ภาพจาก IRIS BOOK
เรื่อง
กลรักสกัดครองโลก
ผู้แต่ง
ชาเสี่ยวหวาน
ผู้แปล
ล่วนชีปาจิ่ว
สำนักพิมพ์ IRIS
BOOK
เรื่องย่อ
“ถ้าหากคุณเป็นฮีโร่
การช่วยโลกให้พ้นจากหายนะเป็นเรื่องง่าย แต่หากคุณเป็นแค่ตัวประกอบต๊อกต๋อยคนหนึ่ง
คุณจะสามารถทำอะไรได้บ้างนะ...”
พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์
เรื่องราวทั้งหลายทุกคนมีส่วนสำคัญเสมอ
ต่อให้เป็นเพียงส่วนประกอบเล็ก ๆ ของชีวิต
แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงไปก็สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้ คล้ายการเปลี่ยนตัวแปรในสมการนิดเดียวผลก็เปลี่ยน
เรื่องกลรักสกัดครองโลกอ่านแล้วทำให้เรารู้สึกแบบนั้น
เรื่องนี้นายเอกของเรา
หรือ หลิงเซี่ย เป็นนักอ่านที่ทะลุมิติเข้าไปในนิยาย
กลายเป็นตัวประกอบตัวหนึ่งของเรื่อง ที่จริง ๆ ต้องตายตั้งแต่ช่วงแรก
เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านพระเอก (ในนิยาย ซ่งเสียวหู่) และท่านจอมมาร
(พระเอกตัวจริง อวี้จือเจวี๋ย) ต้องการมีชีวิตที่ดีกว่านี้
และการมาของนายเอกครั้งนี้ก็มาพร้อมกับภารกิจในใจ
คือการเปลี่ยนตอนจบของนิยายเรื่องนี้ ตอนจบเดิมของนิยาย
พระเอกกับจอมมารจะกลายเป็นศัตรูกัน สู้กันจนสุดท้ายจอมมารทำลายล้างโลกสำเร็จเหลือไว้แต่พวกพระเอก
และคำพูดสุดท้ายก่อนตายที่ว่า “ในที่สุดก็หลุดพ้น โลกอันฟอนเฟะนี่...
ทำลายให้สิ้น”
นายเอกของเราพบสองตัวละครหลักตอนยังเป็นเด็กน้อย
ก็มุ่งมั่นจะเลี้ยงพวกเขาให้ดี โดยเฉพาะท่านจอมมาร นายเอกจะคอยดูแลสั่งสอนเป็นพิเศษ
เพื่อขจัดปมในใจ และพยายามปกป้องให้พ้นจากความโหดร้าย
(ที่จะทำให้จิตใจอยากทำลายโลก) ให้มากที่สุด... จริง ๆ แล้วอ่านดี ๆ
เราจะพบกับความลำเอียงของนายเอกที่ดูแลท่านจอมารมากกว่า (หลงอาเจวี๋ยคนงาม) อาจจะเพราะท่านจอมมารน้อยเข้าถึงยากกว่าพระเอกที่ซุกซนและตรงไปตรงมา (ท่านจอมมารขี้ระแวง)
แน่นอนค่ะ สุดท้ายนายเอกก็สามารถทำให้ท่านจอมมารเชื่อใจจนถึงขนาดตัวติดแจ
หายหน้าไปนานก็ไม่ได้โดนตามถึงที่พัก
แต่ตัวนายเอกก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองกลายเป็นคนสำคัญของพระเอกอย่างท่านจอมมารอวี้ขนาดไหน
กว่าจะรู้ โลกทั้งใบจะอยู่หรือหายไป ...กลายเป็นขึ้นอยู่กับนายเอก อย่างหลิงเซี่ย
เสียแล้ว (55555555)
ถ้าคุณชอบอ่านแนวนายเอกอายุมากกว่าเลี้ยงพระเอกมาจนโต
(ตำนานการเลี้ยงต้อย) ชอบแนวย้อนยุคแบบยุทธภพ ทะลุมิติ
กับภารกิจเปลี่ยนแปลงชะตากรรม (และมีพระเอกทำอาชีพจอมมาร) สามารถหยิบเรื่องนี้ได้ค่ะ พระเอกตอนเด็กงานดีน่ารัก
ตอนโตก็แซ่บ (แค๊ก ๆ) มากค่ะ (หลิงเซี่ยเป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น!)
คะแนน 8/10
มุมเล็ก ๆ
ก่อนสปอยล์ เราเชื่อว่าหลายคนจะมองว่าแนวเรื่องนี้ คล้ายแนวระบบของเรื่อง
“ตัวร้ายอย่างข้าจะหนีเอาตัวรอดยังไง” (ไว้อ่านจบเล่มสามแล้วจะมาเล่าเรื่องนี้)
เรามองว่าคนเขียนวางแนวต่างกัน
กลรักสกัดครองโลก จะเล่าเป็นเน้นเหตุการณ์ ที่ทำให้ตัวละครอย่างพระเอกนายเอกพัฒนาความสัมพันธ์
มากกว่า ดำเนินเรื่องตาม โครงนิยายที่นายเอกหลุดเข้าไป เราจะเดินไปในเหตุการณ์ต่าง
ๆ พร้อมนายเอกโดยไม่รู้ว่าต่อไปจะทำยังไง และจะเกิดอะไรขึ้น
( หลัง ๆ เหมือนจะหลุด ๆ แต่มาคิดดู เราว่าคนเขียน เขียนเรื่องถึงเป้าหมายของเขาแล้ว จะเล่าความคิดเห็นให้ฟังตรงสปอยล์นะคะ ส่วนตรงตอนจบ
เราชอบนะ ตบจบได้ดี ๆ )
ส่วนตัวร้ายอย่างข้าฯ (เราอ่านไปได้แค่สองเล่ม)
คือเรื่องนี้จะเดินเนื้อเรื่องตามโครงนิยายเดิมที่นายเอกหลุดไปทุกอย่าง ดังนั้น นายเอกจะรู้ว่าจะต้องเจออะไร
แต่คนอ่านกับนายเอกจะไม่รู้เลยว่าควรผ่านโจทย์นั้นไปยังไง นี่เป็นการเล่าของนักเขียนให้เราเดินไปหาคำตอบพร้อมนายเอกที่เป็นคนเล่าเรื่อง
เรามองว่า เป้าหมายของคนเขียนตัวร้ายเหมือนจะคล้ายกลรักฯ
แต่จริง ๆ เราว่ามีต่าง ไว้อ่านจบเราน่าจะจับได้ครบแล้วจะมาเล่าให้ฟังดู สรุป
ทั้งสองเรื่องเราบอกเลยว่าสนุก (แนวเลี้ยงเด็กคือทางของเรา 55555)
และให้รสชาติการอ่านไม่เหมือนกัน เพียงแต่โครงคล้ายกัน
มีจุดที่นักเขียนอยากเล่าทับกันส่วนหนึ่ง (1เป็นเศษของส่วน) เท่านั้น ใครชอบแนวนี้
จับได้ทั้งสอง หรือจะเลือกแบบที่ชอบมากกว่าก็ได้
ส่วนเรา...สนับสนุนทุนเลี้ยงเด็กให้นายเอกทั้งสองเรื่องไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)
เรื่องนี้จุดหมายหลักของเรื่องชัดเจนมาก
ๆ คือ ไม่จบแบบนิยายดั้งเดิม หนึ่ง พระเอกของเรื่องกับท่านจอมมารไม่ตีกัน
สองท่านจอมมารไม่ทำลายล้างโลก สามท่านจอมมารไม่ตาย แล้วนายเอกอย่างหลิงเซี่ย
ควรทำยังไงล่ะ ... ก็ทำให้จอมมารหลงรัก แล้วลืมครองโลกมาครองตัวเองแทนก็จบ
(หลิงเซี่ยไม่ได้กล่าว-นักเขียนก็ไม่ได้กล่าว 55555) ใช่ค่ะ แต่นั้นคือ
ใจความหลักของเรื่องที่นักเขียนเล่า และป้อนเหตุ ให้เกิดผล ที่เปลี่ยนไป
สปอยล์นะคะขอย้ำ เพื่อไม่ให้เสียรสในการอ่าน กดปิดแล้วค่อยกลับมาใหม่ตอนอ่านจบแล้วนะคะ
ตัวแปรต้น 1 นายเอกในร่างตัวประกอบ กลายมาเป็นพี่ชายให้พระเอก
และจอมมาร เขาสั่งสอนเลี้ยงดูทั้งสองอย่างดี
รวมถึงพยายามทำให้ท่านจอมมารไม่มองโลกนี้ในแง่ร้ายด้วย
เราชอบความคิดนายเอกที่ว่าเด็กในตอนนี้ยังไม่ได้มีจิตใจเลวร้าย
ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถึงพยายามดูแลเอาใจใส่ นั่นทำให้เนื้อเรื่องช่วงนี้น่ารัก
และอบอุ่น ไม่แปลกที่ท่านจอมมารยอมรับนายเอก
ให้เข้ามาเป็นคนที่ตัวเองเชื่อใจมากที่สุดได้
ฉากที่ชอบ
นายเอกทำงานเพื่อหาเงินมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เด็ก ๆ และเวลาเกิดปัญหาทีไร
นายเอกจะดึงท่านจอมมารไว้ข้างหลังตัวเอง เพื่อปกป้องเสมอ เราอ่านแล้วยอมใจ
ตัวแปรตาม 1 ความรู้สึกท่านจอมมาร
ที่กลายเป็นเชื่อใจนายเอกทุกอย่าง
นายเอกไม่เคยโกหกเขาดังนั้นนายเอกพูดอะไรเขาจะเชื่อโดยไม่มีเงื่อนไข
เรื่องนี้กลายเป็นดาบสองคม จากตัวแปรที่ 1
คือนายเอกที่กลายมาเป็นคนสำคัญของท่านจอมมาร (พระเอกที่แท้ทรูของเรา) เมื่อนายเอกต้องเหตุต้องตาย
(กลับไปโลกเดิมรอบแรก) ท่านจอมมารก็เชื่อคำนายเอกว่านายเอกไม่ตาย
ตัวเองก็รอนายเอกเป็นสิบปี แต่นายเอกไม่กลับมา เลยทำลายโลก
แต่ครั้งนี้ตอนจบเปลี่ยนแล้วอย่างหนึ่งคือ คำพูดทิ้งท้ายก่อนตายเป็น
“โลกที่ไม่มีเขา ในที่สุดก็ถูกทำลายสิ้นแล้ว...”
คงไม่ต้องบอกว่าเขาคือเราว่าคุณก็รู้ 55555
กลับมาครั้งที่สอง
นายเอกได้กลับมาช่วงท่านจอมมารเป็นวัยรุ่น (ก่อนถึงวัยที่จะเดินสู่วิถีมาร)
นายเอกเลยมาพร้อมกับเป้าหมายเปลี่ยนไม่ให้อาเจวี๋ยของเขาเข้าวิถีมาร และไม่ตาย ส่วนท่านจอมมารก็รู้แล้วว่า
ชีวิตนี้นายเอกคือคนเพียงหนึ่งเดียวที่เขารัก มากกว่าโลกทั้งใบ ! บทเรียนรักก็ได้เริ่มขึ้นที่ช่วงวัยนี้ล่ะค่ะ
(คริคริ)
ในการตายครั้งที่สอง
ตอนจบของนิยายก็เป็น...พระเอกของเรื่องอย่างซ่งเสียวหูเป็นคนเดียวที่รอดบนโลก
เราคิดว่า ท่านจอมมารน่าจะทำตามสัญญาในตอนจบ ver. นี้ เพราะนายเอกบอกเสมอว่า
ให้รักษาความเป็นพี่น้องกับเสี่ยวหู ดังนั้น
เสี่ยวหูจึงเป็นคนนึงที่สำคัญกับนายเอก (รองจากท่านจอมมาร) ตอนจบครั้งนี้
ท่านจอมมารเลยปล่อยรอดคนเดียว
กลับมาครั้งที่สาม
ท่านจอมมารเป็นท่านจอมมารเต็มตัวจริง ๆ แล้ว เรื่องใด ๆ คงไม่กล่าว
ความหวานความฟิน ขอให้ได้อ่านกันเอง
แต่แน่นอน...เข้าสู่การตายจากกันครั้งสุดท้าย...
และนายเอกกลับมาใหม่
โดยทะลุมิติด้วยร่างจริงพร้อมกับความทรงจำที่หายไป...พระเอกอย่างท่านจอมมารเลยปฏิบัติการ
จีบ !!!
ตัวแปรตาม 2 จึงเป็นตอนจบที่ ท่านจอมมารไม่ตีกับพระเอกของนิยาย
(เป็นที่ปรึกษาด้านง้อแฟนให้ซะด้วย) โลกไม่ถูกทำลายเพราะจอมมารสนแต่ภรรยา
และจอมมารจะไม่ตายตราบที่ภรรยายังอยู่! ถึงได้บอก...โลกนี้จะอยู่หรือไป
ขึ้นกับนายเอกล้วน ๆ 555555
ตัวแปรตามที่ 3 พระเอกของนิยายอย่างซ่งเสียวหู่ ... ไม่รู้จะสงสารดีไหม
จากการเลี้ยงดูของนายเอก ทำให้พระเอกของนิยายคนนี้ เดิมที่มีฮาเร็มสาว ๆ
กลายเป็นไม่มีสักคน พระเอกไม่สนใจความรัก (และไม่เข้าใจด้วย ใสกับเรื่องนี้มาก ๆ )
อยากฝึกวิชาให้เก่งในยุทธภพเท่านั้น... ดีนะ ที่สุดท้ายยังมีคู่ แต่พลิกล็อค
ไม่ใช่สาว (ติดเชื้อท่านจอมมารกับพี่หลิน) แถมยังมีลูกให้ชื่นใจคนนึง
เราอ่านถึงตรงนี้ค่อยรู้สึกหายสงสารพระเอก
แต่ก็อดเรียกร้องความเป็นธรรมให้ไม่ได้....ขอบทน้องชายท่านนี้เพิ่มอีกสักสองหน้ากระดาษได้ไหม
อยากรู้ว่าง้อคนรักยังไงอ่ะ อ๊ากกก
เรื่องนี้เราอ่านแล้วสนุกนะ ฉาก NC อยู่สองเล่มหลัง รักกันจนอยากจะบอกว่า
เกรงใจพระเอกอย่างเสี่ยวหูบ้าง (เราเอ็นดูพระเอกท่านนี้จริง ๆ ) ส่วนตัวชอบเล่มแรก
เราชอบช่วงเวลาวัยเด็กที่เจอเรื่องราวต่าง ๆ แล้วนายเอกต้องคอยปกป้องเด็ก ๆ
ทั้งสอง (จะองค์ชายอัปลักษณ์ หรือตัวร้าย ฯ แม้แต่กับปราชญ์กู้บัลลังก์ เราจะชอบช่วงวัยเด็กที่สุด)
มันให้ความรู้สึกลุ้น และอบอุ่นดี แต่ช่วงหลังดีไหม ตอบเลยว่าดี
เพราะเป็นพระเอกบ้างที่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องนายเอก
และเราชอบตอนพิเศษที่นักเขียนเล่าตอนจบอีกแบบ...
ถ้าตัวแปรต้น
อย่างนายเอกกลับมาตอนพระเอกเป็นจอมมารไปแล้วล่ะ? (ไม่ทันจีบกัน ไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์กัน) ตัวแปรตาม
1 อย่างตัวท่านพระเอกจอมมารจะเป็นยังไง ตัวแปรตาม 2
ตอนจบโลกจะถูกทำลายไหม ตัวแปรตาม 3 พระเอกของนิยายจะมีชีวิตแบบไหน
เราชอบนักเขียนที่วางเงื่อนไขแบบนี้ ลองหาไปหาคำตอบกันดูนะคะ
เราให้
8 คะแนน สำหรับเรื่องนี้ หักขนาด front ที่ไม่สม่ำเสมอ
กับตัวเนื้อเรื่อง เราค่อนข้างเสียดายตัวละครหลาย ๆ ตัว น่าจะมีบทบาทได้มากกว่านี้
อุตส่าห์มีพัฒนาการด้านความคิด และอารมณ์ดีขึ้น เสียดายออกกันน้อย
ส่วนที่ว่าเนื้อเรื่องหลุดไหม จากที่ไล่กันมา เราว่าไม่หลุดนะ
เป้าหมายคนเขียนคือต้องการเปลี่ยนตอนจบหัวใจหลักคือ ท่านจอมมาร
เพราะพระเอกท่านนี้เป็นคนกำหนดตอนจบทั้งหมด (ลองกลับขึ้นไปอ่านดู)
เมื่อพระเอกรักนายเอก ตัวแปรสองไม่เกิด เรื่องอื่นก็ตามมา
ครบกระบวน...แต่ถามว่าอะไรจะหลุด คงเป็นหนึ่งในคะแนนที่หักไป
เนื้อหาที่เล่นตามโครงนิยายดั้งเดิมที่นายเอกหลุดมา เล่นได้มากกว่านี้ (รายละเอียดมันหายน่ะ) ...แต่เรื่องมันบรรลุจุดประสงค์ของมันแล้ว เราเลยบอกได้ว่า จบแบบนี้เราก็ยังว่าดี
By ชาแดง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น