ลิ่วเหยา
ผู้แต่ง
Priest (พีต้า)
ผู้แปล
Bou Ptrn
สำนักพิมพ์
Rose Publishing
เรื่องย่อ
เฉิงเฉียน
ถูกพ่อแม่ขายให้กับหานมู่ชุนที่อ้างว่าเป็นอาจารย์แห่งลัทธิเต๋า หนึ่งคนชราที่ดูเหมือนนักต้มตุ๋นกับหนึ่งเด็กน้อยที่พยายามทำตนให้ไม่ถูกดูแคลนออกเดินทางกลับสำนัก
เด็กชายตัวน้อยไม่เชื่อว่าปลายทางจะเป็นสำนักเต๋าที่แท้จริง
เขาไม่คิดเลยว่าการจากบ้านเกิดมาจนพบแห่งนี้จะกลายเป็นที่พักพิงของตน และ ยังมี ‘ครอบครัว’ อีก 4
คน ที่เขาต้องร่วมผจญทุกข์
ผจญสุขร่วมกัน ณ ฝูเหยา
พื้นที่ความเห็นแบบปลอดสปอยล์
จากงานหนังสือที่กำลังจัดอยู่คาดว่าลิสหนังสือทุกคนคงแน่นเอี้ยด
และคงมีไม่น้อยที่มี ลิ่วเหยา อยู่ในลิส เพราะเดือนนี้เล่มจบได้ออกมาแล้ว
แน่นอนค่ะ เราเก็บเล่ม 3 พร้อม box ที่สวยงามเรียบร้อยแล้ว
ลิ่วเหยา
เป็นเรื่องราวที่เราคิดว่าแกนเรื่องคือ ท่ากระบี่ไม้ประจำสำนักที่สะท้อน ช่วงชีวิตอันไม่แน่นอน
ของมนุษย์ออกมา ผ่านเด็ก ๆ ทั้ง 5 คน รวมไปถึงตัวละครอื่น ๆ
ที่พวกเขาพบเจอตลอดเรื่องด้วย
เรื่องราวดำเนินด้วยเด็กน้อยคนหนึ่งที่กำลังถูกขายให้ชายท่าทางเหมือนนักต้มตุ๋นนาม
หานมู่ชุน ชายชราอ้างว่าตนเป็นอาจารย์ผู้ฝึกเต๋าต้องการรับเขาเป็นศิษย์
ขณะเดินทางในใจ เฉิงเฉียน มีแต่ความคิดแง่ร้ายปลงตกสงสัยในชายชรา
จนกระทั่วจู่ ๆ ฝนตกลงมา ชายชราคนนั้นยืนแขนที่มีแต่กระดูกของตนมาอุ้มเขาไว้
แล้วพยายามให้เสื้อเก่า ๆ ของตนบังฝนให้เขา
ในใจเด็กที่ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่ของเฉิงเฉียนพลันรู้สึกอบอุ่นเป็นครั้งแรก
ถึงขนาดเปลี่ยนความคิดว่าต่อให้ชายชราหลอกตนไปสำนักเถื่อน ตนก็จะไม่โกรธ
การหลบฝนครั้งนี้ทำให้เฉิงเฉียนได้ศิษย์น้องเพิ่มมาอีกคน เป็นเด็กยาจกในวัดร้าง
อาจารย์ของเขาตั้งชื่อให้ว่า หานยวน ทั้งสามออกเดินทางกลับสำนัก ฝูเหยา
ที่นั่น เด็กทั้งสองต้องอ้างปากตาค้าง...เพราะฝูเหยาเป็นสำนักเต๋าที่แท้จริง
เหล่าเด็กน้อยที่ตกระกำลำบากทั้งสองจู่
ๆ มีที่อาศัย มีคนดูแล ต่างตกตะลึง แต่เฉิงเฉียนออกจะเป็นคนถือตัว เก็บอารมณ์เก่ง
เขาจึงทำเป็นไม่ประหลาดใจ อาจารย์พาทั้งสองไปพบ เหยียนเจิงหมิง
ศิษย์พี่ใหญ่ผู้เป็นลูกเศรษฐีท้องถิ่น และเป็นต้นเงินต้นท้องขนาดใหญ่ของสำนักแห่งนี้
เด็กหนุ่มคนนี้ออกจะนุ่มนิ่มงดงาม รักความสวยงาม และรักสบาย
ซ้ายขวาล้อมไปด้วยคนดูแลเอาใจใส่ เฉิงเฉียนเห็นท่าทางไม่เอาไหนของเขา
ก็ไม่ชอบในทันที นอกจากนี้เขายังมีศิษย์พี่สอง หลี่อวิ๋น
ผู้ฉลาดแกมโกงอีกคน โดยรวมแล้วเฉิงเฉียนตัดสินคนเหล่านี้ในคำเดียวว่า ไม่ได้เรื่อง
นอกจากอาจารย์แล้วไม่มีใครที่เขารู้สึกดีด้วยเลย
นี่คือการพบกันแห่งโชคชะตาของเด็ก
ๆ ทั้ง 5 คน...ค่ะ 5 คน
เพราะอยู่ที่นี่ไม่นานเฉิงเฉียนพร้อมกับหลี่อวิ๋นก็มีอันต้องติดตามศิษย์พี่ใหญ่ไปช่วยหานยวน
พวกเขาต้องบุกฝ่าดงปีศาจช่วยน้องสี่ออกมา และได้น้องหญิงเล็ก หานถาน หรือสุ่ยเคิง
ลูกครึ่งปีศาจกลับมาด้วย ...นี่คือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของเหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องที่ต้องจับมือกันออกท่องโลกกว้าง
เป็นที่พักพิงให้กันและกันท่ามกลางภัยร้ายของโลกแห่งเต๋า และมาร
ส่วนเรื่องความรักของเหยียนเจิงหมิงกับเฉิงเฉียนต้องตามเก็บรายละเอียดในเหตุการณ์เลยค่ะ
จะมีสถานการณ์ปลดล็อคความรู้สึกของทั้งคู่เรื่อย ๆ จนกลายเป็นคนสำคัญของกันและกัน
จนถึงตอนที่แม้แต่ความเป็นเซียนก็ไม่อาจพรากพวกเขาได้ เป็นรักซึมลึกที่เราชอบมาก
คะแนน
10/10
พื้นที่ความเห็นแบบสปอยล์ (อย่างละเอียด)
ตอนแรกกลัวอ่านไม่รอด
พออ่านจริงติดหนักมาก แทบจะขังตัวเองไว้บนฝูเหยาไม่ยอมไปเรื่องอื่นต่อเลยค่ะ
เราชอบความสัมพันธ์พี่น้องของเรื่องนี้มาก ๆ เอาใจช่วยตลอดทั้งสามเล่ม ส่วนตัวอ่าน
Guardian ไม่จบ แต่ตอนอ่านคือชอบฉากบู๊ของนักเขียนท่านนี้อยู่แล้ว
เขาเขียนดี พอมาเรื่องลิ่วเหยาก็สร้างฉากลุ้นได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ
เราเล่าไว้ว่า เราคิดว่าแกนเรื่องนี้คือ
ท่ากระบี่ไม้ของฝูเหยาทั้ง 5 ที่สะท้อน ช่วงชีวิตอันไม่แน่นอน
ใช่ไหมคะ ดังนั้นเราจะเล่าปมของเรื่องตามกระบวนท่าทั้ง 5 ให้ฟังค่ะ ดังนั้น ท่านที่ไม่ชอบสปอยล์สามารถปิดจบเพียงเท่านี้ได้เลยค่ะ
ท่าที่หนึ่งเผิงท่องหมื่นหลี่ “เด็กหนุ่มจิตใจฮึกหาญ
มีความทะเยอทะยานขึ้นฟ้าครามไขว่คว้าเดือนดาวหมื่นจั้ง”
ท่าแรกเราคิดว่าเปรียบเหมือนช่วงเวลาวัยเด็กของตัวเอกทั้ง
5 ของเรื่องค่ะ ที่เราเล่าข้างบนนั่นเอง ด้วยความยังเด็ก จิตใจบริสุทธิ์ มีความฝัน
ความซื่อตรง ความไม่เดียงสา คิดว่าจะเป็นเทพเซียนมีพลัง พยายามหาหนทางฝึกฝนตนเอง
หรือบางคนคิดว่ามีเท่านี้ก็เพียงพอจึงละเลยย่อนยาน เหล่านี้คือ เผิงท่องหมื่นหลี่
บุกตะลุยไปข้างหน้าเพื่อเป้าหมาย โดยไม่ได้ยั้งคิดสิ่งใด
ช่วงเวลาในเรื่องเริ่มตั้งแต่พวกเขาพบกัน ฝึกตนบนฝูเหยาอย่างเงียบสงบ
จนกระทั่งอาจารย์พาออกเดินทาง เพื่อเปิดหูเปิดตา
พบปะผู้ฝึกตนคนอื่นที่เกาะมังกรเขียว เหล่าเด็กชาย และทารกหญิง
เดินทางด้วยจิตใจบริสุทธ์คึกคะนองกับความแปลกใหม่รอบกาย ไม่มีทันคิดเลยสักนิดว่าครั้งนี้จะเป็นการออกเดินทางที่ยาวนาน
เพียงลำพังแค่พวกเขา 5 คน
ท่าที่สองเสาะหาทั่วแดน
“ออกเดินทางทั่วทิศ...ความยาวนานและความเจ็บปวดล้วนแฝงอยู่ในท่ากระบี่ไม่วอกแวก”
“...การเสาะหาทั่วแดนของคนทุกรุ่นล้วนเริ่มต้นในช่วงขณะที่ฝังคนรุ่นพ่อลงดินด้วยมือตัวเอง”
เราเข้าใจว่าในชีวิตคนยามมีพ่อแม่อยู่เคียงข้างต่อให้พบความลำบาก ก็ยังมีพ่อแม่
หรือผู้ปกครองปกป้อง แต่เมื่อพวกเขาจากไป
ทางข้างหน้าจึงเป็นหนทางของชีวิตเราอย่างแท้จริง
“...จากนี้ไม่มีใครปกป้องพวกเจ้าอีกแล้ว...ดูแลตัวเอง” นี่คือความจริงค่ะ พอถึงวันนั้น
พวกเราต้องเดินไปบนเส้นทางชีวิตด้วยตัวเราเองทั้งหมด เด็กทั้ง 5 คน ก็เช่นกัน
การเสาะหาทั่วแดนของพวกเขาค่อนข้างกะทันหัน เริ่มต้นช่วงเวลานี้ตั้งแต่เสียอาจารย์ไปจนกระทั่งถึงตอนเจ้าเกาะมังกรเขียวช่วยพวกเขาหนีออกมาจากเกาะในอีก
5 ปีต่อมา คนที่เริ่มต้นแบกรับทุกอย่างคือ เหยียนเจิงหมิงที่ต้องเป็นเจ้าสำนัก
และดูแลน้อง ๆ ไปด้วย เขากับเฉิงเฉียนเริ่มฝึกหนัก
พร้อมกับคิดค้นปรับปรุงกระบวนท่าของสำนัก โดยมีหลี่อวิ๋นช่วยสนับสนุน
และคอยดูแลหานยวนและหานถานให้
พวกเขาฝึกตนเองตลอดเวลาที่อยู่บนเกาะท่ามกลางผู้ฝึกเซียนสำนักอื่นที่ไม่ประสงค์ดี
ต่างก็เป็นกระบี่ปกป้องกันและกันอย่างไม่วอกแวก จนกระทั่งต้องหนีออกจากเกาะ
ท่าที่สามไม่เป็นดังหวัง
“หยั่งรู้ฟ้าดินเป็นเพียงปลอกมดในจักรวาล
แข็งแกร่งเหมือนป้อมปราการก็เป็นเพียงคลื่นซัดหาดทราย”
เราคิดว่าความหมายท่านี้ค่อนข้างตรงตัว
และจริงมากจนหดหู่ เก่งแล้วยังไง เทพเซียน หรือประมุขมารแล้วยังไง
สุดท้ายชีวิตนี้ก็ต้องมีเรื่องให้ผิดหวังอย่างแน่นอน ช่วงเวลาของเด็ก ๆ
ที่เจอเรื่องไม่เป็นดังหวัง คนที่โดนเต็ม ๆ คือพระเอกอย่างเหยียนเจิงหมิง
เขาหวังจะพาน้อง ๆ หนีกลับบ้าน ไม่ก็กลับเขาฝูเหยา
แต่เจ้าเกาะมังกรเขียวบอกเป็นนัยว่ากลับฝูเหยาไม่ได้ ไม่เพียงเท่านี้เขายังพาน้อง
ๆ กลับบ้านไม่ได้ เพราะบ้านเขาไม่มีอยู่อีกแล้ว เรื่องสะเทือนยังไม่กระทบเขามาต่อเนื่อง
เฉิงเฉียนที่ค้ำจุนจิตใจเขามาตลอดต้องจบชีวิตลง
หานยวนถูกมรรคาปีศาจควบคุมร่างสุดท้ายโดดทะเลหนีหายเป็นตายไม่ทราบ
รอบกายเหลือศิษย์น้องสองคน นักพรตเด็กที่ตนต้องปกป้องอีกคน
พระเอกคนนี้มักใจกว้างอ่อนโยน ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นนี่คือความแข็งแกร่งของเขา
แต่สุดท้ายถูกทำลายลงแล้ว เพราะไม่มีอะไรเป็นดังหวังสักอย่าง
ช่วงเวลาไม่เป็นดั่งหวังนี้ เราคิดว่าสิ้นสุดที่ตีนเขาสำนักฝูเหยา ...ที่ ๆ พวกเขา
5 พี่น้องพบกันอีกครั้ง
ท่าที่สี่รุ่งเรืองเสื่อมถอยรุ่งเรื่องตกต่ำ
“ยังคงหนีไม่พ้นชะตาชีวิตอันยาวนานสุดแสน”
ช่วงเวลานี้เริ่มต้นตั้งแต่พวกเขาทั้ง 5
พบกันอีกครั้ง ออกเผชิญหน้ากับโลกของเต๋า
และมารอย่างเปิดเผยหลังจากต้องพากันหนีมาตลอด 100 ปี ความจริงแล้ว
แก่นของเรื่องทั้ง 5 นี้สะท้อนอยู่ในทุกตัวละครเลยจริง ๆ
ในช่วงเวลานี้เราจะเล่ามุมของตัวละครอื่นที่เด่นในรูปอดีตให้ฟัง
บนเขาฝูเหยามีปรมาจารย์ที่เก่งกาจคนหนึ่งนาม ถงหรู เขาเป็นอาจารย์ของหานมู่ชุน
อาจารย์ของเด็ก ๆ ในเวลานั้นใคร ๆ ต่างนับหน้าถือต่างถงหรูมาก
เพราะเขาเก่งขนาดรับมือทัณฑ์สวรรค์ได้ นี่คือช่วงเวลาที่เขารุ่งเรือง
...ต่อมาเพื่อศิษย์ที่เขารัก เขายอมตกต่ำเข้าสู่มรรคาปีศาจ
เปลี่ยนชะตาชีวิตคนรักของเขา และสำนักฝูเหยา และในตอนนี้ด้วยความเก่งกาจ
เขาก็กลายเป็นประมุขของหมู่มาร ...แต่แล้วยังไงล่ะ
สุดท้ายแล้วเวลาอันยาวนานของเขาก็ทำได้เพียงมองคนรักเงียบ ๆ ไม่อาจทำอะไรได้...และนี่คือตัวอย่างคนหนึ่งที่พวกเขาทั้ง
5 คนได้พบเจอ และได้เรียนรู้ว่า แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่พ้นชะตาชีวิตเช่นนี้
ท่าที่ห้าคืนสู่สัตย์จริง
“เหินหาวเป็นตายล้วนไม่แตกต่าง มาจากที่มา ไปยังที่ไปเท่านั้น”
เราเข้าใจว่าคืนการกลับสู่ความเป็นตัวเอง
และยังหมายถึงว่า ใด ๆ ในโลกสุดท้ายสิ้นสุดคือ ความตาย กลับสู่ฟ้าบ้าง กลับสู่ดินบ้าง...จะยึดติดไปทำไม
จะต้องการอำนาจ พลังต่าง ๆ ไปทำไม...
เหยียนเจิงหมิง หลังเขาเปิดตราเจ้าสำนักได้ก็ไม่เคยสูญเสียความเป็นตัวเองอีกเพราะเขารู้ สิ่งใดที่ควรปกป้อง
เฉิงเฉียน
แม้มีชะตาฟ้ารุ่งโรจน์เป็นเทพเซียน กลับละทิ้งมันไป เป็นตัวเขาเองที่เลือกอยู่อย่างอิสระกับคนรัก
หลี่อวิ๋น ที่ขี้ขลาด
เป็นแต่วิชานอกรีต สุดท้ายกลับเป็นตัวเขาหนึ่งเดียวที่กลับมาเกิดเพื่อวิชานี้
และปกปักษ์สำนัก
หานยวน ไม่หนักแน่น
สุดท้ายกลับเลือกที่จะปกป้องพี่น้องของเขาจนจิตใจมุ่งมั่นรวมสองเป็นหนึ่ง
หานถาน ที่เติบโตอย่างไม่มีเคราะห์ภัย
โลกมนุษย์มีพี่ ๆ ดูแลปกป้อง สุดท้ายก็เลือกคืนถิ่น เป็นตัวของเธอเอง
พวกเขาต่างรู้แก่ใจ...ฝูเหยาเดินมรรคามนุษย์
เกิดที่ฝูเหยาย่อมตายที่ฝูเหยา ท้องฟ้า ผืนทะเล หรือพื้นดิน
พวกเขาต่างเชื่อมต่อกัน มีที่กลับไปที่เดียวกันเสมอ
เรื่องนี้จบสมบูรณ์มากจริง ๆ ค่ะ สื่อออกมาดีมาก
แม้แต่เรื่องของลาสบอสก็ไม่พ้นวิถีทั้ง 5 นี้ อ่านแล้วอิ่ม คุ้มค่าจริง ๆ
ที่ได้อ่าน แอบคิดอยู่ว่ากลับไปอ่านคู่กับพันสารท เราจะปลงอย่างสมบูรณ์เลยไหม
(55555) ไม่ต้องห่วงเรื่องรัก ๆ ของพระเอกนายเอกนะคะ โมเม้นมีตลอด
เพียงแต่ถ้าคาดหวังความหวือหวาคง ไม่เป็นดั่งหวังค่ะ (55555)
แต่สามารถรู้ได้โดยนัย (ยิ้มหวาน)
และมีความน่ารักให้ชวนเขินในแบบของเรื่องนี้ทั้งเรื่องเลยค่ะ
10 คะแนน ไม่มีปมอะไรค้าง
นอกจากโครงที่ดีมาก ๆ จนคิดว่ายืดได้ เพิ่มได้อีกเล่มเลยทีเดียว
แนวใครทางใครหาจับจองได้เลยนะคะ ลักษณะการแปลแบบเดียวกับพันสารทค่ะ (คนเดียวกัน) เราก็เชียร์ให้ลองอ่านกันดูนะคะ
เด็ก ๆ น่ารักกก
ชาแดง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น