วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิว ตัวร้ายอย่างข้าจะหนีเอาตัวรอดยังไงดี (ฉบับเต็ม)




ภาพจาก Samsenbook


ตัวร้ายอย่างข้าจะหนีเอาตัวรอดยังไงดี
ผู้แต่ง โม่เซียงถงซิ่ว
ผู้แปล ลาเวนเดอร์
สำนักพิมพ์ SENSE BOOK
เรื่องย่อ
“...เสิ่นหยวน คิดไม่ถึงว่า เมื่อลาจากโลกไปแล้วกลับตื่นขึ้นมาอยู่ในร่าง เสิ่นชิงชิว ตัวร้ายในนิยายฮาเร็มที่เขาเคยอ่าน ตามเนื้อเรื่องแล้วเสิ่นชิงชิวผู้นี้บุคลิกสง่างาม ทว่าเนื้อแท้กลับหน้าไหว้หลังหลอก ต่ำช้าถึงที่สุด คอยหาโอกาสเหยียบย่ำลั่วปิงเหอ พระเอกของเรื่องทุกทาง ...สุดท้ายจึงถูกพระเอกฆ่าตายอนาถ แล้วเขาที่มาอยู่ร่างนี้จะเอาตัวรอดอย่างไรดี...ทว่านึกไม่ถึง...ตัวร้ายกาก ๆ อย่างเขาที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดกลับต้องมาคอยขับขวางดาบรับมีดแทนพระเอกตลอด บทที่เป็นของพวกนางเอกในฮาเร็มก็ดันมาตกอยู่กับที่เขาทั้งหมด ทั้งไม่รู้ว่าบุพเพเล่นกลหรือนรกอเวจีเป็นใจ พระเอกที่เขาสอนมากลับหาเรื่องให้เขาดุอยู่เรื่อย!...”

พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์
อ่านจบแล้วค่อนข้างชอบแนวคิดที่คนเขียนส่งถึงคนอ่าน เราไม่ทันคิดให้ดีจริง ๆ ว่า การมีผลลัพธ์ให้มา ไม่ได้หมายความว่าหนทางที่จะไปถึงผลลัพธ์นั้นมีทางเดียว และบางทีการไปสู่ตอนจบที่ดีสุดอาจจะมีทางง่าย ๆ เพียงแค่ เปิดใจคุยกันตรง ๆ ไม่ใช่คิดเองฝ่ายเดียว พออ่านจบแล้วคิดตามดู ก็เป็นแบบนั้นจริง
เปิดตัวพูดซะเครียด แต่เนื้อเรื่องไม่ได้หน่วงขนาดนั้น ดราม่าก็ถูกกลบด้วยความคิดของตัวนายเอกอย่าง เสิ่นหยวน หรือก็คือ เสิ่นชิงชิว ผู้รับบทตัวร้าย โดยห้ามหลุดบุคลิกดั้งเดิมของเจ้าของร่างจนกว่าจะทำภารกิจสะสมคะแนนได้ระดับนึงถึงจะกลับเป็นตัวเองได้ ในช่วงแรกนายเอกจึงต้องได้แต่ทำหน้าเย็นชาใส่พระเอก ทั้ง ๆ ที่ในใจร้องไห้อยากวิ่งไปเกาะขา ดูแลให้ดี (5555) นายเอกเราเอ็นดูพระเอกมาก เพราะพระเอกช่วงเด็กน่ารัก น่าเอ็นดู ใส ๆ เป็นนอกบัวขาวน้อย ๆ ที่คอยตามเอาใจอยู่ข้างกาย แต่ด้วยความเข้มงวดของระบบยังไงนายเอกก็ต้องทำภารกิจตามเนื้อเรื่อง ที่หนักหน่วงที่สุดคือพลักพระเอกลง อเวจี เพื่อไปเทิร์นเป็นสายดาร์ก นายเอกนั่งกลุ้มทำใจอยู่หลายปี ระหว่างนั้นก็ฟูมฝักพระเอกอย่างดี จนกลายเป็นเด็กที่ติดตัวเองอย่างกับตังเมตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ (เด็กเขาหลงลุงแล้วยังไม่รู้อีก) นั่นทำให้จิตใจของลุงเสิ่นต้องต่อสู้กับการทำใจส่งพระเอกผู้สดใสไปสายมืดหนักขึ้น
พูดไปเรื่องนี้ก็ดูจะดราม่า แต่อ่านแล้วเราไม่รู้สึกว่าหน่วง ดราม่าขนาดนั้น นายเอกช่วงเลี้ยงดูพระเอกสมัยเด็ก...ยังคงเป็นช่วงที่เราอ่านมากที่สุด (ใครอ่านรีวิวกลรักสกัดครองโลกเรามา ก็คงจะเห็นว่าเราพูดช่วงเลี้ยงพระเอกมากสุด) ไม่ใช่ว่าช่วงอื่นไม่โอเคแต่เป็นความชอบส่วนตัว (5555) เนื้อเรื่องสำหรับเราเดินได้ดี ตัวละครใช้ได้คุ้ม และกลบปมในตอนท้ายได้สวย เพราะเราได้เห็นที่ไปที่มาของตัวละคร ถ้าจะมีให้ติดก็คงเป็นการสานสัมพันธ์ของพระเอกนายเอก ที่จะมาต่อยอดกันไปในภาคพิเศษ (เล่มสาม)
คะแนน 8/10
มุมเล็ก ๆ ก่อนสปอยล์
เรื่องต่างจากกลรักสกัดครองโลกจริง ๆ ค่ะ หลัก ๆ นอกจากที่กล่าวในรีวิวกลรักฯ ก็คงเป็น กลรักฯ เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงตอนจบของเนื้อเรื่อง และตัวละครจริงจากตัวนายเอกที่เข้ามาในเนื้อเรื่อง ส่วนตัวร้ายฯ เล่าถึงหนทางไปสู่ตอนจบที่กำหนด ความจริงแล้วไม่ได้มีเส้นเดียว (ส่วนตรงอื่น เราจะพูดในสปอยล์อีกที) ดังนั้น สองเรื่องนี้ เรื่องไม่ซ้ำค่ะ แค่แนวเดียวกัน ( งงไหมคะ)

พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)
                รู้สึกช่วงนี้เจอพระเอกเป็นจอมมารมาเยอะมาก มีบางจุดที่กลายเป็นฉากคลาสสิคว่าต้องมี เหมือนภารกิจบังคับ แต่ด้วยบุคลิกพระเอกที่ต่างกัน ความรู้สึกเลยแตกต่างกันด้วย แน่นอนใช้ได้กับเรื่องแนวเดียวกัน แต่คนละคนเขียน คนละคำบรรยาย คนละความหมายที่จะสื่อ ตัวรสที่อ่านออกมาได้เลยไม่ได้ซ้ำ ( ณ ตอนนี้ที่อ่านเจอนะ)
                เราพูดไว้ตั้งแต่ตอนแรกว่าเนื้อหาเรื่องนี้ เหมือนจะเล่าถึงหนทางไปสู่ตอนจบที่กำหนดความจริงแล้วไม่ได้มีเส้นเดียว ทำไมถึงได้พูดแบบนี้ ? มีเหตุแน่นอน นอกจากนี้ การแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่างความจริงนั้นหลายอย่างแก้ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ อย่าง นั่งเปิดอกคุยกัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
ถ้าตอนนั้นเราไม่... 1. อย่างที่เล่าข้างต้น นายเอกต้องทำคะแนนถึงระดับหนึ่ง เขาถึงจะเป็นตัวเองได้ไม่ต้องอยู่ในบุคลิกเจ้าของเดิมอีก ดังนั้นพอสามารถกลับเป็นตัวเองได้ เขาก็เริ่มใส่ใจพระเอก ถึงแม้ต้องทำตามภารกิจเนื้อเรื่อง ที่เหมือนจะทำร้ายพระเอก แต่ตัวเองก็ยังปกป้องดูแลพระเอกจากภัยต่าง ๆ อยู่ดี (เนี่ยแล้วจะไม่ให้เด็กหลงรักได้ยังไง) และผลลัพธ์ก็เหมือนตามที่ภารกิจต้องการ แต่พระเอกเปลี่ยนไปแล้ว เด็กน้อยรัก และเชื่อใจนายเอกสุดหัวใจ และลุงเสิ่นของเราก็ยังไม่มีท่าทีจะรู้ตัว ถ้าตอนนั้นนายเอกลองเอ่ยปากถามสิ่งที่ปิงเหอน้อยอยากพูด หรือคำพูดที่ตัวเองฟังไม่เข้าใจออกมาสักนิด...เนื้อเรื่องอาจจะเป็นอีกแบบก็ได้นะ
ถ้าตอนนั้นเราไม่... 2. ภารกิจพลักลงอเวจี เพื่อให้พระเอกเก่งขึ้น และเทิร์นดาร์ก ถ้าอ่านจนจบจะรู้ว่านี่เป็นส่วนที่ลุงเสิ่นคร่ำครวญที่สุด และถามตัวเองมากที่สุดว่า ถ้าตอนนั้นเขา...ลองคุยกับพระเอกตรง ๆ เนื้อเรื่องอาจจะเปลี่ยนก็ได้ แต่ว่าเรื่องก็ปูไปตามภารกิจ (ก็คือเลี่ยงไม่ได้) และเนื้อเรื่องที่เดินมาถึงจุดที่ทำให้ตัวละคร และคนอ่านสะกิดใจถึงตรงนี้ นี่เป็นจุดที่นักเขียนวางก้อนหินไว้ให้เราล้ม และตื่นขึ้นมาพร้อมตัวละคร ไม่มีอ้อมค้อมใด ๆ บอกกันโต้ง ๆ ซึ่งเป็นข้อคิดที่ดี และทำให้เราอดนึกย้อนรอยต่อของเนื้อเรื่องซ้ำ ๆ อย่างที่เขียนอยู่นี้ไม่ได้
ถ้าตอนนั้นเราไม่... 3. หลังพระเอกกลับมา คนหนึ่งก็นึกเองว่าอาจารย์โกรธไม่ยอมรับ อีกคนก็นึกถึงเนื้อเรื่องเดิมว่าจะโดนล้างแค้นเลยหนี ถ้าตอนนั้น...สองคนคุยกันดี ๆ เนื้อเรื่องอาจจะ...มดขึ้นหนักกว่านี้แน่ ๆ
ถ้าตอนนั้นเราไม่... 4. สังเกตความเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกปิงเหอดี ๆ จะเห็นว่าปมพระเอกขาดความรักหนักมาก ในเรื่องดั้งเดิม เขามีฮาเร็มเป็นสาว ๆ มากมายก็บ่งบอกถึงการโหยหาความรักอย่างมากแล้ว มาเนื้อเรื่องนี้มีนายเอกเป็นคนรักคนเดียว สำคัญเหนือสิ่งใด มีหรือจะไม่ยิ่งสะเทือนใจหนัก และขาดความรู้สึกมั่นคง เพราะมีคนคนเดียวในชีวิต ดังนั้น นายเอกจึงคิดว่า ถ้าตอนนั้น... เขาไปกับพระเอก อยู่ข้าง ๆ พระเอก เนื้อเรื่องอาจจะไม่เดินมาถึงจุดที่นายเอกคิดถึงข้อบกพร่องตรงนี้ได้คือ...การเสียใจภายหลัง
                เราเคาะเรื่องออกมาเสียดรามา จริง ๆ ไม่ขนาดนั้นนะ เราแค่ลองทบทวนตามที่คนเขียนเขาส่งข้อคิดกลับมาให้ดู ถึงเนื้อเรื่องจะเอ่ยอย่างกระชับให้ฉุกใจคิด แต่พอย้อนมองเนื้อเรื่อง แล้วคิดตาม ก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ พอคิดว่า ประโยคข้อคิดไม่เกินสองบรรทัดนี้ คือโครงทั้งสามเล่มที่เขาพยายามเล่าให้เราอ่าน และคิด ก็นับถือจากใจ คุณสะท้อนออกมาได้ไม่น้อยเลย
คะแนน ให้ 8 อย่างที่บอกว่าตัวร้ายฯ เน้นการเดินเรื่อง ความสัมพันธ์ของพระเอกนายเอกดูเหมือนชัด แต่ไม่ชัด พระเอกพอเข้าใจได้ แต่นายเอกอาจทำให้นักอ่านสบสนเล็ก ๆ (ความรู้สึกเหมือนนายเอกองค์ชายอัปลักษณ์นิด ๆ) แต่เราอ่านทั้งหมดดู ก็พอเข้าใจว่าความรักครั้งนี้เกิดขึ้นยังไง เพราะความรัก มันก็ก่อเกิดได้หลายรูปแบบ และความสัมพันธ์ของสองคนก็มาต่อยอดเน้น ๆ ในตอนพิเศษ ( แต่ต้องขอหักในส่วนนี้นะจ๊ะ)
มุมเรียกร้องขอเพิ่มบทให้ตัว(เกือบ)ประกอบ (สมทบชายดีกว่าไหม)

            ท่านพ่อกับพี่งู ...น้องหลิ่วของพี่เสิ่น นักเขียนคะ นักอ่านอยากได้ตอนสามคนนี้เพิ่ม คู่แรกคือเรื่องหลังจากพักที่วัดเจาหลัว ส่วนคนหลังอยากรู้ว่าศิษย์น้องท่านนี้คิดยังไงกับศิษย์พี่เสิ่นคะ! ตามช่วยไปทั่วแดน แพ้ร้อยก็สู้ร้อยเพื่อศิษย์พี่ นักอ่านขอเรียกร้องเพิ่มค่ะ ฮือออ

By ชาแดง


วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิว คนน่ารักมักน่าแกล้ง (ฉบับเต็ม)




ภาพจาก Samsenbook




คนน่ารักมักน่าแกล้ง
ผู้แต่ง ชิงตวน
ผู้แปล นกแก้ว
สำนักพิมพ์ Rose Publishing
เรื่องย่อ
“เมื่อตื่นขึ้นหลังจากดื่มเหล้าเต็มคราบกับเพื่อนฝูง จี้หยวน ก็ได้รับแจ้งว่าตัวเองตายแล้วด้วยโรคพิษสุรา วิญญาณเขาถูกดึงมาเข้าร่างคนงาม ซึ่งแท้จริงเป็นชาย! พร้อมกับภารกิจ 2,333 อย่าง ที่ต้องทำให้เสร็จโดยห้ามหลุดบุคลิกของร่างเดิม ไม่อย่างนั้นวิญญาณจะถูกระบบสุดเกรียนทำลายทิ้งทันที ถึงเขาจะชอบผู้ชายก็เถอะ แต่มาถึงไม่ทันไรก็ถูกบังคับจับขึ้นเกี้ยวแต่งงาน แล้วยังมีราชามารตามมาลักพาตัวกลับไปที่วังมารด้วย
จี้หยวนอยากจะร้องไห้แล้ว ทำไมเขาต้องแสดงท่าทีปั้นปึ่งเย็นชาจนหน้าแทบเป็นอัมพาต แล้วถ้าจอมมารรู้ว่าแท้จริงหน้าอกสองข้างนี่เป็นลูกท้อบ้างทับทิมบ้างจะทำอย่างไรดี !!

พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอย

             เราอยากรวมลมปราณแล้วตะโกนว่าเรื่องนี้ น่ารักมากกกกก (+100) ถ้าคิดว่าเรื่องนี้อ่านแล้วได้อะไร คงเป็นความคิดที่ว่า ความแค้นที่ฝังลึกแท้จริงแล้วแค่หล่อเลี้ยงใจที่อ่อนแอ หากปล่อยวางได้ คุณจะมองโลกได้ชัดเจนขึ้น ไม่อย่างนั้นอาจจะมีสิ่งสำคัญข้างตัวที่คุณอาจเผลอทำหลุดมือ
                เรื่องนี้ นายเอกเราต้องมาเข้าร่างชายหนุ่มที่ต้องแต่งหญิง เพราะร่างกายอ่อนแอแต่เด็ก (เป็นการแก้เคล็ด) ชื่อเดียวกับตัวเอง คือ จี้หยวน เขาถูกจับแต่งงานกับคนที่ขึ้นชื่อว่า เลวทราม ที่สุดในดินแดนเซียน แต่ระหว่างทางก็ดันถูกจอมมารที่ขึ้นชื่อว่า โหดเหี้ยม ลักพาตัวไปกักไว้ในวังที่ดินแดนมารอีก ชีวิตพลิกไปมาไม่พอ ยังต้องคอยทำภารกิจ อย่างสาดน้ำชาใส่หน้าท่านจอมมาร โดยคีพลุคหน้าตายของเจ้าของเดิมไว้ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ เขาเป็นคนสบาย ๆ อยากหัวเราะดัง ๆ หลายครั้งก็ทำไม่ได้ อ่านแล้วชวนอยากโอ๋ปลอบจริง ๆ (55555)
                เรื่องนี้ความน่ารักคือความงอแงในใจของนายเอกกับระบบ ระบบแทบจะเป็นพี่เลี้ยงคอยปลอบนายเอกทุกอย่าง นับว่าเป็นความแปลกใหม่ที่เรื่องนี้ระบบมีบทบาทเป็นเพื่อนนายเอกคอยคุยด้วย แถมคอยปกป้องตลอดเวลา พระเอกอย่างท่านจอมมารก็ขี้แกล้งน้อง อยู่ ๆ ไปแล้วเริ่มจับความรู้สึกน้องได้ทางดวงตา ยิ่งแกล้งเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะบีบแก้ม บีบจนติดเป็นนิสัย ไปไหนก็เรียกเจ้าตัวน้อย ๆ ไปตลอด น่ารักจริง ๆ เรื่องนี้สองคนต้องออกตามสืบเรื่องราวที่ถูกใส่ความด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นหนึ่งใน 2,333 ภารกิจที่นายเอกต้องทำ แต่แน่นอน ห้ามหลุดคาแรคเตอร์ (occ) เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นตายไปจริง ๆ แน่นอน
                เราชอบเรื่องนี้ เล่มเดียวจบนี่ อ่านไปก็ปวดแก้มจนต้องพักครึ่ง ไม่ใช่อะไร ยิ้มจนปวดแก้ม เวลาจอมมารแกล้งนายเอก แล้วนายเอกได้แต่ทำหน้าตายส่วนในใจฟ้องระบบ (555555) ถ้าชอบแนวนี้ และไม่อยากรอเล่มต่อยาว ๆ ปมปริศนาไม่ซับซ้อน อ่านไปแล้วอบอุ่น เบาหวานขึ้นตา เรื่องนี้น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งให้คุณได้
คะแนน 8.5/10 
คะแนนความน่ารัก 100 (ทะลุชาร์จไปเลยค่ะะ)

พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)
                ดองไว้นาน แต่พออ่านละก็หยุดไม่อยู่ ถ้าไม่ติดว่าปวดแก้มเราคงอ่านจบวันเดียวจริง ๆ เรื่องนี้นอกจากเนื้อเรื่อง เราชอบวิธีการเล่า คนเขียนเล่าจากเหตุการณ์ปัจจุบัน แล้วค่อย ๆ เผยอดีตของแต่ละคนออกมา ปมในใจต่าง ๆ ของตัวนำเรื่องอย่างนายเอกจะค่อย ๆ เผยออกตามเหตุการณ์ที่ถูกพัฒนาขึ้น...พัฒนาขึ้นจากอะไร? ...จากความไว้วางใจในตัวระบบ 
          ใช่แล้ว 
           เราถึงบอกว่าระบบเรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องอื่น เขาทำให้ตัวระบบมีพัฒนาการด้านอารมณ์ตามโฮส และกลายเป็นเพื่อนที่ปรึกษาที่อยู่ด้วยตลอดเวลา การเล่าแบบนี้ ทำให้เรื่องที่ดูอบอุ่น สบาย ๆ อ่านง่าย มีปมปริศนาในใจของตัวละครอย่างนายเอก และพระเอก
                ดังนั้นเรื่องนี้ ปัญหาของเรื่อง คือความขัดแย้งในตัวเอง แต่สองคนต่างเป็นกำลังใจ และสิ่งล่อเลี้ยงอีกฝ่ายให้พบชีวิตใหม่ แล้วข้ามผ่านมันไปได้
จี้หยวน ชีวิตเดิมเป็นลูกคนรวยที่พ่อเจ้าชู้มาก ทำให้มีพี่น้อง และแม่เลี้ยงจ้องจะทำร้ายเพื่อฮุบสมบัติ จนเขาต้องยอมประกาศถอนตัวจากการแย่งชิง แต่สุดท้ายก็ตายด้วยพิษสุรา ทว่า ปมในใจของเชาคือการแก้แค้นให้น้องชายต่างแม่ที่ต้องตายเพราะปกป้องเขา ดังนั้นถึงพยายามทำภารกิจ เพื่อกลับไปโลกเดิม นั่นทำให้นายเอกพยายามมองข้ามความรักของพระเอก หลอกตัวเองว่าพระเอกไม่ใช่สเป็ค การที่พระเอกทำดีด้วยแค่เรื่องในอดีต และสับสนเพราะติดภาพที่ตัวเองเป็นผู้หญิง ระบบกล่อมยังไงก็ไม่ฟัง สุดท้าย ตัวเองก็แพ้ความรักของท่านจอมมารจริง ๆ หลังจากปล่อยวางความแค้นได้ เขาก็เริ่มมองโลกใหม่นี้ชัด ๆ ตา และตัดสินใจทำให้ตัวเองแข็งแกร่งเพื่อดูแลความรัก และสำคัญอย่างจริงจัง
ระบบ (เอ๋ ?) ข้อมูลที่ occ ไปก่อนโฮส (ตลกมาก5555) พี่เลี้ยงจำเป็นของนายเอก หลังอยู่กับนายเอกไปนาน ๆ ก็เริ่มตัดสินใจเรียนรู้ความรู้สึกมนุษย์ เพื่อคอยดูแล แนะนำสิ่งต่าง ๆ ให้นายเอก เป็นเพื่อนนายเอกที่คอยรับฟังความงอแง และคอยฟ้องเวลาท่านจอมมารแกล้ง คอยสอดส่องผี และศัตรู รวมถึงรอคอยอย่างใจเย็นให้นายเอกเปิดใจเล่าอดีตตัวเอง เราชอบช่วงกลาง ๆ เรื่องที่ระบบเริ่มเรียนรู้อารมณ์ แล้วค่อยปลอบนายเอกอย่าง “โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรนะ อดทนหน่อย” หรือ “ที่รักคุณต้องทำมัน” ...เวลานายเอกกับระบบเถียงกัน ในใจ เราอดขำไม่ได้จริง ๆ
เย่จวินฉือ จอมมารหนุ่มที่ลักพาตัวนายเอกมา เพื่อตอบแทนบุญคุณ โดยคิดว่า นายเอกเป็นผู้หญิง สุดท้ายมารู้ว่าเป็นผู้ชายก็ยังคงตามไปปกป้อง เรียก เจ้าตัวเล็กอย่างโน้นอย่างนี้ ไป ๆ มา ๆ ชายแท้ท่านนี้ก็หลงรักนายเอก (5555555) ทีนี้ก็เดินหน้าจีบเขาสนุกล่ะค่ะ อาหยวนอยากให้ทำอะไร ตกลงทั้งหมด ขอเพียงอาหยวนพอใจ และไม่หนีไปไหนก็พอ เจอแบบนี้นายเอกเราจะรอดเหรอคะ พระเอกเราก็มีปมในใจเช่นกัน และเป็นปมสุดท้ายที่ต้องเคลียร์ของเนื้อเรื่องด้วย

                จัดว่าเรื่องเรียบเรียงดี มีจุดไคลแม็ค ปมไม่ได้ซับซ้อน แต่น่าติดตาม ตัวละครมีเสน่ห์ เล่มเดียวจบเลยไม่ได้ยืดเยื้อ ความน่ารักเต็มสิบ คะแนนภาพรวม 8.5 ตัวละครเอกไม่ถูกทิ้งหาย ซึ่งเราโอเคมาก ๆ แต่ที่หักคะแนน คือหักความหวานด้วยความหมั่นไส้ (55555) เป็นคะแนนสงสารแก่ระบบที่ต้องโดนนายเอกขิงแฟนตลอด และ จากเนื้อเรื่องของตัวละครเอกอื่นนิดนึง เนื้อหาบางอย่างถ้าเพิ่มอีกนิดน่าจะสมบูรณ์กว่านี้ (จริง ๆ คะแนนในใจคือ แตะ 9 ได้เลยล่ะ) ถ้าใครอ่านแล้วมาคอมเมนต์คุยกันได้นะคะ

By  ชาแดง



วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิว สามีสกุลดี (ฉบับเต็ม)




  ภาพจาก Samsen book



สามีสกุลดี สตรีมากวาสนา
ผู้แต่ง หานลู่
ผู้แปล อวี้
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

เรื่องย่อ

                “ ผู้อื่นย้อนเวลามาเป็นองค์หญิง คุณหนูสกุลดี สตรีเก่งกาจอาจหาญ...ทว่านางกลับย้อนเวลามาเป็นเพียงหญิงตั้งครรภ์ที่อ่อนแอ ทั้งยังถูกจับถ่วงน้ำ! แม้แต่บิดาของเด็กคือผู้ใดนางยังไม่รู้ สวรรค์! นี่มิใช่จงใจกลั่นแกล้งนางหรือไร ยังดีที่มีคุณชายผู้หนึ่งเชื่อมั่นใจตัวนาง ให้นางทำรถเข็นเด็กและรถหัดเดินขึ้นมาขาย ทั้งด้วยในชาติก่อนมีอาชีพเดิมเป็น พี่เลี้ยงเด็ก นางจึงอาศัยความรู้เกี่ยวกับเด็กหาเลี้ยงชีพ มิหนำซ้ำยังมีบุรุษผู้หนึ่งช่วยส่งเสริมนางให้ได้ทำสิ่งที่ไม่นึกฝันมาก่อน นั่นคือการเปิดโรงเลี้ยงเด็ก เขาช่างดีต่อนางนัก...ทว่าอย่างไรผู้ที่นางนึกถึงยังคือ...คุณชายผู้นั้น ไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงรู้สึกลึก ๆ ว่า เสียงของเขาช่างคุ้นหู หรือว่าเขาจะเกี่ยวกับบุรุษคืนนั้น บุรุษที่ทำให้นางตั้งครรภ์มงคลนี้!

พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์

                “...รู้หรือไม่การได้พบครึ่งชีวิตนั้น ชีวิตแต่ะละวันมีความสุขมากเพียงไร ไม่ว่าตกอับหรือมั่งมี ยากจนหรือลำเค็ญ นางล้วนจะอยู่เคียงข้างเจ้า ถึงเป็นถึงตายก็ไม่จากกัน...” ซั่งกวนชูหยางได้กล่าวไว้ และทันทีที่อ่าน เราก็เลยคิดในใจว่านี่สินะที่เรื่องนี้ต้องการจะเล่า แล้วเขาจะเล่าออกมาแบบไหนกันนะพระเอกนางเอกถึงจะมาถึงจุดของความรู้สึกดังกล่าว

                จากเรื่องย่อ นางเอกของเราได้ข้ามภพมาอยู่ในร่างหญิงตั้งครรภ์นาม เยี่ยเหมย เธอลืมตาตื่นตอนกำลังถูกถ่วงอยู่ในน้ำ และดิ้นรนรอดมาได้ โดยได้รับการช่วยเหลือจากน้องชายแท้ ๆ ของเจ้าของร่าง เยี่ยหย่วน หนุ่มน้อยสายซึนผู้ปากบอกไม่สนใจพี่สาว แต่กลับคอยช่วยเหลือปกป้องนางเสมอ แม้กระทั่งตอนแรกที่เจอกัน ยังฝ่าลมฝนมาอุ้มพี่สาวที่ถูกทางบ้านถ่วงน้ำกลับบ้านมารักษาตัว เราประทับใจน้องชายท่านนี้ที่สุด และแน่นอน นางเอกก็รักเอ็นดูน้องชายคนนี้มาก จึงทุ่มเทหาเลี้ยงเพื่อตัวเอง และน้อง

นางเอกของเรื่องนี้ไม่ได้เก่งกาจล้ำลึก แต่เป็นคนพยายามใช้ชีวิตให้ดีที่สุด เพื่อคนที่ตัวเองรักอย่างลูกในท้อง และน้องชาย แน่นอนว่าฉากเวลาอยู่กับพระเอกก็ดีงาม ความคลาสสิคอย่างการหนีตายมาซ่อนตัว สำหรับเราอ่านแล้วทำให้อมยิ้ม ปนใจเต้นได้อยู่ สิ่งที่ทำให้แปลกใจคือ เนื้อเรื่องไม่ได้มาเดินดรามาในบ้านตบตีชิงเรือน (ทั้ง ๆ ที่ตัวเรื่องเล่นเรื่องนี้ได้เหมือนกัน) แต่เป็นการเดินเรื่องความสัมพันธ์ของนางเอกพระเอกโดยเฉพาะ ความรักพระเอกนางเอกเรียกว่าผูกกันไว้ด้วยจิตวิญญาณ เพื่อโยงไปสู่การเรียนรู้ประโยคคำพูดด้านบนที่เรายกไว้

เรื่องนี้เป็นนิยายรักทะลุมิติที่อ่านไปรวดเดียวจบ (เสียง) พระเอกมีเสน่ห์ชวนละลาย (55555) ตัวละครอื่น ๆ ที่เราประทับใจ และหลงมาก ๆ คงจะเป็นน้องชายนางเอก (นับแล้วเราเขียนถึงมากกว่าพระเอกอีก 5555) เราชอบสายสัมพันธ์ของครอบครัวที่อบอุ่นแบบนี้มาก ลำบากยังไงก็ไม่ทิ้งกัน ถ้าคุณกำลังมองหานิยายอ่านง่าย นางเองไม่ได้ซู หรือมีบทบาทพลิกแผ่นดิน (แต่มีเสน่ห์ความเป็นแม่ให้คนในเรื่องหลงรัก) เรื่องนี้อาจจะเข้าทางคุณ

คะแนน 7/10


พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)

                เรื่องนี้ออกมาในช่วงเวลาที่เรากำลังอยากอ่านนิยายนอร์มอล (จนต้องไปขุดหมอหญิงกับบันทึกปิ่นออกมา) ดังนั้นพออ่านแล้วเนื้อเรื่องโอเค ก็อ่านรวดเดียวจบสามเล่มอย่างรวดเร็ว ต้องออกตัวก่อนว่าเรามีนิยายแพ้ทางอยู่ไม่น้อย และหนึ่งในนั้นคือการมี “เด็ก” เป็นจุดเด่นวิ่งเล่นในเรื่อง และคอนเซ็ปท์เรื่องนี้จากหลังปก พี่เลี้ยงเด็ก’ ‘นางเอกท้อง’ ‘เปิดโรงเลี้ยงเด็ก...หยิบเลยค่ะ

ตรงนี้จะเป็นเนื้อหาสปอยล์จริง ๆ แล้วนะคะ

            เราขอแบ่งช่วงของเรื่องโดยผู้ชาย 3 คนที่เข้ามาช่วยนางเอกให้มีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยในช่วงเวลาวิกฤติของชีวิต และสามารถคลอดเจ้าตัวน้อยออกมาได้อย่างปลอดภัย ...แต่ขอบอกเลยว่าเล่มแรก ค่าตัวพระเอกเราแพงมาก มาแบบท่าน 1412 ออกน้อย ๆ แต่ใจ (นางเอก//คนอ่าน) เต้น

ผู้ชายคนแรก คุณน้องชาย เยี่ยหย่วนเป็นน้องแท้ ๆ ที่มีมารดาเดียวกับนางเอก ในบรรดาลูกในบ้าน เขาเป็นคนเดียวที่สามารถศึกษาเล่าเรียนจนมีชื่อ และได้ความคาดหวังจากอาจารย์ว่าอาจจะกลายเป็นอัจฉริยะน้อยคนที่สอง ดังนั้นเขาจึงพอได้รับเงินติดตัวเพื่อเข้าเมืองเล่าเรียน แต่ว่าพี่สาวของเขาท้องไม่มีพ่อ ในตอนที่คนอื่นพากันเกียจนางเอก เด็กคนนี้ที่ไม่ได้แสดงท่าทีชอบพี่สาวกลับคอยปกป้องนางเสมอ ไม่ว่าจะรีบมาช่วยตอนพี่โดนถ่วงน้ำ หรือแอบอยู่ส่งนางเอกที่โดนขับไล่จนเผลอลงมือตีอดีตคู่มั่นสารเลวที่มาตามตื้อนางเอกจนสลบ เด็กคนนี้อ่านแรก ๆ ก็จับได้ละว่าสายซึน และนางเอกก็รู้ตั้งแต่แรกว่าน้องชายคนนี้จริงใจกับตัวเองที่สุด ชีวิตช่วงแรกที่ตั้งหลักได้จากเงินค่าเล่าเรียนของเยี่ยหย่วน (น้องชายไม่ยอมเรียนทั้งที่อยากก้าวหน้าเพื่อนางเอก โอ้ยยย เอ็นดู) นั่นทำให้นางเอกยิ่งทุ่มเทตัวเองเพื่อเขา และลูก

ผู้ชายคนที่สอง อาจารย์ของคุณน้อง พ่อม่ายลูกติดที่ออกตามหาเยี่ยหย่วนศิษย์เอกที่หายไปไม่ยอมเรียนเพื่อตามกลับมาเรียนจนพบนางเอกเข้า (ถ้าไม่มีพระเอก...คนนี้ก็พระเอกแหละ) เขาคือบุคคลที่ครองเล่มหนึ่งไป 3 ใน 4 เป็นคนสนับสนุนดูแลสองพี่น้องจนคนหนึ่งได้เข้าสอบรับราชการ ส่วนนางเอกสามารถเปิดโรงรับเลี้ยงเด็กได้ ลูกชายเขาก็น่าเอ็นดูมาก ความดีชายคนนี้มากล้นผิดแต่ไม่ใช่เนื้อคู่นางเอก (แต่เป็นเนื้อคู่เยี่ยหย่วน...อะแฮ่ม เราล้อเล่นนะ อันนี้คิดเองเล่น ๆ เมินข้อความนี้เถอะค่ะ )

ปล. อาจารย์ท่านนี้บทบาทตอนหลังทำเราว้าวอยู่เหมือนกันนะ คีย์สำคัญในเรื่องเหมือนกันค่ะ (ในแง่เนื้อเรื่องนะคะ)

ผู้ชายคนที่สาม พระเอก (ออกฉากเต็ม ๆ คนที่สอง แต่หายหน้าไปนาน) จั่นอวิ๋นหยาง คุณชายตระกูลพ่อค้าผู้มั่งคั่ง ถูกขนานนามว่าสบายไปวัน ๆ ไม่ยอมทำงาน (แต่จริง ๆ เก่งกาจขนาดเป็นมือขวารัชทายาท) พูดตามจริง เขาคือคนที่ทำให้นางเอกมีเงินก้อนแรกส่งน้องชาย และมีงานดูแลตัวเอง
                  พระเอกเราออกบทช่วงแรกปกป้องนางเอกไม่น้อย แถมรู้ความลับที่นางเอกข้ามโลกมาอีกด้วย (ไปสโตกฟังเขามา เพราะรู้สึกผูกพันธ์ด้วยแปลก ๆ ) ถึงเล่มแรกบทจะน้อยเมื่อเทียบกับพระรอง แต่ฉากทำคะแนนกับนางเอกไปไกลมาก พอขึ้นเล่มสองเจอฉากคลาสสิคที่บาดเจ็บสาหัสจนหลบเข้ามาห้องนางเอก เราค่อนข้างชอบ (5555) แน่นอนว่าเราสงสัยสุด ๆ ว่าสองคนนี้จะรักกันได้ยังไง (กว่าพระเอกจะมาพระรองนี่ทำไปตั้งหลายอย่าง ) คนเขียนก็สร้างฉากแบบคลาสสิคได้ดีจริง ๆ โดยเฉพาะ ตอนคลอดลูก พระเอกอยู่ข้างนางเอกตลอด ระหว่างรักษาตัวก็กลายเป็นต้องคอยอุ้มลูก กล่อมลูกหลับจนชินมือ เราว่าต่อให้เขาไม่รู้ว่าลูกตัวเอง พระเอกก็คงรับสองแม่ลูกเข้าบ้านจริง ๆ อยู่ดี
                และคนเขียนก็วางเรื่องจนไปถึงจุดที่พระเอกเข้าใจคำพูดรัชทายาท (ย้อนกลับไปคำพูดข้างบนนะคะ) เราอ่านแล้วก็ไม่ได้ขัดใจอะไรกับเนื้อเรื่อง ค่อนข้างแปลกใจจริง ๆ ที่เรื่องนี้ไม่เล่นเรื่องในบ้าน เน้นเนื้อหานอกบ้านมากกว่า ถามว่าโอเค ไหม โอเคเลยนะ เราไม่ได้ชอบบทตีแย่งอำนาจในบ้านเท่าไรอยู่แล้ว (แต่อ่านได้นะ อ่านสนุกหลายเรื่องอยู่555) เรื่องนี้ 7 คะแนน หักไปเพราะเด็กออกไม่เยอะเท่าที่คิด (ใช่หรอ) เยี่ยหย่วนกับปริศนาคู่ของตัวละครเอกตัวอื่น (เพื่อนพระเอกก็หล่อนะ) และเนื้อเรื่องบางส่วนที่เราคิดว่า ... ไม่สมเหตุผลนิดนึง (แต่แก้ได้ด้วยคำอธิบายที่ว่า คนที่ใช่ยังไงก็ใช่เพียงพบสบตา) หรือความเข้มข้นไม่สุดของการเมือง (แต่ถือว่าโอเคนะ ถ้ามองว่าคนเขียนเน้นเรื่องพระนางมากกว่าอยู่แล้ว)
                สรุป...เราให้ผ่าน


นอกเรื่องฉบับสาววาย (โปรดมองเลยผ่านไปไม่เกี่ยวกับเนื้อหา)

                ทุกท่านที่เลือดสีม่วง อ่านแล้วคิดเหมือน B2 หรือไม่ ท่านอาจารย์อ่ะ เราเชียร์คู่กับอาหย่วนจริง ๆ นะ มาตามไปเรียน ออกค่าเรียนให้ ไปส่งสอบ ไปส่งพบนักการเมือง ส่วนอาหย่วนก็มองว่าอาจารย์ลู่ของเขาดีที่สุด
... บทจบ พระเอกมาบ่นกับท่านอาจารย์ และสหายเรื่องที่บ้าน แต่ทั้งสองหาสนใจเขาไม่ เพราะฤดูใบไม้ผลิได้มาเยือนทั้งสองแล้วเช่นกัน...อาหย่วนเถอะค่ะ! (//โดนอาหย่วนตีสลบแล้วลากไปเก็บ)
                จบการเพ้อ

By ชาแดง




วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิว กลรักสกัดครองโลก (ฉบับเต็ม)




ภาพจาก IRIS BOOK


เรื่อง กลรักสกัดครองโลก
ผู้แต่ง ชาเสี่ยวหวาน
ผู้แปล ล่วนชีปาจิ่ว
สำนักพิมพ์ IRIS BOOK

เรื่องย่อ
                “ถ้าหากคุณเป็นฮีโร่ การช่วยโลกให้พ้นจากหายนะเป็นเรื่องง่าย แต่หากคุณเป็นแค่ตัวประกอบต๊อกต๋อยคนหนึ่ง คุณจะสามารถทำอะไรได้บ้างนะ...”

พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์
                เรื่องราวทั้งหลายทุกคนมีส่วนสำคัญเสมอ ต่อให้เป็นเพียงส่วนประกอบเล็ก ๆ ของชีวิต แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงไปก็สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้ คล้ายการเปลี่ยนตัวแปรในสมการนิดเดียวผลก็เปลี่ยน เรื่องกลรักสกัดครองโลกอ่านแล้วทำให้เรารู้สึกแบบนั้น
เรื่องนี้นายเอกของเรา หรือ หลิงเซี่ย เป็นนักอ่านที่ทะลุมิติเข้าไปในนิยาย กลายเป็นตัวประกอบตัวหนึ่งของเรื่อง ที่จริง ๆ ต้องตายตั้งแต่ช่วงแรก เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านพระเอก (ในนิยาย ซ่งเสียวหู่) และท่านจอมมาร (พระเอกตัวจริง อวี้จือเจวี๋ย) ต้องการมีชีวิตที่ดีกว่านี้ และการมาของนายเอกครั้งนี้ก็มาพร้อมกับภารกิจในใจ คือการเปลี่ยนตอนจบของนิยายเรื่องนี้ ตอนจบเดิมของนิยาย พระเอกกับจอมมารจะกลายเป็นศัตรูกัน สู้กันจนสุดท้ายจอมมารทำลายล้างโลกสำเร็จเหลือไว้แต่พวกพระเอก และคำพูดสุดท้ายก่อนตายที่ว่า “ในที่สุดก็หลุดพ้น โลกอันฟอนเฟะนี่... ทำลายให้สิ้น”
นายเอกของเราพบสองตัวละครหลักตอนยังเป็นเด็กน้อย ก็มุ่งมั่นจะเลี้ยงพวกเขาให้ดี โดยเฉพาะท่านจอมมาร นายเอกจะคอยดูแลสั่งสอนเป็นพิเศษ เพื่อขจัดปมในใจ และพยายามปกป้องให้พ้นจากความโหดร้าย (ที่จะทำให้จิตใจอยากทำลายโลก) ให้มากที่สุด... จริง ๆ แล้วอ่านดี ๆ เราจะพบกับความลำเอียงของนายเอกที่ดูแลท่านจอมารมากกว่า (หลงอาเจวี๋ยคนงาม) อาจจะเพราะท่านจอมมารน้อยเข้าถึงยากกว่าพระเอกที่ซุกซนและตรงไปตรงมา (ท่านจอมมารขี้ระแวง) 
แน่นอนค่ะ สุดท้ายนายเอกก็สามารถทำให้ท่านจอมมารเชื่อใจจนถึงขนาดตัวติดแจ หายหน้าไปนานก็ไม่ได้โดนตามถึงที่พัก แต่ตัวนายเอกก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองกลายเป็นคนสำคัญของพระเอกอย่างท่านจอมมารอวี้ขนาดไหน กว่าจะรู้ โลกทั้งใบจะอยู่หรือหายไป ...กลายเป็นขึ้นอยู่กับนายเอก อย่างหลิงเซี่ย เสียแล้ว (55555555)
ถ้าคุณชอบอ่านแนวนายเอกอายุมากกว่าเลี้ยงพระเอกมาจนโต (ตำนานการเลี้ยงต้อย) ชอบแนวย้อนยุคแบบยุทธภพ ทะลุมิติ กับภารกิจเปลี่ยนแปลงชะตากรรม (และมีพระเอกทำอาชีพจอมมาร) สามารถหยิบเรื่องนี้ได้ค่ะ พระเอกตอนเด็กงานดีน่ารัก ตอนโตก็แซ่บ (แค๊ก ๆ) มากค่ะ (หลิงเซี่ยเป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น!)
คะแนน 8/10

มุมเล็ก ๆ ก่อนสปอยล์ เราเชื่อว่าหลายคนจะมองว่าแนวเรื่องนี้ คล้ายแนวระบบของเรื่อง “ตัวร้ายอย่างข้าจะหนีเอาตัวรอดยังไง” (ไว้อ่านจบเล่มสามแล้วจะมาเล่าเรื่องนี้) เรามองว่าคนเขียนวางแนวต่างกัน
กลรักสกัดครองโลก จะเล่าเป็นเน้นเหตุการณ์ ที่ทำให้ตัวละครอย่างพระเอกนายเอกพัฒนาความสัมพันธ์ มากกว่า ดำเนินเรื่องตาม โครงนิยายที่นายเอกหลุดเข้าไป เราจะเดินไปในเหตุการณ์ต่าง ๆ พร้อมนายเอกโดยไม่รู้ว่าต่อไปจะทำยังไง และจะเกิดอะไรขึ้น
 ( หลัง ๆ เหมือนจะหลุด ๆ แต่มาคิดดู เราว่าคนเขียน เขียนเรื่องถึงเป้าหมายของเขาแล้ว จะเล่าความคิดเห็นให้ฟังตรงสปอยล์นะคะ ส่วนตรงตอนจบ เราชอบนะ ตบจบได้ดี ๆ )
ส่วนตัวร้ายอย่างข้าฯ (เราอ่านไปได้แค่สองเล่ม) คือเรื่องนี้จะเดินเนื้อเรื่องตามโครงนิยายเดิมที่นายเอกหลุดไปทุกอย่าง ดังนั้น นายเอกจะรู้ว่าจะต้องเจออะไร แต่คนอ่านกับนายเอกจะไม่รู้เลยว่าควรผ่านโจทย์นั้นไปยังไง นี่เป็นการเล่าของนักเขียนให้เราเดินไปหาคำตอบพร้อมนายเอกที่เป็นคนเล่าเรื่อง
 เรามองว่า เป้าหมายของคนเขียนตัวร้ายเหมือนจะคล้ายกลรักฯ แต่จริง ๆ เราว่ามีต่าง ไว้อ่านจบเราน่าจะจับได้ครบแล้วจะมาเล่าให้ฟังดู สรุป ทั้งสองเรื่องเราบอกเลยว่าสนุก (แนวเลี้ยงเด็กคือทางของเรา 55555) และให้รสชาติการอ่านไม่เหมือนกัน เพียงแต่โครงคล้ายกัน มีจุดที่นักเขียนอยากเล่าทับกันส่วนหนึ่ง (1เป็นเศษของส่วน) เท่านั้น ใครชอบแนวนี้ จับได้ทั้งสอง หรือจะเลือกแบบที่ชอบมากกว่าก็ได้ ส่วนเรา...สนับสนุนทุนเลี้ยงเด็กให้นายเอกทั้งสองเรื่องไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)
                เรื่องนี้จุดหมายหลักของเรื่องชัดเจนมาก ๆ คือ ไม่จบแบบนิยายดั้งเดิม หนึ่ง พระเอกของเรื่องกับท่านจอมมารไม่ตีกัน สองท่านจอมมารไม่ทำลายล้างโลก สามท่านจอมมารไม่ตาย แล้วนายเอกอย่างหลิงเซี่ย ควรทำยังไงล่ะ ... ก็ทำให้จอมมารหลงรัก แล้วลืมครองโลกมาครองตัวเองแทนก็จบ (หลิงเซี่ยไม่ได้กล่าว-นักเขียนก็ไม่ได้กล่าว 55555) ใช่ค่ะ แต่นั้นคือ ใจความหลักของเรื่องที่นักเขียนเล่า และป้อนเหตุ ให้เกิดผล ที่เปลี่ยนไป

สปอยล์นะคะขอย้ำ เพื่อไม่ให้เสียรสในการอ่าน กดปิดแล้วค่อยกลับมาใหม่ตอนอ่านจบแล้วนะคะ
ตัวแปรต้น 1 นายเอกในร่างตัวประกอบ กลายมาเป็นพี่ชายให้พระเอก และจอมมาร เขาสั่งสอนเลี้ยงดูทั้งสองอย่างดี รวมถึงพยายามทำให้ท่านจอมมารไม่มองโลกนี้ในแง่ร้ายด้วย เราชอบความคิดนายเอกที่ว่าเด็กในตอนนี้ยังไม่ได้มีจิตใจเลวร้าย ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถึงพยายามดูแลเอาใจใส่ นั่นทำให้เนื้อเรื่องช่วงนี้น่ารัก และอบอุ่น ไม่แปลกที่ท่านจอมมารยอมรับนายเอก ให้เข้ามาเป็นคนที่ตัวเองเชื่อใจมากที่สุดได้
ฉากที่ชอบ นายเอกทำงานเพื่อหาเงินมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เด็ก ๆ และเวลาเกิดปัญหาทีไร นายเอกจะดึงท่านจอมมารไว้ข้างหลังตัวเอง เพื่อปกป้องเสมอ เราอ่านแล้วยอมใจ
ตัวแปรตาม 1 ความรู้สึกท่านจอมมาร ที่กลายเป็นเชื่อใจนายเอกทุกอย่าง นายเอกไม่เคยโกหกเขาดังนั้นนายเอกพูดอะไรเขาจะเชื่อโดยไม่มีเงื่อนไข เรื่องนี้กลายเป็นดาบสองคม จากตัวแปรที่ 1 คือนายเอกที่กลายมาเป็นคนสำคัญของท่านจอมมาร (พระเอกที่แท้ทรูของเรา) เมื่อนายเอกต้องเหตุต้องตาย (กลับไปโลกเดิมรอบแรก) ท่านจอมมารก็เชื่อคำนายเอกว่านายเอกไม่ตาย ตัวเองก็รอนายเอกเป็นสิบปี แต่นายเอกไม่กลับมา เลยทำลายโลก แต่ครั้งนี้ตอนจบเปลี่ยนแล้วอย่างหนึ่งคือ คำพูดทิ้งท้ายก่อนตายเป็น “โลกที่ไม่มีเขา ในที่สุดก็ถูกทำลายสิ้นแล้ว...” คงไม่ต้องบอกว่าเขาคือเราว่าคุณก็รู้ 55555
กลับมาครั้งที่สอง นายเอกได้กลับมาช่วงท่านจอมมารเป็นวัยรุ่น (ก่อนถึงวัยที่จะเดินสู่วิถีมาร) นายเอกเลยมาพร้อมกับเป้าหมายเปลี่ยนไม่ให้อาเจวี๋ยของเขาเข้าวิถีมาร และไม่ตาย ส่วนท่านจอมมารก็รู้แล้วว่า ชีวิตนี้นายเอกคือคนเพียงหนึ่งเดียวที่เขารัก มากกว่าโลกทั้งใบ ! บทเรียนรักก็ได้เริ่มขึ้นที่ช่วงวัยนี้ล่ะค่ะ (คริคริ)
ในการตายครั้งที่สอง ตอนจบของนิยายก็เป็น...พระเอกของเรื่องอย่างซ่งเสียวหูเป็นคนเดียวที่รอดบนโลก เราคิดว่า ท่านจอมมารน่าจะทำตามสัญญาในตอนจบ ver. นี้ เพราะนายเอกบอกเสมอว่า ให้รักษาความเป็นพี่น้องกับเสี่ยวหู ดังนั้น เสี่ยวหูจึงเป็นคนนึงที่สำคัญกับนายเอก (รองจากท่านจอมมาร) ตอนจบครั้งนี้ ท่านจอมมารเลยปล่อยรอดคนเดียว
กลับมาครั้งที่สาม ท่านจอมมารเป็นท่านจอมมารเต็มตัวจริง ๆ แล้ว เรื่องใด ๆ คงไม่กล่าว ความหวานความฟิน ขอให้ได้อ่านกันเอง แต่แน่นอน...เข้าสู่การตายจากกันครั้งสุดท้าย...
และนายเอกกลับมาใหม่ โดยทะลุมิติด้วยร่างจริงพร้อมกับความทรงจำที่หายไป...พระเอกอย่างท่านจอมมารเลยปฏิบัติการ จีบ !!!
ตัวแปรตาม 2 จึงเป็นตอนจบที่ ท่านจอมมารไม่ตีกับพระเอกของนิยาย (เป็นที่ปรึกษาด้านง้อแฟนให้ซะด้วย) โลกไม่ถูกทำลายเพราะจอมมารสนแต่ภรรยา และจอมมารจะไม่ตายตราบที่ภรรยายังอยู่! ถึงได้บอก...โลกนี้จะอยู่หรือไป ขึ้นกับนายเอกล้วน ๆ 555555  
ตัวแปรตามที่ 3 พระเอกของนิยายอย่างซ่งเสียวหู่ ... ไม่รู้จะสงสารดีไหม จากการเลี้ยงดูของนายเอก ทำให้พระเอกของนิยายคนนี้ เดิมที่มีฮาเร็มสาว ๆ กลายเป็นไม่มีสักคน พระเอกไม่สนใจความรัก (และไม่เข้าใจด้วย ใสกับเรื่องนี้มาก ๆ ) อยากฝึกวิชาให้เก่งในยุทธภพเท่านั้น... ดีนะ ที่สุดท้ายยังมีคู่ แต่พลิกล็อค ไม่ใช่สาว (ติดเชื้อท่านจอมมารกับพี่หลิน) แถมยังมีลูกให้ชื่นใจคนนึง เราอ่านถึงตรงนี้ค่อยรู้สึกหายสงสารพระเอก แต่ก็อดเรียกร้องความเป็นธรรมให้ไม่ได้....ขอบทน้องชายท่านนี้เพิ่มอีกสักสองหน้ากระดาษได้ไหม อยากรู้ว่าง้อคนรักยังไงอ่ะ อ๊ากกก
                เรื่องนี้เราอ่านแล้วสนุกนะ ฉาก NC อยู่สองเล่มหลัง รักกันจนอยากจะบอกว่า เกรงใจพระเอกอย่างเสี่ยวหูบ้าง (เราเอ็นดูพระเอกท่านนี้จริง ๆ ) ส่วนตัวชอบเล่มแรก เราชอบช่วงเวลาวัยเด็กที่เจอเรื่องราวต่าง ๆ แล้วนายเอกต้องคอยปกป้องเด็ก ๆ ทั้งสอง (จะองค์ชายอัปลักษณ์ หรือตัวร้าย ฯ แม้แต่กับปราชญ์กู้บัลลังก์ เราจะชอบช่วงวัยเด็กที่สุด) มันให้ความรู้สึกลุ้น และอบอุ่นดี แต่ช่วงหลังดีไหม ตอบเลยว่าดี เพราะเป็นพระเอกบ้างที่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องนายเอก และเราชอบตอนพิเศษที่นักเขียนเล่าตอนจบอีกแบบ...
ถ้าตัวแปรต้น อย่างนายเอกกลับมาตอนพระเอกเป็นจอมมารไปแล้วล่ะ? (ไม่ทันจีบกัน ไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์กัน) ตัวแปรตาม 1 อย่างตัวท่านพระเอกจอมมารจะเป็นยังไง ตัวแปรตาม 2 ตอนจบโลกจะถูกทำลายไหม ตัวแปรตาม 3 พระเอกของนิยายจะมีชีวิตแบบไหน เราชอบนักเขียนที่วางเงื่อนไขแบบนี้ ลองหาไปหาคำตอบกันดูนะคะ

เราให้ 8 คะแนน สำหรับเรื่องนี้ หักขนาด front ที่ไม่สม่ำเสมอ กับตัวเนื้อเรื่อง เราค่อนข้างเสียดายตัวละครหลาย ๆ ตัว น่าจะมีบทบาทได้มากกว่านี้ อุตส่าห์มีพัฒนาการด้านความคิด และอารมณ์ดีขึ้น เสียดายออกกันน้อย ส่วนที่ว่าเนื้อเรื่องหลุดไหม จากที่ไล่กันมา เราว่าไม่หลุดนะ เป้าหมายคนเขียนคือต้องการเปลี่ยนตอนจบหัวใจหลักคือ ท่านจอมมาร เพราะพระเอกท่านนี้เป็นคนกำหนดตอนจบทั้งหมด (ลองกลับขึ้นไปอ่านดู) เมื่อพระเอกรักนายเอก ตัวแปรสองไม่เกิด เรื่องอื่นก็ตามมา ครบกระบวน...แต่ถามว่าอะไรจะหลุด คงเป็นหนึ่งในคะแนนที่หักไป เนื้อหาที่เล่นตามโครงนิยายดั้งเดิมที่นายเอกหลุดมา เล่นได้มากกว่านี้ (รายละเอียดมันหายน่ะ) ...แต่เรื่องมันบรรลุจุดประสงค์ของมันแล้ว  เราเลยบอกได้ว่า จบแบบนี้เราก็ยังว่าดี

By ชาแดง








วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิว ยมทูต 13 นาที (ฉบับเต็ม)

ภาพจาก Bodhi publishing


เรื่อง ยมทูต 13 นาที
ผู้เขียน ฝานลั่ว
ผู้แปล ยูมิน
สำนักพิมพ์ Bodhi publishing
เรื่องย่อ
                “ ...เรื่องตลกที่พูดต่อ ๆ กันมาในปรภพ คือ บรรดาคุณหมอทุกคนบนโลกล้วนควรถูกสังหารให้หมด เพราะหมอคือศตรูของเหล่ายมทูต ทว่านับแต่วันนี้เป็นต้นไป ศัตรูของพวกเขาจะเปลี่ยนเป็นพนักงานประกันภัยแทน...”

พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์

            เรื่องนี้ปัญหาหลัก ๆ ของเรื่องเรามองว่าเป็นสิ่งใดควรเกิดก็ต้องเกิด ถ้าคิดจะเปลี่ยนแปลงหรือหลบเลี่ยง สุดท้ายอาจจะกลายเป็นให้ผลลัพธ์เลวร้ายกว่าเดิมก็ได้

จากเรื่องย่อพนักงานประกันภัยของเรื่องไม่ใช่ใคร คือนายเอกของเรา หนิงฉือซาน นั่นเอง ส่วนความสามารถที่สร้างความยุ่งยากให้เหล่าท่านยมทูตคือ การเห็นความตาย (ของลูกค้าประกัน) ล่วงหน้า 13 นาทีก่อนเกิดเหตุ และนายเอกของเราก็สามารถช่วยได้ทันเสียทุกครั้ง เดือดร้อนให้ทางปรภพส่งยมทูตมือหนึ่งอย่างพระเอก หานปิง หรือฉายา ไอซี่มาสืบความสามรถนายเอกเพื่อหยุดยั้ง การทำให้ วงจรความตายสับสน (จากความสามารถของนายเอก) นั่นเอง และการสืบของพระเอกหน้าตายของเรา เรียกว่าทำตัวเหมือนตามจีบซะมากกว่า นายเอกไปไหน ก็มักจะสร้างเรื่อง บังเอิญผ่านมาเจอทุกครั้ง นายเอกเราเจอแบบนี้จะไม่ให้คิดเข้าข้างตัวเองได้ยังไง แต่นั่นแหละค่ะ ตามสืบซะใกล้ชิด ก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้าง แต่เรื่องนี้ใส่ความหวั่นไหวของพระเอกมาในรู้แบบของสีสัน เพราะพระเอกตาบอดสี เลยไม่รู้จักสีต่าง ๆ เขามาเห็นสีต่าง ๆ ตอนอยู่กับนายเอก ทำให้หลงใหลอย่างมาก

เรื่องนี้รวม ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยาว อ่านง่าย และเพลินมาก กลิ่นอายการเขียนของคุณฝานลั่วก็ยังคงอยู่ ตัวละครมีเสน่ห์ ทั้งคู่หลัก และคู่รอง (พี่ชายของนายเอก) ก็มีปม และความน่ารักชวนยิ้มเช่นกัน ถ้าจะติ ก็คงเป็นเรื่องที่สั้นไปหน่อย โครงเรื่องเล่นลึกได้มากกว่านี้ แต่แบบนี้ก็ดีค่ะ อ่านง่าย สนุก ไม่ซับซ้อน ส่วนตัวชอบแนวเหนือจริงอยู่แล้วด้วย เลยโดนตกกับแนวนี้ง่าย
คะแนน 7.5/10




พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)
                ออกตัวว่าตามงานคุณฝานลั่วไม่น้อย ทั้ง เทียนซือ ของ Bakery และ Absolute Zero ของ สถาพร (จำได้เท่านี้) ทำให้เรื่องนี้เราตัดสินใจซื้อ โดยมองแค่สองอย่าง ชื่อคนเขียน กับ ชื่อเรื่อง เราค่อนข้างแพ้ทางนิยายแฟนตาซีเหนือจริง และพวกสืบวิญญาณ มาก (ถ้ามีโอกาสจะขุดมาเล่านะคะ) ดังนั้นบางคนอาจจะไม่โอเค หรือเฉย ๆ กับเรื่องนี้ก็ได้ ทีนี้ เราขอพูดถึงปมของเรื่องสักหน่อย ดังนั้น
สปอยล์นะคะ เพื่อไม่ให้เสียรสในการอ่าน กดปิดแล้วค่อยกลับมาใหม่ตอนอ่านจบแล้วนะคะ

ปม1. ความสามารถนายเอก ช่วยคนใน 13 นาที เป็นปมแรกที่ทำให้พระเอกนายเอกได้พบกัน และได้มาพัฒนาความสัมพันธ์ด้วยกัน ความสามารถนี้ของนายเอกขอเพียงอยู่ด้วย ไม่นานก็จะรู้เงื่อนไข และคนช่างสังเกตอย่างพระเอกไม่นานก็รู้จริง ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รายงานปรภพ
ทว่ายังมีข้อสงสัยถัดมาให้ค้นหา ...นายเอกได้ความสามารถนี้มายังไง คนเขียนมีคำตอบให้หนึ่ง ก็มักจะมีคำถามข้อสองให้หาคำตอบต่อ นี่คือเสน่ห์ของคุณฝานลั่ว
ปม2. ปมความรักของพระเอกนายเอกมีสองเรื่องหนึ่งคือวลีเด็ดของเรื่องและเราประทับใจมากคือ “แค่คนรักไม่ใช่คนในครอบครัว” เราชอบประโยคนี้ที่นักเขียนทำเป็นคีร์ปัญหาในความสัมพันธ์ของพระเอกนายเอกมาก นายเอกรักพี่ชายมากจนแฟนบอกเลิกไปหลายคนด้วยเหตุผลนี้ ดังนั้น พระเอกเลยพยายามทำทุกอย่างเพื่อจะเป็น ครอบครัว ของนายเอก
ปัญหาความรักข้อสอง คือหน้าที่ และตัวตน การเป็นยมทูต กับคน พวกเขาจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง แล้วนายเอกจะรู้เมื่อไรว่าพระเอกเป็นยมทูต เมื่อรู้แล้วพวกเขาจะทำยังไงต่อไป คำถามพวกนี้ทำให้ต้องอ่านบทถัดไปโดยหยุดไม่ได้จริง ๆ
ปม3. จากข้อแรก ทำอะไรก็ได้ผลลัพธ์แบบนั้น เรื่องที่นายเอกใช้ความสามรถไปช่วยคนไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหาตามมา นี่คือปมใหญ่ของเรื่อง การเปลี่ยนชะตาชีวิต หรือการช่วยคนจากความตาย ทำให้วัฏจักรต่าง ๆ ของปรภพรวน สุดท้ายผลก็สะท้อนกลับมาที่คนต้นเหตุ แน่นอนปัญหาของนายเอกไม่ใช่แค่เรื่องนี้ ตัวยมทูตที่เคืองจากการโดนแย่งวิญญาณรับผิดชอบ เพราะความสามารถของนายเอก ก็กลายเป็นปัญหาเช่นกัน
                แต่คนอ่านจะกลัวอะไรไป พระเอกอยู่ทั้งคนนี่...(กระตุกยิ้ม)              
ปม4. เรื่องของพี่ชายนายเอก เขาเป็นคนมีเซนส์ แถมยังเป็นคู่รองกับยมทูตผู้ช่วยพระเอก แต่งบุคลิกท่านยมทูตคนนี้ออกจะขี้แกล้ง ทำให้เราต้องไปลุ้นกันในเล่มพิเศษว่าจะลงเอยกันอย่างไร
                ต้องบอกว่าเรื่องนี้ไม่ยาว อ่านเพลิน ๆ เพราะเดินด้วย คำถาม ให้เราตามอ่าน หาคำตอบ อ่านแล้วถือว่าไม่เสียดายเงิน คะแนนหักไปด้วยความขัดใจส่วนตัว (ความลึกของปมเนื้อเรื่อง ฉากบู๊ที่น่าจะมีมากกว่านี้ และสั้นไปนิด) 7.5  ( ถ้าจะมีอีกอย่าง...เรามองว่ารวมเป็นเล่มเดียวก็พอ ไม่จำเป็นต้องแตกสามเล่ม แต่นั่นแหละ เราก็ซื้อมาอยู่ดีอ่ะนะ)
By ชาแดง


วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิว Top Assistant ผู้ช่วยเหรียญทอง (ฉบับเต็ม)


ภาพจาก Bakery publishing


Top Assistant ผู้ช่วยเหรียญทอง
ผู้แต่ง เฟยเทียนเย่เสียง
ผู้แปล อลิส
สำนักพิมพ์ Bakery book

เรื่องย่อ
“ หลังดิ้นรนสร้างเนื้อสร้างตัวในปักกิ่งมานานหลายปี ชีวิต เซียวอี้ ก็ถึงคราวตกอับขั้นสุด ทั้งตกงาน แฟนทิ้ง แถวยังถังแตก ถึงอย่างนั้นสวรรค์ก็ยังเมตตา (?) ให้เชามาเป็นผู้ช่วย หลูโจว ซูเปอร์สตาร์หนุ่มสุดฮอตที่มีคนคลั่งไคล้ทั่วบ้านทั่วเมือง
                ปัญหาคือ ...ตัวจริงของหลูโจวไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ทั้งอารมณ์ร้ายขี้วีน วัน ๆ เอาแต่เช็คเรตติงกับชอปปิงออนไลน์ แต่ไม่รู้ทำไมพอได้ใกล้ชิดกัน เซียวอี้กลับรู้สึกดี ๆ กับอีกฝ่ายเสียนี่ หรือว่าที่จริงแล้วเขาเป็น มาโซคิสม์ กัน!

พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์

เรื่องนี้จัดว่าสนุกมากหลังอ่านจบยังกลับมาอ่านซ้ำอีกรอบทันที เพราะเราติดใจอยากกลับไปอ่าน จุดเปลี่ยนแปลงของตัวละคร ให้ชัด ๆ เราว่านี่เป็นหัวใจเรื่องนี้เลย ทั้งชีวิตการทำงาน ความคิดของพระเอกนายเอก และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ค่อย ๆ พัฒนาจากช่วงเวลาแต่ละวันที่อยู่ด้วยกัน รวมถึงอุปสรรคต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา แล้วทำให้พวกเขาเติบโต และรักกันมาขึ้น เวลาอ่านเลยทำให้รู้สึกอบอุ่น ยิ้มขำ ไปตลอดเรื่อง

ขอบอกว่าเรื่องนี้มีฉากเป็นวงการบันเทิง เพราะ พระเอกเป็นดาราละครที่กำลังมาแรงมากในตอนนั้น ตัวนายเอก หรือ เซี้ยวอี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับตัวยงของพระเอก เรียกว่าเป็นเทพบุตรในดวงใจเลยก็ว่าได้ น้องเซียวของเราเป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยโกรธใคร ยอมคน และไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ดังนั้นเลยโดนแฟนทิ้งตั้งแต่ต้นเรื่อง และก็มาเริ่มทำงานใหม่เป็นผู้ช่วยให้พระเอก ต้องตามพระเอกออกกองละคร และได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตดารา ถึงพระเอก อย่าง หลูโจว จะมีบุคลิกใจร้อน โมโหง่าย(แต่หายเร็ว) ปากร้าย(แต่ใจดี) แถมยังขี้วีน แต่เขาก็เป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น ชอบช่วย (นายเอก) ลับหลังตลอด และอยู่ในจำพวกที่ ฉันรังแก(ผู้ช่วย)ของฉันได้คนเดียว คนอื่นห้ามแตะ” (อ่านแล้วอยากกรี๊ดมากก เฮียโจววว) เลยทำให้คะแนนพระเอกในใจนายเอกลบทีละหนึ่ง แต่บวกเพิ่มทีละร้อยตลอด (น้องงงงง)
               
                ถ้าคุณชอบเรื่องราวแนวปัจจุบัน ขับเคี้ยวกันในวงการบันเทิง เรื่องราวชีวิตการเป็นดารา และการทำงานเป็นผู้ช่วยดาราในแต่ละวัน พัฒนาการความรักเป็นไปตามลำดับจากการผ่านเรื่องราวด้วยกัน แนะนำหยิบเรื่องนี้ค่ะ

คะแนนหลังอ่าน 10/10




พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)

คนเขียนท่านนี้ ผลงานก่อนหน้ารู้ว่ามา คือ ปราชญ์กู้บัลลังก์ ของ Every ราชันย์คืนบัลลังก์ของ Meedee และ รักข้ามขอบฟ้า (ของ Meedee เช่นกัน) เราอ่าน ปราชญ์ แล้ว (เรื่องอื่นอยู่กองดองมีโอกาสจะอ่านและมาเล่า ) เลยพอจะรู้ความสามารถการเดินเรื่องของนักเขียน แต่ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นแนวปัจจุบัน แถมเป็นแนวดาราที่เรามองว่าไม่ค่อยใช่ทางเราเท่าไร ตอนแรกเลยมีลังเลอยู่บ้าง แต่สุดท้ายเจอรีวิวทางเน็ต...ตัดสินใจเก็บเลยจ้า

                และก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ

                เอาล่ะ ตรงนี้จะเป็นเนื้อหาสปอยล์นะคะ ท่านที่อยากอ่านแบบมีลุ้นครบรส เมินตรงนี้ และกดปิด หรือกดไปดูรีวิวเรื่องอื่นต่อได้เลยค่ะ....เตือนแล้วนะคะ


อย่างที่บอกตอนต้น เรื่องนี้ ธีมเป็น เรื่องราวการพัฒนาการจากการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนสองคน ในที่นี้ คือ พระเอก กับนายเอก พูดถึงจุดเริ่มต้นของนายเอก นายเอกเริ่มเป็นคนที่อยู่ใสนจุดต่ำสุดของชีวิตแล้ว ตกงาน ถังแตก แฟนทิ้ง พ่อแม่อยากให้กลับบ้านไปทำไร่ และแต่งงาน อยู่กับพวกท่าน แต่สุดท้ายเพื่อนสนิทของหางานมาต่อชีวิตนายเอก ด้วยการเป็นผู้ช่วยดาราดังอย่างพระเอก
ส่วนจุดเริ่มต้นของพระเอกในเรื่อง จึงเปิดด้วยช่วงที่กำลังดังถึงขีดสุด เป็นขาขึ้นที่ใคร ๆ ก็อยากจ้างหลูโจวมาแสดงละคร เพื่อดึงเรตติงบ้าง เพื่อดันเด็กตัวเองบ้าง หรือขอเป็นข่าวฉาวด้วยก็ยังดี เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จห่างไกลจากจุดของนายเอกมาก

(ใครไม่อยากอ่านสปอยเตือนอีกครั้งข้างล่างคือเล่าแบบจุดสำคัญ! ปิดด่วน!)


จุดเปลี่ยนแปลงแรก คือ พระเอกเลิกกับแฟนดารา (ที่บริษัทขอให้คบ) ทะเลาะกันรุนแรง แถมโดนหมาน้อยของผู้หญิงคนนั้นกัด คืนนั้นนายเอกเลยจะพาพระเอกไปฉีดยากันพิษสุนัขบ้า แต่พระเอกไม่ยอมเพราะกลัวเป็นข่าว แถมขู่จะไล่นายเอกออก สุดท้ายนายเอกเลยพูดกับพระเอกว่า

“ผมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวเฮีย การดูแลปกป้องเฮียเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าเฮียว่าผมทำงานบกพร่อง เฮียก็บอกประธานให้ไล่ผมออกได้ แต่ตอนนี้เฮียถูกหมากัด ยังไงก็ต้องฉีดยา “ พระเอกนิ่งไปเลยจ้า เราว่าความจริงใจนี้คงกระแทกใจเฮียโจว แกเลยไม่ดื้อต่อ แถมพอกลับมาจากฉีดยา มีการแอบเช็คมือถือน้องเซียวว่าแอบโพสเรื่องพี่แกลงโซเชียลรึเปล่า แต่ดันไปเจอว่า น้องเซียวคือติ่งตัวจริงของพี่โจวมาตั้งแต่เรียนมหาลัย แถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีปกป้องแกจากแอนตี้แฟนด้วย!

วันนั้น แฟนเก่าของนายเอกก็โทรมาด่าให้นายเอกเลิกตื้อ แต่คนรับสายคือเฮียโจว ดังนั้นคุณแฟนจึงถูกเฮียโจวปั่นว่าเป็นแฟนเซียวอี้ และทำการบล็อกเบอร์ทิ้งไปเลยค่ะ (คนนี้เฮียดูแลเอง)

 จุดเปลี่ยนที่สอง เราคิดว่าตอนซ้อมละคร พระเอกของเราไม่ถนัดฉากแสดงความรัก คืนนั้นเลยกลุ้มใจมาก น้องเซียวของเราเลยทำหน้าที่ผู้ช่วย สาธิตการแสดงความรักให้เฮียดู เฮียเลยขอลองฝึกบทด้วย แต่ผลคือทำน้องใจเต้น ตัวเองก็ใจเต้น ฝึกจบแยกย้าย เช้ามาเฮียโจวก็ป่วย เพราะตากลมเย็นมากไป (555555)

จุดเปลี่ยนที่สาม เวลาอ่านทุกคนจับตาการกระทำ และคำเรียกดี ๆ นะคะ ตอนแรกน้องเซียวทำทุกอย่างในบ้าน พระเอกไม่แม้แต่จะจำชื่อได้ ตอนหลังคือพัฒนาตามลำดับเลยค่ะ พอสังเกตถึงตอนหลัง ๆ เรื่องคำเรียกเรานี่หัวใจพองมาก เพราะพระเอกเรียกแทนน้อย แต่พูดทีนี่...(คนอ่านสลบแป๊ป)

จุดเปลี่ยนที่สี่ กลับบ้านนายเอก พระเอกกลับไปฉลองปีใหม่ด้วย (โดนนายเอกหลอกไป) เราจะเห็นมุมอ่อนโยนของพระเอก และการนึกถึงใจคนอื่นของพระเอกชัดมาก พระเอกดูแลพ่อแม่ และน้องของนายเอกดีมาก ไม่มีการเอาแต่ใจใด ๆ ทั้งสิ้น
นี่เป็นจุดที่เราคิดเหมือนนายเอกอย่างมาก ต่อให้อ่านเริ่มต้นมาเจอปากร้าย ๆ จนต้องหักแต้ม แต่นักเขียนกลับไม่ลืมมุมดี ๆ เลย อย่างเช่น คืนแรกพอพระเอกรู้ว่านายเอกขึ้นมาช้าเพราะสะดุดบันไดก็ไม่ดุต่อ หรือ การดุด่าด้วยความเป็นห่วงที่นายเอกชอบยอมแพ้ก่อนเริ่มทำ มันเป็นมุมดี ๆ ที่แทรกมาอยู่ตลอดจนหักแต้มไม่ลงสักที

จุดเปลี่ยนที่ห้า ใช่แล้วค่ะ การยอมแพ้ก่อนทำเป็นข้อเสียของนายเอก การพยายามหาโอกาสพลักนายเอกให้หลุดจากสิ่งนั้น และไปสู่ความสำเร็จในฐานะนักร้อง นักแต่งเพลง ก็คือจุดแข็งของพระเอกเรื่องนี้ ที่พยายามกรุยทางเบื้องหลังนายเอกให้ได้ก้าวต่อไปนายเอกได้มีโอกาสแต่งเพลงให้ละครสองเรื่องของพระเอกและสองเพลงนี้ทำให้นายเอกเป็นที่รู้จัก ขณะเดียวกันก็รู้แล้วว่า...ตัวเองรักพระเอกมากขนาดไหน
จุดเปลี่ยนที่หก เมื่อมีชื่อเสียง คนเห็นความสามารถ นายเอกก็มีคนอยากดึงตัวไปทำงานด้วย พระเอกมารู้เรื่องนี้ทีหลังก็โกรธ เลยไล่ออกจากการเป็นผู้ช่วย แล้วให้ไปทำงานเพลงซะ แต่นายเอกอยากเป็นผู้ช่วยพระเอกไม่ได้อยากทำงานเพลงกับบริษัท เลยลาออกกลับบ้าน พระเอกถึงกับช็อกรีบตามไปสนามบิน โพสลงโซเชียลให้แฟนคลับช่วยหา เรียกได้ว่าคืนนั้นโซเชียลระอุมากทั้ง กระแสคนในวงการและแฟนคลับ คนในวงการต่างเข้าใจไปแล้วว่าพระเอกนายเอกคบกัน (ยังนะ นายเอกยังมองว่าตัวเองรักข้างเดียว...) ส่วนกระแสสังคมถูกกลบข่าวไป
ตรงนี้เราคิดว่าตอนแรกที่พระเอกโกรธ เพราะนายเอกไม่ยอมบอกว่ามีคนมาทาบทาม แล้วตัวเอกก็เหมือนกำลังจะโดนแย่งนายเอกไป เลยโมโห แต่ใจจริงเพื่อให้นายเอกได้ทำงานเพลง เราว่าพระเอกพร้อมสนับสนุนมาก คนเขียนแทรกบทเล็ก ๆ ให้เราคิดตรงนี้ออกมาอยู่ไม่น้อย
จุดเปลี่ยนที่เจ็ด พระเอกประสบอุบัติเหตุ ผลพวงตามมาเยอะมาก หลัก ๆ มีสองอย่าง คือ นายเอกกับพระเอกผูกพันกันมากขึ้น เพราะนายเอกดูแลพระเอกทุกอย่างแบบไม่มีเงื่อนไข เป็นกำลังใจหนึ่งเดียวข้างตัวเลยก็ว่าได้ สองคือ การที่พระเอกแสดงละครไม่ได้ เพราะสมองกระทบกระเทือนทำให้จำบทไม่ได้เหมือนเดิม นั่นทำให้ชีวิตพระเอกมาอยู่ในจุดต่ำสุด ขณะที่ของนายเอกยังมีประตูของนักร้องนักแต่งเพลงรออยู่ พระเอกจึงตัดสินใจลาออกแล้วทิ้งนายเอกให้ทำงานที่บริษัท โดยหลอกว่าตัวอีกบินไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ นายเอกเสียใจมาก แต่ก็ทำให้เห็นความต้องการตัวเองชัดเจนแล้ว...
                ทีนี้กราฟชีวิตของทั้งสองคนก็ถูกทำให้ตัดกันแล้ว พระเอกดิ่ง ส่วนนายเอกคือรอยต่อของขาขึ้นถ้าทำจุดเปลี่ยนถัดไปสำเร็จ
จุดเปลี่ยนที่แปด  บริษัทขอให้นายเอกเข้าร่วมรายการประกวดร้องเพลงเพื่อดันเด็กในสังกัด จริง ๆ ประธานค่ายอยากดันนายเอกด้วย แต่นายเอกไม่รับ ตรงนี้เราจะเห็นว่า นายเอกเดิมที่ไม่ค่อยแน่วแน่ในทางของตัวเองกลับมีไฟอยากไล่ตามไปอยู่ดูแลพระเอกได้ชัดเจนมาก เรียกได้ว่านายเอกเป็นสายทุ่มหมดใจแบบไม่ห่วงว่าตัวเองจะลำบากเลย ส่วนพระเอกกลับคอยเป็นสปอนเซอร์ให้นายเอกตอนประกวด และพยายามดันนายเอกในทุกทาง ระหว่างนี้จะมีโมเม้นกุ๊กกิ๊กของสองคนอยู่ ไม่ได้ดึงดรามาจิตตกแต่อย่างใด ออกจะมุ้งมิ้งจนน่าตีพระเอกด้วยซ้ำ (55555555)
จุดเปลี่ยนที่เก้า ตกรอบออกจากรายการ นายเอกก็มานั่งอยู่หน้าบ้านพระเอก และสองคนก็กลับมาอยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างลาออกจากบริษัทแล้ว อยู่ด้วยเงินที่เหลือของพระเอกล้วน ๆ และจากการออกอากาศตอนสุดท้ายของการประกวด นายเอกก็สารภาพรักกับพระเอก และพระเอกตกใจมาก รับรักนายเอกแทบไม่ทัน เพราะเจ้าตัวคิดมาตลอดว่านายเอกรักตัวเองแบบแฟนคลับคนนึงเท่านั้น (นายเอกบอกรักพระเอกบ่อยมาก พระเอกนี่โดนบอกรักจนรักจริงกันไปเลย5555) พอได้ตกลงปรงใจเรียบร้อย อย่าคิดว่านายเอกดีใจแทบบ้าคนเดียว พระเอกป่าวประกาศกับเพื่อนดาราคนสนิทในแชทจนเพื่อนเหม็นความรักไปตาม ๆ กันเลย
 (ตรงนี้น่ารักมาก ต้องลองอ่านดู ทั้งยิ้มทั้งขำปวดหน้าไปหมด 555555)
จุดเปลี่ยนที่สิบ การเปลี่ยนแนวทางการแสดงของพระเอกมาเป็นสายเล่นหนัง (ภาพยนตร์) และการค้นพบการเข้าถึงบทแบบใหม่ของพระเอก เรียกว่าการป่วยครั้งนี้ ทำให้พระเอกเข้าถึงบทมากขึ้น ยิ่งได้ดนตรีนายเอกช่วย ยิ่งบิ้วให้พระเอกเข้าถึงตัวละครได้มากขึ้น นี่เป็นจุดเปลี่ยนหลัก ในช่วงท้ายที่ทำให้พระเอกได้ก้าวกลับมาเป็นดาราอีกครั้ง และครั้งนี้ ก็ทำให้พระเอกเป็นดาราที่อยู่ในจุดที่ไม่จำเป็นต้องแคร์ข่าว หรือค่ายอีก
นายเอก...ตามชื่อเรื่อง เขาได้เป็น ผู้ช่วยเหรียญทอง ของพระเอกจริง ๆ ถ้าไม่ใช่นายเอก เราว่าพระเอกคงไม่เปลี่ยนตัวเอง จนมาใจเย็น สุขุม เปลี่ยนวิธีการแสดง จนไปถึงจุดสูงสุดของอาชีพที่ตัวเองรักได้ ไม่แน่ ความใจร้อนไม่เห็นใครในสายตาของพระเอกช่วงแรกอาจจะทำให้เขาดับตั้งแต่หลังช่วงทะเลาะกับแฟนเก่าแล้วก็ได้ (ถ้าผู้ช่วยไม่ใช่นายเอกนะ) ต่อให้ผ่านมาได้ เจออุบัติเหตุนั้นไปก็คงหายจากวงการแน่ ๆ
                ดังนั้นเรื่องนี้ พออ่านจบเราถึงวนกลับไปอ่านซ้ำ เราอยากเก็บความเปลี่ยนแปลงของตัวละครอีกรอบ เนื้อเรื่องเดินด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ต่อเนื่อง และได้ลื่นไหลมาก ไม่ได้รู้สึกขาดรสชาติไหนเลย นักเขียนปรุงมากำลังดี ปมที่มีค่อนข้างลงตัว เรื่องนี้เราให้ 10 เต็มไปเลย ไว้อ่านเรื่องอื่นของนักเขียนท่านนี้จบเพิ่ม เราจะมาเล่าดู

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ เหมือนมาแจกแจงตรงที่ชอบของตัวเองมากกว่า เราไม่ได้ลงรายละเอียดหลายอย่าง รวมถึงตอนจบจริง ๆ ของเรื่อง เราว่า ยังไงสุดท้ายอ่านเองฟินที่สุด ถ้าเป็นแนวที่ใช่อย่าลืมลองไปหาอ่านนะคะ 

By ชาแดง









รีวิว แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ( 3 เล่มจบค่ะะ)

  แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ผู้แต่ง ปี่ข่าปี่ ผู้แปล จื่อซิน ผู้วาด 梨乖 酥 สำนักพิมพ์ Inltreebook เรื่องย่อ หลินชิงอวี่ แต...