วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิว Top Assistant ผู้ช่วยเหรียญทอง (ฉบับเต็ม)


ภาพจาก Bakery publishing


Top Assistant ผู้ช่วยเหรียญทอง
ผู้แต่ง เฟยเทียนเย่เสียง
ผู้แปล อลิส
สำนักพิมพ์ Bakery book

เรื่องย่อ
“ หลังดิ้นรนสร้างเนื้อสร้างตัวในปักกิ่งมานานหลายปี ชีวิต เซียวอี้ ก็ถึงคราวตกอับขั้นสุด ทั้งตกงาน แฟนทิ้ง แถวยังถังแตก ถึงอย่างนั้นสวรรค์ก็ยังเมตตา (?) ให้เชามาเป็นผู้ช่วย หลูโจว ซูเปอร์สตาร์หนุ่มสุดฮอตที่มีคนคลั่งไคล้ทั่วบ้านทั่วเมือง
                ปัญหาคือ ...ตัวจริงของหลูโจวไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ทั้งอารมณ์ร้ายขี้วีน วัน ๆ เอาแต่เช็คเรตติงกับชอปปิงออนไลน์ แต่ไม่รู้ทำไมพอได้ใกล้ชิดกัน เซียวอี้กลับรู้สึกดี ๆ กับอีกฝ่ายเสียนี่ หรือว่าที่จริงแล้วเขาเป็น มาโซคิสม์ กัน!

พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์

เรื่องนี้จัดว่าสนุกมากหลังอ่านจบยังกลับมาอ่านซ้ำอีกรอบทันที เพราะเราติดใจอยากกลับไปอ่าน จุดเปลี่ยนแปลงของตัวละคร ให้ชัด ๆ เราว่านี่เป็นหัวใจเรื่องนี้เลย ทั้งชีวิตการทำงาน ความคิดของพระเอกนายเอก และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ค่อย ๆ พัฒนาจากช่วงเวลาแต่ละวันที่อยู่ด้วยกัน รวมถึงอุปสรรคต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา แล้วทำให้พวกเขาเติบโต และรักกันมาขึ้น เวลาอ่านเลยทำให้รู้สึกอบอุ่น ยิ้มขำ ไปตลอดเรื่อง

ขอบอกว่าเรื่องนี้มีฉากเป็นวงการบันเทิง เพราะ พระเอกเป็นดาราละครที่กำลังมาแรงมากในตอนนั้น ตัวนายเอก หรือ เซี้ยวอี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับตัวยงของพระเอก เรียกว่าเป็นเทพบุตรในดวงใจเลยก็ว่าได้ น้องเซียวของเราเป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยโกรธใคร ยอมคน และไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ดังนั้นเลยโดนแฟนทิ้งตั้งแต่ต้นเรื่อง และก็มาเริ่มทำงานใหม่เป็นผู้ช่วยให้พระเอก ต้องตามพระเอกออกกองละคร และได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตดารา ถึงพระเอก อย่าง หลูโจว จะมีบุคลิกใจร้อน โมโหง่าย(แต่หายเร็ว) ปากร้าย(แต่ใจดี) แถมยังขี้วีน แต่เขาก็เป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น ชอบช่วย (นายเอก) ลับหลังตลอด และอยู่ในจำพวกที่ ฉันรังแก(ผู้ช่วย)ของฉันได้คนเดียว คนอื่นห้ามแตะ” (อ่านแล้วอยากกรี๊ดมากก เฮียโจววว) เลยทำให้คะแนนพระเอกในใจนายเอกลบทีละหนึ่ง แต่บวกเพิ่มทีละร้อยตลอด (น้องงงงง)
               
                ถ้าคุณชอบเรื่องราวแนวปัจจุบัน ขับเคี้ยวกันในวงการบันเทิง เรื่องราวชีวิตการเป็นดารา และการทำงานเป็นผู้ช่วยดาราในแต่ละวัน พัฒนาการความรักเป็นไปตามลำดับจากการผ่านเรื่องราวด้วยกัน แนะนำหยิบเรื่องนี้ค่ะ

คะแนนหลังอ่าน 10/10




พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)

คนเขียนท่านนี้ ผลงานก่อนหน้ารู้ว่ามา คือ ปราชญ์กู้บัลลังก์ ของ Every ราชันย์คืนบัลลังก์ของ Meedee และ รักข้ามขอบฟ้า (ของ Meedee เช่นกัน) เราอ่าน ปราชญ์ แล้ว (เรื่องอื่นอยู่กองดองมีโอกาสจะอ่านและมาเล่า ) เลยพอจะรู้ความสามารถการเดินเรื่องของนักเขียน แต่ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นแนวปัจจุบัน แถมเป็นแนวดาราที่เรามองว่าไม่ค่อยใช่ทางเราเท่าไร ตอนแรกเลยมีลังเลอยู่บ้าง แต่สุดท้ายเจอรีวิวทางเน็ต...ตัดสินใจเก็บเลยจ้า

                และก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ

                เอาล่ะ ตรงนี้จะเป็นเนื้อหาสปอยล์นะคะ ท่านที่อยากอ่านแบบมีลุ้นครบรส เมินตรงนี้ และกดปิด หรือกดไปดูรีวิวเรื่องอื่นต่อได้เลยค่ะ....เตือนแล้วนะคะ


อย่างที่บอกตอนต้น เรื่องนี้ ธีมเป็น เรื่องราวการพัฒนาการจากการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนสองคน ในที่นี้ คือ พระเอก กับนายเอก พูดถึงจุดเริ่มต้นของนายเอก นายเอกเริ่มเป็นคนที่อยู่ใสนจุดต่ำสุดของชีวิตแล้ว ตกงาน ถังแตก แฟนทิ้ง พ่อแม่อยากให้กลับบ้านไปทำไร่ และแต่งงาน อยู่กับพวกท่าน แต่สุดท้ายเพื่อนสนิทของหางานมาต่อชีวิตนายเอก ด้วยการเป็นผู้ช่วยดาราดังอย่างพระเอก
ส่วนจุดเริ่มต้นของพระเอกในเรื่อง จึงเปิดด้วยช่วงที่กำลังดังถึงขีดสุด เป็นขาขึ้นที่ใคร ๆ ก็อยากจ้างหลูโจวมาแสดงละคร เพื่อดึงเรตติงบ้าง เพื่อดันเด็กตัวเองบ้าง หรือขอเป็นข่าวฉาวด้วยก็ยังดี เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จห่างไกลจากจุดของนายเอกมาก

(ใครไม่อยากอ่านสปอยเตือนอีกครั้งข้างล่างคือเล่าแบบจุดสำคัญ! ปิดด่วน!)


จุดเปลี่ยนแปลงแรก คือ พระเอกเลิกกับแฟนดารา (ที่บริษัทขอให้คบ) ทะเลาะกันรุนแรง แถมโดนหมาน้อยของผู้หญิงคนนั้นกัด คืนนั้นนายเอกเลยจะพาพระเอกไปฉีดยากันพิษสุนัขบ้า แต่พระเอกไม่ยอมเพราะกลัวเป็นข่าว แถมขู่จะไล่นายเอกออก สุดท้ายนายเอกเลยพูดกับพระเอกว่า

“ผมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวเฮีย การดูแลปกป้องเฮียเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าเฮียว่าผมทำงานบกพร่อง เฮียก็บอกประธานให้ไล่ผมออกได้ แต่ตอนนี้เฮียถูกหมากัด ยังไงก็ต้องฉีดยา “ พระเอกนิ่งไปเลยจ้า เราว่าความจริงใจนี้คงกระแทกใจเฮียโจว แกเลยไม่ดื้อต่อ แถมพอกลับมาจากฉีดยา มีการแอบเช็คมือถือน้องเซียวว่าแอบโพสเรื่องพี่แกลงโซเชียลรึเปล่า แต่ดันไปเจอว่า น้องเซียวคือติ่งตัวจริงของพี่โจวมาตั้งแต่เรียนมหาลัย แถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีปกป้องแกจากแอนตี้แฟนด้วย!

วันนั้น แฟนเก่าของนายเอกก็โทรมาด่าให้นายเอกเลิกตื้อ แต่คนรับสายคือเฮียโจว ดังนั้นคุณแฟนจึงถูกเฮียโจวปั่นว่าเป็นแฟนเซียวอี้ และทำการบล็อกเบอร์ทิ้งไปเลยค่ะ (คนนี้เฮียดูแลเอง)

 จุดเปลี่ยนที่สอง เราคิดว่าตอนซ้อมละคร พระเอกของเราไม่ถนัดฉากแสดงความรัก คืนนั้นเลยกลุ้มใจมาก น้องเซียวของเราเลยทำหน้าที่ผู้ช่วย สาธิตการแสดงความรักให้เฮียดู เฮียเลยขอลองฝึกบทด้วย แต่ผลคือทำน้องใจเต้น ตัวเองก็ใจเต้น ฝึกจบแยกย้าย เช้ามาเฮียโจวก็ป่วย เพราะตากลมเย็นมากไป (555555)

จุดเปลี่ยนที่สาม เวลาอ่านทุกคนจับตาการกระทำ และคำเรียกดี ๆ นะคะ ตอนแรกน้องเซียวทำทุกอย่างในบ้าน พระเอกไม่แม้แต่จะจำชื่อได้ ตอนหลังคือพัฒนาตามลำดับเลยค่ะ พอสังเกตถึงตอนหลัง ๆ เรื่องคำเรียกเรานี่หัวใจพองมาก เพราะพระเอกเรียกแทนน้อย แต่พูดทีนี่...(คนอ่านสลบแป๊ป)

จุดเปลี่ยนที่สี่ กลับบ้านนายเอก พระเอกกลับไปฉลองปีใหม่ด้วย (โดนนายเอกหลอกไป) เราจะเห็นมุมอ่อนโยนของพระเอก และการนึกถึงใจคนอื่นของพระเอกชัดมาก พระเอกดูแลพ่อแม่ และน้องของนายเอกดีมาก ไม่มีการเอาแต่ใจใด ๆ ทั้งสิ้น
นี่เป็นจุดที่เราคิดเหมือนนายเอกอย่างมาก ต่อให้อ่านเริ่มต้นมาเจอปากร้าย ๆ จนต้องหักแต้ม แต่นักเขียนกลับไม่ลืมมุมดี ๆ เลย อย่างเช่น คืนแรกพอพระเอกรู้ว่านายเอกขึ้นมาช้าเพราะสะดุดบันไดก็ไม่ดุต่อ หรือ การดุด่าด้วยความเป็นห่วงที่นายเอกชอบยอมแพ้ก่อนเริ่มทำ มันเป็นมุมดี ๆ ที่แทรกมาอยู่ตลอดจนหักแต้มไม่ลงสักที

จุดเปลี่ยนที่ห้า ใช่แล้วค่ะ การยอมแพ้ก่อนทำเป็นข้อเสียของนายเอก การพยายามหาโอกาสพลักนายเอกให้หลุดจากสิ่งนั้น และไปสู่ความสำเร็จในฐานะนักร้อง นักแต่งเพลง ก็คือจุดแข็งของพระเอกเรื่องนี้ ที่พยายามกรุยทางเบื้องหลังนายเอกให้ได้ก้าวต่อไปนายเอกได้มีโอกาสแต่งเพลงให้ละครสองเรื่องของพระเอกและสองเพลงนี้ทำให้นายเอกเป็นที่รู้จัก ขณะเดียวกันก็รู้แล้วว่า...ตัวเองรักพระเอกมากขนาดไหน
จุดเปลี่ยนที่หก เมื่อมีชื่อเสียง คนเห็นความสามารถ นายเอกก็มีคนอยากดึงตัวไปทำงานด้วย พระเอกมารู้เรื่องนี้ทีหลังก็โกรธ เลยไล่ออกจากการเป็นผู้ช่วย แล้วให้ไปทำงานเพลงซะ แต่นายเอกอยากเป็นผู้ช่วยพระเอกไม่ได้อยากทำงานเพลงกับบริษัท เลยลาออกกลับบ้าน พระเอกถึงกับช็อกรีบตามไปสนามบิน โพสลงโซเชียลให้แฟนคลับช่วยหา เรียกได้ว่าคืนนั้นโซเชียลระอุมากทั้ง กระแสคนในวงการและแฟนคลับ คนในวงการต่างเข้าใจไปแล้วว่าพระเอกนายเอกคบกัน (ยังนะ นายเอกยังมองว่าตัวเองรักข้างเดียว...) ส่วนกระแสสังคมถูกกลบข่าวไป
ตรงนี้เราคิดว่าตอนแรกที่พระเอกโกรธ เพราะนายเอกไม่ยอมบอกว่ามีคนมาทาบทาม แล้วตัวเอกก็เหมือนกำลังจะโดนแย่งนายเอกไป เลยโมโห แต่ใจจริงเพื่อให้นายเอกได้ทำงานเพลง เราว่าพระเอกพร้อมสนับสนุนมาก คนเขียนแทรกบทเล็ก ๆ ให้เราคิดตรงนี้ออกมาอยู่ไม่น้อย
จุดเปลี่ยนที่เจ็ด พระเอกประสบอุบัติเหตุ ผลพวงตามมาเยอะมาก หลัก ๆ มีสองอย่าง คือ นายเอกกับพระเอกผูกพันกันมากขึ้น เพราะนายเอกดูแลพระเอกทุกอย่างแบบไม่มีเงื่อนไข เป็นกำลังใจหนึ่งเดียวข้างตัวเลยก็ว่าได้ สองคือ การที่พระเอกแสดงละครไม่ได้ เพราะสมองกระทบกระเทือนทำให้จำบทไม่ได้เหมือนเดิม นั่นทำให้ชีวิตพระเอกมาอยู่ในจุดต่ำสุด ขณะที่ของนายเอกยังมีประตูของนักร้องนักแต่งเพลงรออยู่ พระเอกจึงตัดสินใจลาออกแล้วทิ้งนายเอกให้ทำงานที่บริษัท โดยหลอกว่าตัวอีกบินไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ นายเอกเสียใจมาก แต่ก็ทำให้เห็นความต้องการตัวเองชัดเจนแล้ว...
                ทีนี้กราฟชีวิตของทั้งสองคนก็ถูกทำให้ตัดกันแล้ว พระเอกดิ่ง ส่วนนายเอกคือรอยต่อของขาขึ้นถ้าทำจุดเปลี่ยนถัดไปสำเร็จ
จุดเปลี่ยนที่แปด  บริษัทขอให้นายเอกเข้าร่วมรายการประกวดร้องเพลงเพื่อดันเด็กในสังกัด จริง ๆ ประธานค่ายอยากดันนายเอกด้วย แต่นายเอกไม่รับ ตรงนี้เราจะเห็นว่า นายเอกเดิมที่ไม่ค่อยแน่วแน่ในทางของตัวเองกลับมีไฟอยากไล่ตามไปอยู่ดูแลพระเอกได้ชัดเจนมาก เรียกได้ว่านายเอกเป็นสายทุ่มหมดใจแบบไม่ห่วงว่าตัวเองจะลำบากเลย ส่วนพระเอกกลับคอยเป็นสปอนเซอร์ให้นายเอกตอนประกวด และพยายามดันนายเอกในทุกทาง ระหว่างนี้จะมีโมเม้นกุ๊กกิ๊กของสองคนอยู่ ไม่ได้ดึงดรามาจิตตกแต่อย่างใด ออกจะมุ้งมิ้งจนน่าตีพระเอกด้วยซ้ำ (55555555)
จุดเปลี่ยนที่เก้า ตกรอบออกจากรายการ นายเอกก็มานั่งอยู่หน้าบ้านพระเอก และสองคนก็กลับมาอยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างลาออกจากบริษัทแล้ว อยู่ด้วยเงินที่เหลือของพระเอกล้วน ๆ และจากการออกอากาศตอนสุดท้ายของการประกวด นายเอกก็สารภาพรักกับพระเอก และพระเอกตกใจมาก รับรักนายเอกแทบไม่ทัน เพราะเจ้าตัวคิดมาตลอดว่านายเอกรักตัวเองแบบแฟนคลับคนนึงเท่านั้น (นายเอกบอกรักพระเอกบ่อยมาก พระเอกนี่โดนบอกรักจนรักจริงกันไปเลย5555) พอได้ตกลงปรงใจเรียบร้อย อย่าคิดว่านายเอกดีใจแทบบ้าคนเดียว พระเอกป่าวประกาศกับเพื่อนดาราคนสนิทในแชทจนเพื่อนเหม็นความรักไปตาม ๆ กันเลย
 (ตรงนี้น่ารักมาก ต้องลองอ่านดู ทั้งยิ้มทั้งขำปวดหน้าไปหมด 555555)
จุดเปลี่ยนที่สิบ การเปลี่ยนแนวทางการแสดงของพระเอกมาเป็นสายเล่นหนัง (ภาพยนตร์) และการค้นพบการเข้าถึงบทแบบใหม่ของพระเอก เรียกว่าการป่วยครั้งนี้ ทำให้พระเอกเข้าถึงบทมากขึ้น ยิ่งได้ดนตรีนายเอกช่วย ยิ่งบิ้วให้พระเอกเข้าถึงตัวละครได้มากขึ้น นี่เป็นจุดเปลี่ยนหลัก ในช่วงท้ายที่ทำให้พระเอกได้ก้าวกลับมาเป็นดาราอีกครั้ง และครั้งนี้ ก็ทำให้พระเอกเป็นดาราที่อยู่ในจุดที่ไม่จำเป็นต้องแคร์ข่าว หรือค่ายอีก
นายเอก...ตามชื่อเรื่อง เขาได้เป็น ผู้ช่วยเหรียญทอง ของพระเอกจริง ๆ ถ้าไม่ใช่นายเอก เราว่าพระเอกคงไม่เปลี่ยนตัวเอง จนมาใจเย็น สุขุม เปลี่ยนวิธีการแสดง จนไปถึงจุดสูงสุดของอาชีพที่ตัวเองรักได้ ไม่แน่ ความใจร้อนไม่เห็นใครในสายตาของพระเอกช่วงแรกอาจจะทำให้เขาดับตั้งแต่หลังช่วงทะเลาะกับแฟนเก่าแล้วก็ได้ (ถ้าผู้ช่วยไม่ใช่นายเอกนะ) ต่อให้ผ่านมาได้ เจออุบัติเหตุนั้นไปก็คงหายจากวงการแน่ ๆ
                ดังนั้นเรื่องนี้ พออ่านจบเราถึงวนกลับไปอ่านซ้ำ เราอยากเก็บความเปลี่ยนแปลงของตัวละครอีกรอบ เนื้อเรื่องเดินด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ต่อเนื่อง และได้ลื่นไหลมาก ไม่ได้รู้สึกขาดรสชาติไหนเลย นักเขียนปรุงมากำลังดี ปมที่มีค่อนข้างลงตัว เรื่องนี้เราให้ 10 เต็มไปเลย ไว้อ่านเรื่องอื่นของนักเขียนท่านนี้จบเพิ่ม เราจะมาเล่าดู

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ เหมือนมาแจกแจงตรงที่ชอบของตัวเองมากกว่า เราไม่ได้ลงรายละเอียดหลายอย่าง รวมถึงตอนจบจริง ๆ ของเรื่อง เราว่า ยังไงสุดท้ายอ่านเองฟินที่สุด ถ้าเป็นแนวที่ใช่อย่าลืมลองไปหาอ่านนะคะ 

By ชาแดง









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีวิว แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ( 3 เล่มจบค่ะะ)

  แต่งงานสามครั้งกับปลาเค็ม เล่ม 1 ผู้แต่ง ปี่ข่าปี่ ผู้แปล จื่อซิน ผู้วาด 梨乖 酥 สำนักพิมพ์ Inltreebook เรื่องย่อ หลินชิงอวี่ แต...