจำเหล่านั้น กลับเชื่อมโยงกับทุก ๆ สถานที่ที่กระดูกนายเอกถูกซ่อนไว้...และนั่นคือปมอ่อนไหวที่คนอ่านต้องลุ้นไประหว่างการเดินทาง
                    แม่เฒ่า คดีวิญญาณแม่เฒ่า ทำให้นายเอกสะทกสะท้อนถึงความเห็นแก่ตัวของคนที่ทำได้แม้แต่กับมารดาของตนเอง แต่แม่เฒ่าผู้เป็นมารดา กลับไม่ได้โกรธแค้นลูก นางได้ถือว่าได้ช่วยเขามากพอแล้ว นอกจากเอาคือให้หลาน และบ้านสกุลเจียง ที่เหลือนับว่าไม่มีอะไรให้ห่วง หรือเสียใจอีกแล้ว
   ตอนนี้ นายเอกจะได้ไข่มุกที่ผนึกร่างของเขาคืนมา ส่วนพระเอกที่ความจำเสื่อม จะพบกับกระดาษแผ่นหนึ่งในกระเป๋าตัวเอง หาคนซึ่งในนั้นมีรูปวาดเหมือนเกล็ดของนายเอกเขียนเอาไว้ด้วย
             พี่ชาย คดีต่อมาทำเราน้ำตาซึมไปเหมือนกัน พระเอกนายเอกมาหานักทำนาย แต่ที่อยู่มีเพียงน้องชายเท่านั้น น้องชายเลยตามติดพระเอกนายเอก (และหนึ่งวิญญาณสกุลเจียง) ไปตามหาพี่ รอบนี้สิ่งที่ทำให้พระเอกนายเอกพบ คือการแลกชีวิตเปลี่ยนชะตาที่วิญญาณยอมทำให้คนสำคัญ แม้ตอนนั้นเหลือลมหายใจสุดท้ายก็ยังวาดเลือดลงพื้นเพื่อต่อชะตาคนที่รักให้มีชีวิตต่อไป จากนั้นก็จากไปทันที...ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว
     ตอนนี้นายเอกจะได้เลือดหรือกระดูกของตัวเองคืน และได้เป้าหมายถัดไปให้เดินทางต่อ พร้อมพระเอก วิญญาณสกุลเจียง และน้องชายตาบอดที่ทำนายได้ อ๋อ ๆ ใช่ ๆ มีคุณลุงพูดเก่งคนนึงด้วย (โดนบังคับบ)
3          คณะละครงิ้ว ช่วงประมาณนี้นายเอกจะใช้ร่างคนแล้ว แต่เพราะขายังเดินไม่ได้เลยต้องให้พระเอกอุ้ม ตอนนี้เป็นคำสัญญาณของคนที่รับปากกันว่าทุกปีจะมาหา หนึ่งเหมือนเป็นช่างตัดผ้า (ถ้าจำไม่ผิด) หนึ่งคือคณะละครงิ้ว ทั้งสองฝ่ายต่างตายไปแล้ว แต่สุดท้ายกลับยังรักษาคำมั่นสัญญาต่อกัน หลังลุล่วงสัญญา ต่างก็หมดห่วงมีสติรู้ตัวว่าตายแล้ว ก่อนพากันจากโลกนี้ไป
    ตอนนี้นายเอกได้กระดูกคืนอีกท่อน เขาเริ่มรู้สึกว่ามีพระเอกค่อยอยู่ข้าง ๆ ก็ดีเหมือนกัน มังกรที่เก่งมาก ๆ อย่างเขามักทำอะไรเองไม่มีใครช่วย แต่พออยู่กับพระเอกที่ค่อยมาช่วยเหลืออย่างถูกจังหวะเสมอ นายเอกก็เริ่มรู้สึกแล้วว่า แบบนี้ดีจริง ๆ
4        วิญญาณทหาร หลังได้กระดูกมาก็มีเหตุให้ทั้งสองใกล้ชิดกัน และด้วยคำขอร้องให้พากลับไปส่งบ้านของวิญญาณทหาร พระเอกนายเอกเลยได้เบาะแสของพิษที่พระเอกโดน ...และการตัดสินใจของวิญญาณตนนี้ ที่จะเฝ้าหน้าประตูบ้านตนไม่ไปเกิด นายเอกถาม เจ้าไม่เสียใจแน่นะนายทหารคนนั้นมองหน้าภรรยาแล้วตอบว่า ไม่เสียใจ
   ช่วงนี้นายเอกเริ่มมองพระเอกมากขึ้นแล้ว เวลารู้สึกอ่อนไหวกับความตายและการจากลา
5      วิญญาณสกุลเจียง หลังเดินทางด้วยกันมานาน ในที่สุดก็ถึงปลายทางของวิญญาณสกุลเจียงแล้ว หลังพบพี่สาว เขาก็หมดห่วงอย่างแท้จริง หลังเอ่ยขอบคุณ หวังว่าชาติหน้าได้พบกัน เขาก็จากนายเอกไปพร้อมรอยยิ้ม
          ช่วงนี้นายเอกจะมีความรู้สึกโหวง ๆ แล้วมองพระเอกอีกรอบ รู้สึกอยากถามคนว่าจบเรื่องนี้ไปอยู่กับเขาไหม แต่ยังยั้งไว้
6       ปมสุดท้าย  หลังผ่านเรื่องราว และปริศนามากมาย พอมาถึงจุดสุดท้าย เราก็จะรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจาการที่คนเราทำใจไม่ได้ที่จะจากลาคนรัก อำนาจ หรือชีวิตของตนไป แต่นาทีสุดท้ายยังดีที่แก่นแท้ของต้นเรื่องได้สติกลับมา เขาจึงช่วยผู้คนเอาไว้ก่อนสิ้นใจ
7      เหรียญทองแดงปราบพิภพ คือ สิ่งที่ไม่วันเสียใจอย่างสุดท้ายของพระเอกที่จมพื้นดินหายไป เพื่อรักษาความสงบสุขของผู้คนไปอีกร้อยปี เพราะเขาชดใช้ให้นายเอกหมดแล้วไปก่อนหน้านี้ จะกระดูก ชีวิต หรือแม้แต่เคราะห์กรรม เลยไม่มีอะไรต้องห่วงอีก

ย้อนกลับไปที่วิญญาณทหาร เขายอมยืนเฝ้ามองคนรักตรงหน้าประตูตลอดไป...พระเอกก็ยอมเป็นแบบนั้น
ย้อนกลับไปเมื่อหกสิบปีก่อน ที่นายเอกพบชาติก่อนของพี่เขยวิญญาณสกุลเจียง ที่ไม่ยอมตัดใจไปเกิดจนกว่าจะพบคนรัก...นายเอกก็เป็นแบบนั้น

“มีคนผู้หนึ่ง แบกเอาความทุกข์และเคราะห์ร้ายชั่วชีวิตที่ไม่มีวันสิ้นสุดของเขาไปหมดสิ้น แต่ไม่วิงวอนขออะไรตอบแทนกลับไปเลยแม้แต่อย่างเดียว...คนอย่างนี้ เขาไหนเลยจะทอดทิ้งไม่ใส่ใจ
ต่อให้เข้าสู่วัฏสงสารไปเกิดใหม่แล้วเขายังหาเจอ ฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงยังไม่ไปเกิดใหม่เลย จากผืนดินอุดรสู่ฟากฟ้าทักษิณ ไม่ว่าเสวียนหมิ่งอยู่ที่ใด เขาจะลากอีกฝ่ายกลับมา” เซวียเสียน

                ท่อนนี้เห็นนิสัยสองคนนี้ชัดมาก ๆ เลยนะในความรู้สึกเรา

                ความจริงยังมีคู่อาจารย์พระเอกอีกคน เรื่องนี้ถ้าจะยืดออกอีกสักเล่มเพื่อเพิ่มความลึกซึ่งของความสัมพันธ์อีกหน่อยก็ได้นะ แต่ประมาณนี้ก็ถือว่าลงตัวแล้วเหมือนกัน 9 คะแนนค่ะ สำหรับความอยากเห็นความสัมพันธ์ลึกซึ้งของแต่ละตัวละคร


สำหรับสปอยล์ เหรียญทองแดงปราบพิภพเล่มพิเศษ
1    การเดินทางไปบวงสรวงฟ้าครั้งสุดท้ายของพระเอก เวลาผ่านไป 60 ปี ในที่สุดพระเอกก็วางมือทางโลก และออกมาอยู่กับนายเอกอย่างสงบโดยสมบูรณ์ (ความจริงก็ค่อย ๆ ถอยออกมานานแล้ว)
2   ต้นผีผาผลสุกอร่อยมาก นายเอกชอบกินเลยเอามาปลูกหลังที่พักอาจารย์พระเอก บางทีตอนนี้เป็นส่วนเสริมความสัมพันธ์ของอาจารย์พระเอกกับคนที่เขารอคอยมาตลอด ซึ่งพบกันแล้ว และได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบ (ในเล่มสามมีเล่าไปบ้างแล้วจบเท่านั้นก็แฮปปี้เหมือนกัน) ส่วนพระเอกนายเอกก็เช่นกัน หนึ่งเงยหน้ามองต้นไม้ หนึ่งมองคนรักที่มีรอยยิ้มอยู่ข้างกาย ความสงบอบอุ่นแบบนี้ ชีวิตอันยาวนานก็ไม่มีอะไรให้รู้สึกเสียใจอีก


แนวใครทางใคร 3 เล่มจบที่สำนักพิมพ์น่าจะยังสั่งได้นะคะ (ไม่มั่นใจ)

ชาแดง










รีวิว แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ( 3 เล่มจบค่ะะ)

  แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ผู้แต่ง ปี่ข่าปี่ ผู้แปล จื่อซิน ผู้วาด 梨乖 酥 สำนักพิมพ์ Inltreebook เรื่องย่อ หลินชิงอวี่ แต...