ภาพจาก Samsenbook
เจิ้นก็ยังคงสง่าผ่าเผยอย่างนี้แหละ
ผู้แต่ง
ถงจื่อจั้น
ผู้แปล ไช่ฉิง
สำนักพิมพ์ ROSE
PUBLISHING
เรื่องย่อ
“...หลังกลับมาเกิดใหม่เราเลยรู้สึกกลัวอยู่บ้าง
มหาเสนาบดีของเราติดนิสับชอบเขียนจดหมายรักเป็นงานอดิเรก ไม่เพียงชอบเขียน
แต่ยังชอบส่งจดหมายรักพวกนั้นมาให้เราอ่านอีกต่างหาก ส่วนแม่ทัพใหญ่ของเรานั้น
พอมีเวลาว่างหน่อยก็ต้องเข้าวังพร้อมถือของแทนใจชิ้นหนึ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
มาเรียกร้องให่เรารับผิดชอบ แต่น่ากลัวที่สุดก็คือท่านราชครู
กลางค่ำกลางคืนชอบดอดมาที่ห้องบรรทมของเรา แล้วชวนเราถกเรื่อง ศิลปะในห้องหอ
เราว่าโลกนี้ท่าทางจะวิปลาสไปเสียแล้ว โชคดีที่พอกลับมาเกิดใหม่ เราก็ยังคงสง่าผ่าเผยแบบนี้
แต่เตียงบรรทมมังกรของเรามันรับน้ำหนักมาก ๆ ไม่ค่อยได้นะ! ”
พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์
เราทำการทลายไหดองอย่างงง ๆ
เรื่องนี้ซื้อมาไว้นานมาก พอบทจะอ่านก็รวดเดียวจบ
และก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มีธีมหลักอยู่ที่ การหาจุดสิ้นสุดของการย้อนเวลากลับมามีชีวิตซ้ำ
ๆ ของเยียนจี้ นายเอกผู้เป็นหวงตี้ของต้าฉี่ โดยมีคำบอกใบ้ให้เรา
และนายเอกขบคิดเป็นทางออกว่า “ ทุกสิ่งล้วนเกิดด้วยกรรม สำเร็จด้วยใจ
ทำลายด้วยใจ จองจำด้วยใจ เป็นไทด้วยใจ ”
วงจรการย้อนกลับมาชีวิตซ้ำ ๆ
ของเยียนจี้มันเกิดขึ้นในชาติแรก
เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาที่ตายตอนออกไปซื้อของแล้วมาเกิดใหม่ในชาติที่สองเป็นหวงตี้แห่งต้าฉี่
แต่เพราะปกครองบ้านเมืองไม่เป็นสุดท้ายก็โดยต่างเมืองบุกยึด และ
ตายไปท่ามกลางกองเพลิง ชาติที่สามกลับมาใหม่เขาคิดว่าตัวเองพอจะปกครองได้ดีขึ้น แต่กลับไว้ใจคนผิดสุดท้ายโดนวางยาพิษตาย
ชาติที่สี่เขากลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ กลับมาเพื่อการแก้แค้น เขาวางแผนสังหารคนที่หลอกให้เขาไว้ใจในชาติก่อน
และออกรบบุกเก้าแคว้นล้างแค้นเจ้าแคว้นที่เผาทำลายเมืองเขาจนสิ้นในชาติที่ผ่านมาให้ตายด้วยปลายดาบของเขา...
เรื่องเริ่มที่ตรงนี้ค่ะ
หลังชาติที่สี่เยียนจี้แก้แค้นสำเร็จ บ้านเมืองสงบสุขอย่างยิ่ง
แต่ตัวเขาก็กลับป่วย และตายลง เวียนกลับมาในชาติที่ห้า
หลังคิดด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมตนยังกลับมาเกิดอีกทั้ง ๆ ที่บ้านเมืองสงบสุขแล้ว
เขาก็เกิดคิดขึ้นได้ว่าตั้งแต่ชาติแรกจนถึงชาติที่สี่ เขาตายในวันเกิดทั้งสิ้น
ดังนั้นเขาจึงคิดหาวิธีแก้
ชาติที่ห้าเยียนจี้ของเราเปลี่ยนบุคลิกตัวเอง
อาจเพราะก่อนตายเขาฝันเห็นตัวเองในวัยเด็กสมัยยังยิ้มสดใส
มาครั้งนี้เขาจึงผ่อนตัวเองให้กลายเป็นเหมือนยามนั้น ทว่าจิตใจที่เวียนเกิดมาจนอายุจริงเกือบร้อยปีไม่ได้ลดความเจ้าเล่ห์ลงเลย
เมื่อต้องกลับมาเกิดในวัย 16 ปีที่พึ่งนั่งบัลลังก์มังกร เขาก็ยิ้มใสซื่อจัดการวางคนไว้ใจในชาติก่อนมาอยู่ข้างกายทันที
หนึ่งคือท่านราชครู เซี่ยเหวินจั๋ว ชาติก่อนเป็นที่ปรึกษาเคียงข้างเยียนจี้ เป็นคนที่ไว้ใจได้ขนาดที่เขาสามารถยกเมืองให้ดูแล
ขณะที่ตัวเองออกไปรบ และฝากฝังให้หาหวงตี้องค์ใหม่ก่อนตัวเองสิ้นลม
สองคือท่านมหาเสนาบดีฟู่จือหวาย
เพื่อนร่วมซนสมัยเด็ก ซึ่งสองชาติที่บ้านเมืองล่มสลาย
ทิ้งภาพความตายตรึงใจเยียนจี้เอาไว้ แสดงให้เห็นถึงความภักดีไม่เสื่อมคลาย
สามคือแม่ทัพเฮ่อจี่
เทพสงครามที่ออกรบเคียงบ่าเยียนจี้ในชาติก่อนจนสามารถครองเก้าแคว้นได้
สามหนุ่มสามมุมที่มาชาตินี้รุกจีบเยียนจี้กันรัว ๆ คนหนึ่งส่งจดหมายรักทุกวัน (ท่านมหาเสนาฯ)
คนหนึ่งบุกตรง ๆ โดยการมาขอแต่งงานทุกวัน (ท่านแม่ทัพ) และอีกคนทำทีเป็นสอนหนังสือให้ความรู้
แต่กลับแทรกหนังสือ ศิลปะในการร่วมหอมาสอนด้วยทุกคืนที่ห้องนอน! (ท่านราชครู) แล้วแบบนี้เยียนจี้จะรับมือยังไง
ในเมื่อชาติที่แล้วแต่ละคนไม่เคยเป็นแบบนี้ !!
เรื่องเหมือนนายเอกจะตกที่นั่งลำบาก แต่จริง ๆ
สามผู้ท้าชิงต่างหากที่ลำบาก เพราะนายเอกของเราหลังจากเกิดซ้ำ ๆ
ก็ห่างไกลเรื่องความรัก
พอโดนจีบเข้าก็กลับกลายเป็นไม่เข้าใจสิ่งที่ทั้งสามคนต้องการจะสื่อเสียอย่างนั้น
ใครสนใจอ่านก็ทำป้ายไฟโบกทีมตัวเองได้เลยนะคะ แต่พออ่านแล้ว
เราว่าทุกคนที่พลิกดูก็เดาได้เลยแล้วล่ะว่าพระเอกคือใคร
คะแนน 7.5 / 10
พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)
ความประทับใจเรื่องนี้
คือการที่คนเขียนมักจะมีบทย้อนทบทวนตัวเอง และสำนึกในสิ่งที่ผ่าน ๆ มา รวมไปถึงการเล่าปมที่ดูรวบรัด และมีจุดที่เปลี่ยนแปลงไปจากชาติก่อน เพราะเยียนจี้วางตัวเองใหม่
เลยทำให้เหตุการณ์เปลี่ยนก็ทำให้น่าติดตาม แถมยังมีปมปริศนาที่นายเอกเราลืมความทรงจำช่วงหนึ่งในวัยเด็กไป
แถมช่วงเวลานั้นยังเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้สามผู้ท้าชิงตกหลุมรักเขาอีกด้วย!
เนื้อเรื่องหลัก ก็คือ หาสาเหตุที่กลับมาเกิดใหม่
ให้ได้ คำใบ้ก็อย่างที่บอกไว้ตอนต้น “ ทุกสิ่งล้วนเกิดด้วยกรรม สำเร็จด้วยใจ
ทำลายด้วยใจ จองจำด้วยใจ เป็นไทด้วยใจ ”
แล้วอะไรที่ทำให้เยียนจี้กลับมาเกิดวนเป็นลูปกันล่ะ
? ระหว่างที่ต้องหาคำตอบนายเอกของเราก็ต้องแก้ปัญหาเดิมในสถานการณ์ใหม่
(เพราะตัวเขาวางแผนจัดการไม่เหมือนชาติก่อน เหตุหลาย ๆ อย่างจึงเปลี่ยนไป)
รวมถึงเรื่องราวใหม่ ๆ ที่ชาติก่อนไม่มีอย่างเช่น...ความรัก
ปัญหาเดิม 1. กำจัดท่านลุงของเขาที่คิดจะยึดบัลลังก์
ในชาติที่สอง เยียนจี้เล่าว่าเขาไม่เอาไหนเองบ้านเมืองจึงล่มสลาย โดนแคว้นชือฟังเผาทำลาย
แต่ในชาติสามเขาตาย เพราะไว้ใจท่านลุงท่านนี้ที่วางยาพิษเขาในจอกเหล้า ในชาติที่สี่
เขาจึงแก้แค้นโดยสังเวยประชาชนเมืองหนึ่งเพื่อลากท่านลุงลงจากตำแหน่ง
ดังนั้นชาตินี้ เขาจึงเปลี่ยนวิธี เพราะเยียยจี้ไม่ต้องการทำร้ายประชาชนของเขา แผนจึงแยบยลขึ้น ยิ่งมีลูกมือดี อย่างท่านราชครูที่รู้ใจ
คนเจ้าแผนการอย่างมหาเสนาฯ สุดท้ายท่านลุงของเขาก็พบจุดจบที่ดีกว่าเดิมเล็กน้อย...
ปัญหาเดิม 2. ศัตรูคู่แค้นที่บุกทำลายเมืองกันทุกชาติ
เจ้าแคว้นชือฟัง ทว่า มาชาตินี้เจ้าเมืองท่านนี้ก็กลับชาติมาเกิดเช่นกัน
เขามาเพื่อแก้แค้นเยียนจี้ที่เผาทำลายเมืองเขาในชาติที่สี่ แต่สุดท้ายก็โดนเยียนจี้ตบตาว่าตัวเองไม่ได้กลับมาเกิดซ้อนแผนเข้าไป
จนจับอีกฝ่ายได้ ...สิ่งสำคัญที่ทำให้ชนะ
เพราะเจ้าแคว้นคนนี้เหมือนเยียนจี้ชาติที่สี่ เย็นชา คลุ้มคลั่งด้วยความแค้น
เริ่มมองเห็นปัญหาไหมคะ
เยียนจี้กลับมาเกิด เพราะบ้านเมืองโดนทำลาย แล้วต้องการแก้ไข (แก้แค้น) เลยย้อนกลับมา
พอชาติที่สี่เจ้าแคว้นศัตรูเห็นบ้านเมืองตัวเองถูกทำลาย
ก็เลยกลับมาเกิดใหม่เช่นกัน (นายเอกแพ้ไปตั้งสองชาติ) มันคือวงจรของกรรม
ที่ใจจองจำกันเอาไว้ แล้วก็เวียนวายกลับมาแก้แค้นกัน
นายเอกเราเลยพยายามแก้ทุกอย่างโดยพยายามสังหารคนให้น้อยที่สุด เพื่อละจากกรรมให้มากที่สุด
แม้ว่าตำแหน่งที่เขานั่งจะทำได้ยากก็ตาม
ปัญหาใหม่ 1. ความรักครั้งนี้เขาจะมอบใจให้ใครดี ! พออ่านแล้วจริง ๆ ก็รู้เลยนะว่าเนื้อจะโดยใครกิน
(5555) แต่ใจส่วนหนึ่งก็แอบเชียร์ฟู่จือหวายอยู่
เพราะในความทรงจำของเยียนจี้เขาเท่มาก ๆ ตอนยืนหยัดสู้ขณะที่เมืองแตก
แต่มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ก็สองชาตินั้น
นายเอกไม่ได้เลือกพระเอกเข้าวังเพราะเชื่อใจท่านลุง ดังนั้น
เมื่อพระเอกได้เข้าวังในชาติที่สี่ เราว่านายเอกก็หลงชอบตั้งแต่ชาตินั้นแล้ว
เพียงแต่ใจด้านชาด้วยความแค้น เลยกลายเป็นไม่ได้ใส่ใจ แต่พอมาชาติที่ห้า...
“... เยียนจี้ไล่มองดูทีละคนจนไปหยุดอยู่ที่คนชุดขาวที่อยู่ซ้ายมือสุด
คนผู้นั้นยืนก้มศีรษะ ใบหน้าครึ่งหนึ่งถูกบดบังในเงามืดจึงมองไม่ชัด
ส่วนอีกครึ่งอยู่ใต้แสงสลัว เผยให้เห็นใบหน้านุ่มนวลหมดจด
คนผู้นั้นเดิมทีก้มหน้าอยู่ ครั้นสัมผัสถึงสายตาของเยียนจี้ก็เงยศีรษะขึ้น คิ้วเรียวยาว
นัยน์ตาดำขลับลึกล้ำ หางตาขยับไหว แววตาพราวระยับ
เปี่ยมเสน่ห์ตราตรึงใจยากลืมเลือน...ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่านิ้วเยียนจี้ที่จรดอยู่บนหน้าหนังสือนั้น
สั่นเทาขึ้นมา...”
เราอ่านแค่ตอนแรกพบสบตากันครั้งแรกในชาติที่ห้า...ก็ลงเรือเรียบร้อย
คนนี้แล้วล่ะพระเอก เขาเป็นคนที่เข้าใจนายเอกทุกอย่างจริง
ๆ ทั้งนุ่มนวลอ่อนโยน และเจ้าแผนการที่สุด
จนบางทีเราอ่านแล้วอดไม่ได้ที่จะล้อว่าเรื่องนี้ควรชื่อเรื่องว่า เล่ห์กลราชครู
! ถ้าอยากรู้ว่าทำไม
ขอแนะนำให้ไปลองอ่านแผนการจีบนายเอกของเขาดู ! เกิดหลายชาติก็ยังแพ้พระเอกคนนี้จริง ๆ
ปัญหาใหม่ 2. แก้ปัญหามาทั้งหมดขนาดนี้ ...แต่เมื่ออายุใกล้ 24
นายเอกของเราร่างกายก็เริ่มอ่อนแอลงอีกครั้ง ตกลงแล้ว
เขาต้องแก้ปัญหาอย่างไรกันแน่
...ความจริงแล้วปัญหาเรื่องนี้อยู่ที่ตัวเขาเองมาตลอด และตอนที่หมดลม เยียนจี้ก็ได้ย้อนกลับไป...ยังวัยที่ความทรงจำของเขา
ขาดหายไป...
เรื่องนี้พอมาถึงช่วงปัญหาสุดท้าย
ก็ทำเราร้องไห้อยู่เหมือนกัน (เราเป็นคนซึ้งง่าย เอาเป็นมาตรวัดไม่ได้จริง ๆ )
เราชอบการเล่าเรื่องที่รวบรัด การเปิดเรื่องก็น่าสนใจมาก
เพราะเปิดตอนใกล้ตายในชาติที่สี่
และเราก็ชอบตอนจบตอนขยี้ช่วงกำลังจะหมดลม และหาทางลงของผู้ท้าชิงอีกสองคน
7.5 คะแนน
สำหรับเราเนื้อเรื่องสมบูรณ์ตอบโจทย์ปมไหม บอกเลยว่าตอบทั้งหมด
ไม่ได้ปวดตับหรือเหนื่อยในการอ่านเลย ตัวละครมีคำพูดให้เราฉุกคิดไปพร้อมกันทั้งฝั่งตัวร้าย
และตัวดี เนื้อเรื่องหลาย ๆ ท่อนค่อนข้างรวบรัด คล้ายเป็นการสรุปเล่าเรื่องมากกว่า
สิ่งที่ลงรายละเอียดคือเหตุการณ์สำคัญ กับเหตุการณ์ความรัก
โดยรวมแล้วเป็นเรื่องที่ครบเนื้อ แต่อาจจะขาดเครื่องบางอย่างสำหรับเรา
เพ้อเจ้อตัวละคร
(ประกอบและสมทบ)
มีคู่น่ารัก ๆ
ที่อยากอ่านเรื่องเพิ่มอย่างเส้าเหอกงกงผู้ใสซื่อข้างกายนายเอก
กับหลินอิ้นหัวหน้ากรมยุติธรรมที่ขึ้นชื่อว่า
นักโทษคนไหนอยู่ในมือไม่เกินสามวันก็จะต้องพูดความจริงออกมา ! และเรือผีล่องลอย (อีกแล้ว) ของเรา ท่านมหาเสนาฯ
กับท่านแม่ทัพที่อกหักจากนายเอก สองคนนี้เคมีเข้ากันมาก ๆ ที่นักเขียนทิ้งทายไว้มันอดคิดต่อเองไม่ได้จริง
ๆ ! (อ๊ากกกก
ขอเพิ่มมม)
ชาแดง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น